วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ชาวบ้านเฮ-ครม.ทุบโต๊ะ
ปิดเหมืองทอง
เลิกสัมปทานทั่วประเทศ
ไม่คุ้มลงทุน-ผลกระทบเยอะ
บ.อัคราฯจุกไม่ต่อใบอนุญาต
นายกฯขีดเส้นยืดถึงสิ้นปี'59
สั่งเร่งเยียวยาคนงาน-ปชช.
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพิจารณาการต่อใบอนุญาตเหมืองแร่ทองคำ หลังมีประชาชนที่อยู่รอบพื้นที่ทำเหมืองทองคำ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ มายื่นเรื่องที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียน ทำเนียบฯให้ตรวจสอบการประกอบกิจการของ เหมืองทองคำ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน)
โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ไม่ได้พิจารณาต่อใบอนุญาตการทำเหมืองทองคำ โดยสั่งการไปว่าภายในสิ้นปีนี้ต้องไม่มีการทำเหมืองแร่ทองอีกต่อไปจนกว่าจะชัดเจน และระหว่างนี้ต้องแก้ปัญหาการปรับพื้นที่คืนสภาพ เตรียมหางานให้คนงานอีกว่า 1 พันคน เยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดย 5 หน่วยงาน 4 กระทรวงไปตรวจสอบดำเนินการ
สั่งเยียวยาคนงาน-ดูแลปชช.
“วันนี้ยังไม่ชัดเจน ถ้าไม่เชื่อหน่วยงาน เครื่องไม้เครื่องมือเหล่านี้แล้วจะเชื่อใคร ก็ไม่ต้องเชื่อใครหรืออย่างไร ซึ่งต้องฟังทั้งสองฝ่าย เรื่องผลประโยชน์ที่ผ่านมาก็ต้องดูว่ามีการส่งค่าภาคหลวงเท่าไหร่ เกิดการจ้างงานอีกเท่าไหร่ ที่ผ่านมาพอเพียงหรือยัง กับผลเสียที่เกิดขึ้นมาทั้งเรื่องน้ำ เรื่องดิน เรื่องสารหนัก บางค่าก็สูง บางค่าก็ต่ำ เพราะฉะนั้นอยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรกับมัน ก็ต้องให้เวลาเขาปรับสภาพตรงนี้ ที่จะให้กลับไปสู่ธรรมชาติเหมือนเดิม ซึ่งระหว่างนี้ต้องหางานให้คนงานอีกเป็นพันคน คนที่เสนอโน้นนี่มาจะรับคนงานไปดูแลให้หรือไม่ คนเจ็บป่วยกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องดูแล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมครม. น.ส.สมลักษณ์ หุตานุวัตร อดีตพยานผู้เชี่ยวชาญกรณีเหมืองทองคำพิจิตร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาข้อขัดแย้งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ จากการทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัคราฯ ยื่นหนังสือให้นายกฯตรวจสอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ฉบับที่ 2 ของบริษัทอัคราฯ ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อปี 2550 ระบุ พื้นที่ด้านเหนือของเหมืองทองคำ ของบริษัทใช้น้ำจากแหล่งน้ำใต้ดินระดับตื้น เป็นอ่างเก็บน้ำใต้ดินความจุของน้ำประมาณ1.8-6.3ล้านลูกบาศก์เมตร ถ้าอ่างเก็บน้ำใต้ดินดังกล่าวมีน้ำ ควรนำไปตรวจสอบคุณภาพ ถ้าสะอาดปลอดภัย ควรนำมาช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง แต่ถ้ารายงานอีไอเอดังกล่าวไม่จริง หรือจริงแต่มีไว้ใช้เฉพาะทำเหมืองทองคำ สมควรที่นายกฯจะทบทวนการพิจารณาต่ออายุใบประกอบโลหกรรมและนโยบายเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ เพื่อปกป้องทรัพยากรมีค่าและคุณภาพชีวิตประชาชน
รมว.อุตฯสั่งยุติสัมปทานเหมืองทั่วปท.
ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยหลังประชุมครม.ว่า ที่ประชุมมีมติให้ยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำและประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงคำขอต่ออายุประทานบัตรด้วย โดยกรณีบริษัท อัคราฯ เห็นควรให้ต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมไปจนถึงสิ้นปี 2559 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพนักงาน เพื่อเตรียมการเลิกประกอบกิจการ หลังก่อนหน้านี้มีประชาชนร้องเรียนเข้ามา พร้อมทั้งให้บริษัทเร่งปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ทำเหมืองให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนและบรรเทาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังสิ้นสุดการประกอบกิจการเหมืองแร่และโลหกรรมของบริษัท อัคราฯ
ยันผลตรวจสุขภาพปชช.พบโลหะหนัก
“ช่วงที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่และตรวจสุขภาพของประชาชน พบมีประชาชนจำนวนมากที่มีโลหะหนักอยู่ในร่างกาย ถือว่าเป็นอันตราย และในปัจจุบันเชื่อว่าสำหรับประเทศไทยยังคงไม่มีความจำเป็นมากนัก และปัจจุบันแม้ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจนว่าปัญหาข้อร้องเรียนและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนเกิดจากการทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัคราฯหรือไม่ แต่เพื่อประโยชน์ของสังคมและประชาชนส่วนรวม และแก้ปัญหาความแตกแยกของประชาชนในชุมชน ประกอบกับมีคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำ จึงมีมติยุติสัมปทานเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ”นางอรรชกา กล่าว
และว่า ที่ประชุมยังให้กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับดูแลการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพประชาชน กระทรวงแรงงานดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ นอกจากนี้ จะประสานผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นำเงินพัฒนาท้องถิ่นจำนวน 45 ล้านบาท มาให้การช่วยเหลือพนักงานอีกด้วย
อัคราฯอ้างใบอนุญาตถึงปี71
วันเดียวกัน บริษัท อัคราฯออกแถลงการหลังครม.มีมติให้เหมืองแร่ทองคำชาตรีปิดกิจการภายในสิ้นปี 2559 โดยระบุว่า คำแถลงของรมว.อุตสาหกรรม ให้บริษัทฯหยุดกิจการสร้างความประหลาดใจให้บริษัทฯ เป็นอย่างยิ่ง เพราะบริษัทฯยังคงมีประทานบัตรที่ได้รับอนุญาตอยู่จนถึงปี 2571 ซึ่งบริษัทฯวางแผนทำเหมืองไว้แล้วจนถึงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บริษัทฯ เริ่มดำเนินกิจการ ได้พิสูจน์ให้เห็นมาตลอดว่ากิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชนโดยรอบเหมืองฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีส่วนช่วยสร้างให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่นและต่อประเทศไทยโดยรวม อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะหารือกับที่ปรึกษากฏหมายพิจารณาช่องทางดำเนินการตามกฏหมายที่บริษัทฯสามารถทำได้ต่อไป ทั้งนี้ บริษัท อัคราฯขอยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามกฏหมายและข้อกำหนดทุกอย่างภายใต้การกำกับดูแลของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.)อย่างเคร่งครัดมาตลอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี