สรยุทธเจอดาบสอง
พงส.ส่งฟ้องฉ้อโกง
หมายจับกำนันเซี๊ยะ
หนีคดีบุกรุกที่หลวง
ที่ห้องพิจารณา 912 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีบุกรุกที่ดิน หมายเลขดำ อ.4849/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี๊ยะ อายุ 72 ปี อดีตผู้กว้างขวาง ใน จ.กาญจนบุรี และนางเขมพร ต่างใจเย็น อายุ 49 ปี ภรรยา ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1- 2ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกและยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐในความครอบครองดูแลของรัฐ
ตามฟ้องอัยการโจทก์ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2554 ระบุพฤติการณ์ความผิด สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 29 พ.ย. 2544 - 8 ก.พ. 2545 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสอง ร่วมกันบุกรุกและยึดถือ ครอบครองที่ดินของรัฐ มากกว่า 50 ไร่ ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักงานธนารักษ์ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ใน จ.กาญจนบุรี โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และกองทัพบกมีหน้าที่ดูแลรักษาเพื่อใช้ประโยชน์ในราชการทหารโดยเฉพาะ
รวมทั้ง แผ้วถางป่าและไถปรับพื้นที่ทำถนน สร้างบ้านพักอาศัย บ้านพักคนงาน และคอกปศุสัตว์ ในที่ดินเนื้อที่เกินกว่า 50 ไร่ โดยไม่มีสิทธิ์ และไม่ได้รับอนุญาต ที่หมู่ 2 ต.ช่องด่าน และหมู่ที่ 2ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เหตุเกิดที่หมู่ที่ 2 ต.ช่องด่าน - ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี และที่อื่นเกี่ยวพันกัน จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 , 108 ทวิ และให้จำเลยทั้งสองกับบริวารออกจากที่ดินพิพาทด้วย จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธต่อสู้คดีมาโดยตลอด ไม่มีเจตนาบุกรุกที่ดินพิพาทดังกล่าว
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2558 ให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 17 ปี ศาลลดโทษให้กระทงละ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 11 ปี 4 เดือน จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คดี และได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ เมื่อถึงวันฟังคำพิพากษาศาลอุทรณ์ นายประชาและนางเขมพร จำเลยทั้งสองไม่เดินทางมาศาล
ศาลได้ตรวจสอบการส่งหมายนัดพบว่า นางเขมพร จำเลยที่ 2 ไม่ได้รับหมายศาล พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยที่ 1 ไม่เดินทางมาศาลโดยไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้อง มีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับนายประชา จำเลยที่ 1 และนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีกครั้งในวันที่ 1 ก.ค. นี้ เวลา 09.00น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากคดีนี้แล้วศาลฎีกายังพิพากษาจำคุก 5 ปี นายประชาหรือกำนันเซี๊ยะ กรณีคดีฮั้วประมูล ขัดขวางไม่ให้บริษัทวัสดุเซ็นเตอร์ เข้าเสนอราคาประมูลโครงการก่อสร้าง ปี 2542-2544 แต่จำเลยไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลจึงออกหมายจับให้มารับโทษคดีฮั้วประมูลไว้แล้ว
อีกคดีหนึ่ง พนักงานสอบสวน สน.พญาไท พาตัวนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรชื่อดัง และกก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม บจก.ไร่ส้ม จำกัด น.ส.มณฑา ธีระเดชเจ้าหน้าที่ บจก.ไร่ส้ม และนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาดหรือนางชนาภา บุญโตอดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของบริษัท อสมท.จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกง , ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย และทำลายเอกสารของผู้อื่น พร้อมสำนวนและความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ส่งให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อมีความเห็นสั่งคดี สืบเนื่องจากกรณีบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธ แก้ไขเอกสารและไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลา เป็นผลให้บมจ.อสมท เสียหาย 138,790,000 บาท
ด้าน ทนายความนางพิชชาภา กล่าวว่า ในส่วนของนางพิชชาภา ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการให้พิจารณาแล้ว เนื่องจากคดีนี้เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีอาญา ที่มีคำพิพากษาไปก่อนหน้านี้ และคดีที่ศาลแขวงพระนครเหนือ อีกทั้งพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจดำเนินคดี เพราะนางพิชชาภา เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องรอพนักงานอัยการมีความเห็นต่อไป
ขณะที่นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุมรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่าคดีนี้หลังพนักงานอัยการรับสำนวนแล้ว จะตรวจสำนวนและมีการประชุมคณะทำงานครั้งแรกในวันที่ 25 พค.ม โดยพนักงานอัยการได้นัดให้นายสรยุทธ กับพวกมาฟังคำสั่งในช่วงเช้าวันที่ 2 มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีบริษัท ไร่ส้มฯ ยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาเกินเวลาในรายการ“คุยคุ้ยข่าว”ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อสมท. กว่า 138 ล้านบาทศาลอาญาได้มีพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ.59 ให้จำคุก นางพิชชาภา เป็นเวลา30 ปี ปรับบริษัท ไร่ส้ม เป็นจำนวนเงิน 1.2 แสนบาท จำคุก นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา คนละ20 ปี แต่ทางนำสืบเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก นางพิชชาภา เป็นเวลา20 ปี จำคุกนายสรยุทธและน.ส.มณฑา คนละ 13 ปี 4 เดือน และปรับบริษัท ไร่ส้มฯ เป็นเงิน 8 หมื่นบาท ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำเลยที่ 1,3 และ 4 ซึ่งคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ โดยจำเลยทั้งสามได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์.“
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี