นายสุวิทย์ กลัดอินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงที่เกษตรกรมีความต้องการใช้ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรค่อนข้างสูง เนื่องจากเข้าสู่ฤดูเพาะปลูกทำให้มีพ่อค้าฉวยโอกาสนำรถเร่ออกตระเวนขายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรไปตามหมู่บ้านต่างๆ โดยมีการติดต่อผ่านตัวแทนในหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน หรือขายให้เกษตรกรโดยตรง ประชาสัมพันธ์ผ่านเครื่องกระจายเสียงประจำหมู่บ้านเพื่อโฆษณาขายปัจจัยการผลิตที่กล่าวอ้างว่าเป็นปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ หากมีเกษตรกรสนใจสินค้าก็จะจดรายชื่อไว้ บางครั้งมีการเรียกเก็บค่ามัดจำล่วงหน้าจำนวนหนึ่งแล้วค่อยนัดส่งสินค้าทีหลังทั้งยังมีโปรโมชั่นลดราคาให้สินเชื่อแล้วให้เกษตรกรผ่อนจ่ายภายหลัง พร้อมมีของแจกของแถม เช่น พัดลม หม้อหุงข้าว เตารีด เครื่องเล่นซีดี และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น เพื่อดึงดูดใจลูกค้าซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย ขายโดยไม่มีใบอนุญาต หรือขายนอกสถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาต

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สารวัตรเกษตรประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา ติดตามตรวจสอบขบวนการรถเร่ขายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรภายในจังหวัด รวมทั้งเข้มงวดในการตรวจสอบร้านค้า สหกรณ์ที่เป็นจุดกระจายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรขนาดใหญ่เป็นพิเศษ พร้อมขอความร่วมมือผู้นำชุมชน สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยกันตรวจสอบและแจ้งเบาะแสเมื่อพบผู้กระทำผิดกฎหมายมายังศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้แก่เกษตรกรไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้า ได้ใช้ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรได้ใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐานในราคาที่เป็นธรรมภายใต้ “โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อปัจจัยการผลิตทางการเกษตร”

“ขอให้เกษตรกรอย่าหลงเชื่อและต้องระมัดระวังในการซื้อปัจจัยการผลิตทางการเกษตรจากพ่อค้าเร่ โดยต้องคิดให้ถ้วนถี่ก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะอาจได้รับปุ๋ย สารเคมี หรือเมล็ดพันธุ์ที่ด้อยคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อนำไปใช้อาจไม่ได้ผลหรือไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ควรซื้อจากร้านจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ Q shop หรือร้านที่มีเครื่องหมาย ร้านปัจจัยการผลิตคุณภาพประชารัฐ แสดงอยู่ที่หน้าร้านเท่านั้น” นายสุวิทย์ กล่าวย้ำ