นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ความแปรปรวนของอุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณน้ำฝน และฤดูกาล อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งแม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยจนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว แต่ก็จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติต่างๆ ทั้ง แผ่นดินไหว พายุ น้ำท่วม และภัยแล้ง โดยเฉพาะกรมชลประทานที่ต้องมีความพร้อมในการป้องกันและบรรเทาผลกระทบให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ด้านการสร้างความมั่นคงน้ำภาคการผลิตของรัฐบาล โดยเฉพาะแหล่งกักเก็บน้ำทั้งที่มีอยู่แล้วและที่กำลังจะก่อสร้างหรือปรับปรุงขึ้นมาใหม่จะต้องมีความมั่นคง ปลอดภัย สามารถรองรับภัยธรรมชาติดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในความมั่นคงแข็งแรงของแหล่งกักเก็บน้ำ โดยเฉพาะเขื่อนทั้งที่กำลังจะก่อสร้างและที่เปิดดำเนินการแล้วในพื้นที่เสี่ยง กรมชลประทานจึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงานวิชาการความปลอดภัยเขื่อนขึ้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่หอประชุมชูชาติ กำภู สถาบันพัฒนาการชลประทาน กรมชลประทาน

“การจัดงานครั้งนี้ นอกจากจะสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยจากเขื่อนว่าจะสามารถรองรับภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้นในอนาคตได้แล้ว ยังเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการก่อสร้าง การบำรุงรักษาเขื่อน ตลอดจนเครื่องมือวัดพฤติกรรมเขื่อนและเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ผู้ร่วมงานศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้ รวมทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์ในการประสานความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องอีกด้วย”

ดร.สมเกียรติกล่าวต่อว่า การจัดงานวิชาการครั้งนี้มีทั้งรูปแบบบูธและบอร์ดนิทรรศการ ที่แสดงถึงกระบวนการดำเนินงานและนวัตกรรมใหม่ๆ ในการปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบเขื่อน นอกจากนี้ยังมีการประชุมวิชาการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยเขื่อน และการเสวนาหัวข้อ “วิกฤติน้ำกับความปลอดภัยเขื่อน” ซึ่งมีหัวข้อสำคัญในการเสวนา อาทิ การเปลี่ยนแปลงธรรมชาติและภูมิอากาศ ความรุนแรงของแผ่นดินไหวในปัจจุบัน การตรวจสภาพเขื่อนด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ยุทธศาสตร์การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติและความพร้อมกับการนำไปสู่การปฏิบัติกรณีฉุกเฉินสำหรับชุมชนเมื่อเกิดพิบัติของเขื่อน