6 มิ.ย.59 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีมีผู้พบนมโรงเรียนไปวางขายในประเทศกัมพูชา ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงไปแล้ว ซึ่งวันที่ 10 มิ.ย.นี้ จะทราบผล โดยตนกำชับให้คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) ดำเนินการเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

"อย่างไรก็ตาม พบการกระทำผิด มีการฝ่าฝืน ให้มิลค์บอร์ดดำเนินการตามหลักเกณฑ์ คือ การตัดสิทธิ์ ทำอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นนโยบายผมเองด้วย อยากให้นมโรงเรียนมีมาตรฐานที่ดี โปร่งใส ตลอดห่วงโซ่ตั้งแต่เริ่มผลิต สัดส่วนโควตา พิจารณาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ให้เด็กได้ดื่มนมช่วงเวลาที่เหมาะสม มีที่เก็บรักษาที่ดี การตรวจสอบให้ความเข้มข้นมากขึ้น ป้องกันงบประมาณรั่วไหล" รมว.เกษตรฯ

ด้าน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นหนังสือชี้แจงรายละเอียดการส่งนมโรงเรียนไปขายประเทศกัมพูชา จาก นายอำนวย ทงก๊ก ประธานกรรมการกลุ่ม สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด แต่อย่างไรก็ตาม ตราสัญลักษณ์นมโรงเรียนก็ห้ามจำหน่ายทั้งใน และห้ามส่งออกไปนอกประเทศ และต้องดูกฎหมายอื่นด้วยว่า ตรานมโรงเรียนส่งออกได้อย่างไร โดยเฉพาะกรมศุลกากร ว่ามีความผิดกฎหมายเกี่ยวข้องในการส่งออกด้วยอย่างไร

ทั้งนี้ การทำฝ่าฝืนในหลักเกณฑ์ ต้องตัดสิทธิ์โควตาร้อยละ 5 ในส่วนรายละเอียดข้อเท็จจริง มอบหมายให้ นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซือ รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ ในฐานนะคณะอนุกรรมการสอบสวนความผิด ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตามคำสั่งของ รมว.เกษตรฯ โดยวันที่ 10 มิ.ย.จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเข้าที่ประชุมมิลค์บอร์ด

นอกจากนี้ นายธีรภัทร กล่าวต่อว่า ภาคการศึกษาปี 58 มีนักเรียนทั่วประเทศ 7.6 ล้านคน ได้รับนมแจกฟรีตามโครงการนมโรงเรียน มาปีการศึกษา 59/1 เด็กนักเรียนลดจำนวนลงเหลือ 7.4 ล้านคน โดยผู้ประกอบทุกแห่งถูกปรับลดโควตาลงหมด และมาเฉลี่ยกัน ตามสัดส่วนการผลิตน้ำดิบที่เข้าโครงการนมโรงเรียน 1.2 พันตันต่อวัน สำหรับกรณีที่ จ.ขอนแก่น เด็กนักเรียนอาเจียนหลังรับประทานนมโรงเรียน อยู่ระหว่างการรอผลตรวจทางแล็ป ถ้าต้นเหตุมาจากนมโรงเรียน จะพิจารณาลดสิทธิ์ผู้ประกอบการ