นายจำนง พร้อมมูล นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สถานีพัฒนาที่ดินสงขลา เปิดเผยว่า นอกจากดินแล้ว น้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญในการทำเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานที่เกษตรกรต้องพึ่งพาน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งพื้นที่ ต.เกาสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา เป็นอีกหนึ่งพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานและไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำฝน ทำให้ในฤดูแล้งไม่มีน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก สถานีพัฒนาที่ดินสงขลา จึงดำเนินการขุดสระน้ำขนาดความจุ 194,700 ลูกบาศก์เมตร พร้อมกับปรับปรุงพื้นที่และทำระบบท่อส่งน้ำในไร่นาและลานอเนกประสงค์ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และมีการเปิดศูนย์เรียนรู้การพัฒนาที่ดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งได้รับประโยชน์ทั้งเกษตรกรในพื้นที่และขยายผลไปยังเกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายโกศล จันทรจิตร ประธานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง อ.เทพา จ.สงขลา กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรในชุมชนสามารถประกอบอาชีพสร้างรายได้ได้ตลอดปี ทำการเกษตรได้หลากหลายยิ่งขึ้น อีกทั้งมีการตั้งศูนย์เรียนรู้การพัฒนาที่ดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้เกษตรกรในชุมชนและต่างพื้นที่มาเรียนรู้การทำเกษตรแบบพึ่งพาตนเอง เช่น ผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ในกลุ่มยังมีการปลูกพืชผักสวนครัวหลากหลายชนิดตามความต้องการของตลาด เพื่อนำไปจำหน่ายเป็นพืชผักปลอดสารพิษ มีการเลี้ยงปลาและไก่ไข่ ช่วยกันปลูก ช่วยกันดูแล เมื่อจำหน่ายผลผลิตได้ จะนำรายได้เข้ากลุ่มแล้วปันผลให้กับสมาชิกต่อไป