นายอนันต์ ปรีชาวุฒิวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี กรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานมีความสนใจทำการศึกษาความเป็นไปได้โครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ซึ่งสถาบันวิจัยนิเทศศาสนคุณ และกรมทหารราบที่ 6 ได้ทดลองดำเนินการประสบผลสำเร็จมาแล้วที่บริเวณบ้านหนองปลาดุก ตำบลเก่าขาม อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทานและที่ประสบปัญหาภัยแล้งทุกปี ในขณะเดียวกันในช่วงฤดูน้ำหลากก็ประสบปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำมีลำห้วยหลายสายไหลผ่าน
สำหรับการจัดทำธนาคารน้ำใต้ดินนั้น มีหลักการง่ายๆ คือ ขุดสระหรือบ่อลึกเพื่อให้น้ำขังและซึมลงสู่ใต้ดิน เป็นน้ำบาดาลและจะถูกสูบมาใช้เมื่อยามหน้าแล้ง ซึ่งที่บ้านหนองปลาดุกได้มีการขุดสระเพื่อเก็บน้ำในฤดูน้ำหลากช่วงต้นปีจำนวน 11 บ่อ โดยขุดให้ลึกถึงชั้นหินอุ้มน้ำที่ระดับ 5-10 เมตร ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ กระจายตามจุดรับน้ำของลำห้วยสายต่างๆ ซึ่งราษฎรที่อยู่ภายในรัศมีประมาณ 8 กิโลเมตรของสระเก็บน้ำจะสามารถสูบน้ำไปใช้ได้
“ในหน้าแล้งที่ผ่านมาชาวบ้านบริเวณนี้ไม่ประสบปัญหาภัยแล้ง และยังมีน้ำเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกด้วย
จึงนับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำนอกเขตชลประทานและเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในเรื่องการจัดหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมด้วย” นายอนันต์กล่าว
ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี กล่าวในตอนท้ายว่า โครงการธนาคารน้ำใต้ดินที่อำเภอ น้ำยืน เป็นโมเดลที่กรมชลประทานสนใจและมองว่าสามารถแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้จริง แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องมีการศึกษาวิธีการทางเทคนิคต่างๆ อย่างลึกซึ้ง อีกทั้งศึกษาเพิ่มเติมให้ครบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านธรณีวิทยา วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น เพื่อจะนำไปพัฒนาต่อยอดได้อย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี