วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แฉคนต่างถิ่นรุมฮุบบึงกะโล่
วอนผวจ.อุตรดิตถ์เร่งสำรวจ
นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.เปิดเผย เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ว่า ล่าสุด ตนได้ลงนามในประกาศคำสั่งเพิ่ม พร้อมแผนที่แนบท้ายเพื่อชี้เป้าพื้นที่เป้าหมาย กรณีผู้ถือครองรายใหญ่เกิน 500 ไร่ ทั้ง 427 แปลง ใน 25 จังหวัด เรียบร้อยแล้วและดีเดย์เริ่มรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พร้อมยึดคืนที่ดิน ล็อตแรกวันที่ 31กรกฎาคมนั้น
อย่างไรก็ตาม หลังดำเนินการกับกลุ่มแรกแล้วจากนั้นทาง สปก.จะเร่งรัดทวงคืนที่ดินที่รัฐจัดสรรให้เกษตรกรแล้ว แต่มีนายทุนครอบครองเกิน 100ไร่ต่อและเบื้องต้น ส.ป.ก.ได้ตรวจสอบที่ดินในลักษณะดังกล่าวจากภาพถ่ายทางอากาศ ใน 66จังหวัด ตั้งแต่ปี2555 จนถึงปัจจุบัน ทั้งหมด 2หมื่น 6พันแปลง เนื้อที่ 3 แสน 7หมื่นไร่พบว่า พื้นที่ที่คาดว่าจะผิดไปจากสภาพเดิม มี 1หมื่น 1พัน 800แปลง ซึ่งมีหลักฐานเบื้องต้นเชื่อว่ามีการเปลี่ยนผู้ครอบครองและมีสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้น จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบย้อนกลับไปถึงนายทุนที่กว้านซื้อที่ดิน หากครอบครองเกิน 100ไร่ ก็จะให้ใช้มาตรา 44 เข้าไปดำเนินการทันที ทั้งนี้หากพบว่ามีการแบ่งซอยพื้นที่ ก็จะจัดทำแผนที่เพื่อชี้เป้าพื้นที่ที่มีปัญหาและให้ตรวจสอบไปถึงต้นขั้วการเสียภาษีที่ดินด้วย โดยตั้งเป้าจะออกประกาศคำสั่งและแผนที่แนบท้ายกรณีนี้ ให้เสร็จสิ้นภายในกลางเดือนสิงหาคมนี้ด้วย
วันเดียวกัน นายสมศักดิ์ หอมเพียร กำนัน ต.ป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า จากการสำรวจการบุกรุกในบึงกะโล่ ต.ป่าเซ่า ต.คุ้งตะเภา นอกจากจะมีผู้ที่พยายามยื่นขอเอาสารสิทธิ 65 ราย ผู้สมควรได้รับการจัดสรรที่ดิน ของ ส.ป.ก. ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้มีฐานะยากจนไม่มีที่ดินทำกิน 7 รายแล้ว ยังพบว่าประชาชนที่อยู่นอกพื้นที่ของ 2 ตำบลเข้าทำการบุกรุกพื้นที่บริเวณภายในบึงกะโล่อีก 50 ราย รวมเป็นทั้งหมด 122 ราย เพราะเห็นว่าส่วนราชการสามารถบุกรุกเข้าทำประโยชน์ได้ ก็เข้าไปยึดครองทั้งในส่วนของบึงกะโล่และรอบบึงกะโล่เป็นที่ดินส่วนที่เหลือจากพื้นที่ใช้ประโยชน์ของส่วนราชการข้างต้น
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ผู้บุกรุกส่วนใหญ่จะเข้าไปทำการเกษตร โดยกันพื้นที่เป็นส่วนตัวห้ามคนภายนอกเข้าไปทำมาหากิน ที่สำคัญชาวบ้านที่เคยหาปลา เก็บผัก เลี้ยงสัตว์ เข้าไปในพื้นที่กลับถูกไล่ออกมา มีประชาชนกลุ่มหนึ่งพยายามขัดขวางและร้องคัดค้านการเข้าไปยึดครองของหน่วยงานราชการและประชาชนนอกพื้นที่ เพราะต้องการนำพื้นที่แหล่งนี้ไว้หากินในช่วงอายุของพวกเขาเอง และให้ตกไปสู่คนรุ่นลูกหลานให้ใช้ประโยชน์ต่อๆ กันไป แต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากถูกหน่วยงานตัดสินให้ว่า ครอบครองโดยความชอบธรรมทั้งที่เป็นคนที่มาภายหลังและไม่เคยเข้ามาปกป้องหรือให้ประโยชน์กับพื้นที่แหล่งนี้เลย
“ประชาชนใน ต.ป่าเซ่า ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการอนุรักษ์ไว้ให้ใช้ประโยชน์ร่วมกันเหมือนกับที่ผ่านมา ต้องการให้ยกเลิกพื้นที่จาก ส.ป.ก.เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ เพราะหากยังอยู่ในความรับผิดชอบของ ส.ป.ก.เกรงว่า บึงกะโล่จะถูกจัดสรรไปเป็นที่ดินของนายทุนและคนนอกพื้นที่ ต.คุ้งตะเภา และ ต.ป่าเซ่า ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินและยากจนจริงจะไม่มีโอกาสได้ที่ดินไปทำมาหากินอย่างแท้จริง เพราะไม่มีความสามารถเข้าไปบุกรุก อยากให้นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการ จ.อุตรดิตถ์ ออกมาดูแลเพื่อให้พื้นที่แหล่งนี้เพื่อสวนรวมตัวไป” นายสมศํกดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า สิ่งที่ ส.ป.ก.อุตรดิตถ์ จะต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือ การสำรวจแนวเขตที่ถูกต้องของบึงกะโล่ให้ชัดเจน เพราะปี 2536 มีการสร้างถนนรอบบึงแต่การสร้างถนนนั้นเป็นการสร้างภายในบึง แต่แนวเขตบึงกะโล่จริงๆ อยู่นอกเขตถนนรอบบึง เมื่อประชาชนเข้าใจว่าเขตบึงกะโล่คือแนวของถนนรอบบึง พื้นที่นอกถนนจึงมีการบุกรุกของประชาชนดังกล่าว แนวเขตของบึงกะโล่ที่ถูกต้องทำไม่อยาก เพราะบริเวณโดยรอบนั้นเป็นที่ดินของประชาชนที่มีโฉนดเมื่อนำมาแทบก็จะกำหนดได้ทันทีว่าแนวของบึงกะโล่อยู่ตรงจุดไหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี