การปลูกข้าวในเขตภาคกลางส่วนมากจะปลูกโดยการหว่านน้ำตม โดยใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ 25-30 กก./ไร่ ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ และการบริหารจัดการทั้งปุ๋ยเคมี สารเคมี อีกทั้งยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาโดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โรคแมลงระบาดและข้าวพันธุ์ปน (ข้าวดีดและข้าวเมล็ดแดง) ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจากการจ้างตัดพันธุ์ปน
เกษตรกรจึงหันมาใช้เครื่องปักดำ เพื่อกำจัดข้าวพันธุ์ปนและการระบาดของโรคแมลงได้ระดับหนึ่ง แต่ปัญหาที่ตามมาคือเครื่องปักดำมีต้นทุนสูง (1,200-1,400 บาท/ไร่) และล่าช้าในการจองคิวปักดำ เกษตรกรจึงหันมาปลูกข้าวโดยการหว่านด้วยเครื่องพ่นหว่านเพื่อลดต้นทุนและอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ แต่การปลูกข้าวด้วยเครื่องพ่นหว่าน การดูแลรักษาค่อนข้างลำบาก เพราะต้นข้าวขึ้นไม่เป็นแถวเป็นแนว
กรมการข้าวได้ขอใช้ลิขสิทธิ์เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวรุ่นดัดแปลงสำหรับนาน้ำตม จากบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด กรุงเทพมหานคร นำมาส่งเสริมให้เกษตรกรปรับใช้กับโครงการส่งเสริมการทำนาเชิงอุตสาหกรรมครบวงจรในพื้นที่แปลงใหญ่ ในเขตพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ ประมาณ 8-10 กก./ไร่ สามารถลดค่าเมล็ดพันธุ์ลงได้ไม่ต่ำกว่า 500 บาท/ไร่
นายอาทิตย์ กุคำอู ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การนำเครื่องโรยข้าวงอกมาใช้กับพื้นที่นาแปลงใหญ่ สามารถช่วยลดต้นทุนในเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวลงได้มาก จากเดิมที่ต้องใช้ 25-30 กก./ไร่ แต่เมื่อใช้เครื่องโรยข้าวงอกนี้ ทำให้ใช้เมล็ดพันธุ์ลดลงเหลือเพียง 8-10 กก./ไร่ มีต้นทุนการปลูกอยู่ที่ประมาณ 300 บาท/ไร่ นอกจากนี้ เมื่อจำนวนต้นข้าวน้อยลง ปลูกได้เป็นแถวเป็นแนว ข้าวเจริญเติบโตสม่ำเสมอแตกกอดี ไม่แย่งอาหารกัน ต้นข้าวแข็งแรง การจัดการดูแลรักษา ป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูข้าวก็ทำได้ดีขึ้น การใช้ปุ๋ยและสารเคมีก็ลดลงตามไปด้วย ในกรณีที่ปลูกเป็นแปลงเมล็ดพันธุ์สามารถทำการตรวจพันธุ์ปนและป้องกันกำจัดวัชพืชได้ง่าย
เครื่องโรยข้าวงอกนี้เหมาะสำหรับพื้นที่ชลประทานปลูกแบบนาน้ำตมโดยเฉพาะนาภาคกลาง อีกทั้งยังเหมาะกับรูปแบบการบริหารจัดการนาแปลงใหญ่ที่เกษตรกรรวมตัวกัน พื้นที่ 1,000-3,000 ไร่ กลุ่มละ 1 เครื่อง เพื่อนำไปใช้ในการปลูกข้าวที่ประหยัดเมล็ดพันธุ์ลงได้อย่างมาก
ด้าน นายสนธยา ตรีสุทธิผล ตัวแทนเกษตรกรนาแปลงใหญ่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีการนำเครื่องโรยข้าวงอกมาใช้ เล่าว่า ทางกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ อ.บางปะหัน ได้มีการใช้เครื่องโรยข้าวงอกแทนการหว่านมาตั้งแต่ปี 2558 บนพื้นที่ 600 ไร่
พบว่าสามารถลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์จากเดิมที่ 30 กก./ไร่ เหลือเพียง 10 กก./ไร่ ช่วยลดต้นทุนการผลิตจาก 4,500 บาท/ไร่ เหลือประมาณ 3,000 บาทต่อไร่ ขณะเดียวกันผลผลิตข้าวที่ได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 20%
สำหรับวิธีการใช้เครื่องโรยข้าวงอก ก่อนอื่นต้องเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยนำมาแช่น้ำไว้ 1 คืน และบ่มในที่ร่มต่ออีก 1 วัน เพื่อกระตุ้นให้เมล็ดพันธุ์ข้าวงอกจากนั้นนำไปเทลงในเครื่องโรยข้าวงอก เวลาติดตั้งเครื่องโรยข้าวงอกกับรถไถ เมล็ดข้าวก็จะโรยลงในนาตามรูท่อที่เจาะไว้ ซึ่งเมล็ดข้าวจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ระยะห่างเท่าๆ กัน เรียงเป็นแถวมีระเบียบ เมื่องอกเป็นต้นข้าวก็เป็นกอเช่นเดียวกับการปักดำทั่วไป ข้าวแตกกอได้ดี แต่วิธีการปลูกข้าวด้วยเครื่องโรยข้าวงอกนี้ ใช้แรงงานคนเพียงคนเดียวเท่านั้น โดยภายในครึ่งชั่วโมงสามารถปลูกข้าวได้ถึง 5 ไร่ ประหยัดทั้งแรงงานและเมล็ดพันธุ์
หากกลุ่มเกษตรกรที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยข้าวหรือศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือที่กรมการข้าว เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน สร้างรายได้และความมั่นคงในอาชีพกระดูกสันหลังของชาติต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี