30 พ.ค.59 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณี พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า ดีเอสไอดำเนินการทั้งในส่วนสงฆ์และกฎหมาย ซึ่งในส่วนของกฏหมาย เมื่อศาลได้อนุมัติหมายจับทางดีเอสไอก็ได้ดำเนินการมาโดยตลอด และทำแผนปฏิบัติการสนธิกำลังหน่วยต่างๆ ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในแผนปฏิบัติการได้ขอการสนับสนุนทั้งอุปกรณ์ ยานพาหนะ และสถานที่ ซึ่งมีโดรนและเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยทั้งหมดมีกำหนดรายละเอียดขั้นตอนแผนปฏิบัติการไว้หมดแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าได้มีการประสานกับหน่วยงานต่างๆ ไว้แล้ว
ขณะนี้จัดทำแผนปฏิบัติการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการพิจารณาร่วมกันของคณะทำงานดีเอสไอ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พนักงานอัยการ และที่ปรึกษาคดีมาจากตำรวจหลายหน่วยงาน ซึ่งได้มีการประชุมกันตลอดเวลา แต่ในขั้นตอนการปฏิบัติเราก็ต้องดูความเหมาะสม แต่สถานการณ์ในแต่ละวันจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ ในส่วนการปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย เราก็ดำเนินการอยู่เรื่อยๆ ในการทำแผนปฏิบัติการและดูความพร้อมแต่ละส่วน โดยทุกวันนี้เราดูจากรายงานการสืบสวนและประเมินสถานการณ์ทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ การดำเนินของดีเอสไอตามกฎหมาย โดยจะเข้าจับกุมต้องประเมินสถานการณ์หลายๆ อย่าง เช่น เจ้าหน้าที่จะต้องคำนวณว่าคุ้มหรือไม่ หากเข้าไปในวัดแล้วมีผลกระทบและเกิดความสูญเสียเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ท้ายสุดต้องประเมินสถานการณ์ว่ามีความพร้อมที่จะเข้าดำเนินการตามหมายจับหรือยัง ซึ่งหากมีการประเมินสถานการณ์และพร้อมตามแผนปฏิบัติการแล้ว ก็จะได้ดำเนินการตามแผนที่เราได้วางเอาไว้แล้ว
ส่วนกรณีที่ทางวัดพระธรรมกาย ได้เตรียมการนำอุปกรณ์หรือไม้ไผ่มาป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในวัดได้นั้น อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ขณะนี้ยังระบุว่าเขาต่อต้านก็ยังไม่ได้ เพราะดีเอสไอยังไม่ได้เข้าดำเนินการ
ต่อข้อถามว่า กรณีพระธัมมชโย จะซ้ำรอยกับ นายวิรพล สุขผล อดีตพระภิกษุ หรือหลวงปู่เณรคำ หรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในกระบวนการสอบสวนของดีเอสไอทำครบทุกขั้นตอนแล้ว และมีพยานหลักฐานพร้อม ซึ่งส่งฟ้องศาลไปแล้ว โดยที่ยังไม่ขาดอายุความ ส่วนการจะนำตัวนายวิรพลกลับมาได้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่ระหว่างประเทศปลายทางด้วย
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะสรุปสำนวนคดีพระธัมมชโย ส่งฟ้องศาล โดยที่ไม่ต้องแจ้งข้อกล่าวหานั้น อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในทางคดีสามารถทำได้อยู่แล้ว ตามที่ รมว.ยุติธรรม แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ว่า เมื่อสรุปสำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้นและมีความเห็นคดี พร้อมหมายจับ ก็ส่งพนักงานอัยการเพื่อส่งฟ้องศาล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอพนักงานสรุปสำนวนส่งฟ้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี