นายธีรพล ขุนเมือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงานในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พลเอกศิริชัยดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้จัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านแรงงานเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีด้วย โดยยุทธศาสตร์ดังกล่าวประกอบด้วยกรอบการดำเนินงานย่อยทั้งหมด 4 ช่วง (ช่วงละ 5 ปี) คือ ช่วงที่ 1 (พ.ศ.2561-2565) มีเป้าหมายที่จะสร้างกำลังคนของประเทศให้เป็น “Productive Manpower” คือ เป็นกำลังคนที่มีประสิทธิภาพผ่านการสร้างระบบและรากฐานการดำเนินงานด้านแรงงานที่มีความยั่งยืนและเป็นมาตรฐานสากล และมุ่งเน้นที่จะขจัดอุปสรรคต่างๆ ด้านแรงงานให้หมดสิ้นไป ไม่ว่าจะเป็นสิทธิความไม่เท่าเทียม สภาพการทำงาน และกรอบกฎหมายที่ล้าสมัย รวมถึงเตรียมความพร้อมให้แก่แรงงานทั้งด้านความรู้ ทักษะฝีมือ และทัศนคติ เพื่อให้แรงงานมีความพร้อมต่อความท้าทายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การจ้างงานแบบไร้พรมแดน สังคมพหุวัฒนธรรม การทำงานในยุคดิจิตัล และพร้อมที่จะรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะต่อไป ในช่วงที่ 2 (พ.ศ. 2566-2570) มีเป้าหมายที่จะสร้างกำลังแรงงานที่มีนวัตกรรม หรือ “Innovative Workforce” เพื่อให้แรงงานมีผลิตภาพที่สูงขึ้นและเป็นพลเมืองของโลก (Global citizen) สอดคล้องกับรูปแบบของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่เป็น New Engine of Growth เพื่อให้สอดรับกับโครงสร้างประเทศไทย 4.0 นอกจากนี้ การเตรียมความพร้อมด้านแรงงานเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุจะต้องเป็นรูปธรรมและครบวงจร ครอบคลุมทั้งเรื่องตำแหน่งงานสภาพแวดล้อมการทำงาน และสวัสดิการ สำหรับช่วงที่ 3 (พ.ศ. 2571-2575) กำลังแรงงานจะต้องเป็นกำลังแรงงานที่มีความคิดสร้างสรรค์หรือ “Creative Workforce” มีทักษะ R&D ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่การทำงาน และแรงงานไทยทุกคนจะต้องมีงานทำที่มีคุณค่าสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในเรื่องงานที่มีคุณค่า (decent work for all) ของสหประชาชาติ และช่วงที่ 4 (พ.ศ. 2576-2580) กำลังแรงงานของไทยจะต้องเรียกได้ว่าเป็น “Brainpower” เพื่อสร้างสังคมการทำงานแห่งปัญญา คือ ใช้ความรู้ ความสามารถและสติปัญญาในการทำงานที่มูลค่าสูง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้กำหนดแนวทางเพื่อให้ยุทธศาสตร์นี้สามารถสนองตอบความต้องการของตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิผล ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพโดยกระบวนการต่อไปจะได้เชิญทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ สภาอุตสาหกรรมสภาหอการค้า ฯลฯ ได้มาร่วมระดมความคิดเห็นกันอีกครั้งเพื่อนำไปปรับปรุงให้การพัฒนากำลังคนของประเทศสามารถบูรณาการทำงานร่วมกันสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี