นางสนิทพิมพ์ สิมมาทัน ผู้อำนวยการกลุ่มถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 (สวพ.3) กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า สวพ.3 รับผิดชอบการตรวจรับรองแหล่งผลิต GAP พืชในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 11 จังหวัด มีแปลงจดทะเบียน 11,480 แปลง พื้นที่ 42,118.41 ไร่ ได้รับการรับรองแหล่งผลิต GAP พืช 10,774 แปลง คิดเป็นพื้นที่ 39,425.42 ไร่ รวม 23 ชนิดพืช อาทิ ลำไย หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดฝักอ่อน ส้มโอ ลิ้นจี่ และพืชอื่นๆ

นางสาวชุลีกร ลีโนนลาน นักวิชาการปฏิบัติการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2559 สวพ.3 ได้ดำเนินการตรวจรับรองแปลง GAP พืชอย่างเข้มข้นมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในด้านความปลอดภัยและคุณภาพของผลผลิต โดยเฉพาะการสุ่มตัวอย่างพืชเพื่อวิเคราะห์สารพิษตกค้าง 48 ชนิดพืช 479 ตัวอย่าง ในห้องปฏิบัติการของ สวพ.3 โดยเก็บตัวอย่างจากแปลงใหม่ 21 ชนิดพืช 289 ตัวอย่าง พบสารพิษตกค้างเกินค่าความปลอดภัยในแปลงใหม่ 3 ชนิดพืช 4 ตัวอย่าง ได้แก่ คะน้า ผักกาดหอม พริก ซึ่งแปลงดังกล่าวไม่ผ่านการรับรองและไม่ได้รับใบรับรอง Q จากกรมวิชาการเกษตร ส่วนแปลงต่ออายุและแปลงตรวจติดตาม สุ่มตัวอย่าง 27 ชนิดพืช 190 ตัวอย่าง ไม่พบสารพิษตกค้างเกินค่าความปลอดภัย แสดงว่าเกษตรกรที่ได้รับการรับรองแหล่งผลิต GAP พืชแล้ว ยังคงรักษามาตรฐานตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยไว้ได้ทุกราย

นอกจากนี้ ยังสุ่มตัวอย่างวิเคราะห์หาจุลินทรีย์ปนเปื้อน 31 ชนิดพืช 133 ตัวอย่าง แบ่งแปลงใหม่ 28 ชนิดพืช 99 ตัวอย่าง พบการปนเปื้อนจุลินทรีย์ E. coli เกินค่าความปลอดภัย 7 ชนิดพืช 17 ตัวอย่าง เช่น กวางตุ้ง ผักบุ้ง ผักชี สะระแหน่ และพบการปนเปื้อนจุลินทรีย์ Salmonella spp.จำนวน 4 ชนิดพืช 4 ตัวอย่าง ซึ่งแปลงเหล่านี้ไม่ผ่านการรับรองและไม่ได้รับใบ Q จากกรมวิชาการเกษตรเช่นกัน ขณะที่แปลงเก่าต่ออายุสุ่มตัวอย่าง 13 ชนิดพืช 43 ตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ Salmonella spp. แต่พบการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ E. coli เกินค่าความปลอดภัย 4 ชนิดพืช 6 ตัวอย่าง ซึ่งมีการแจ้งข้อบกพร่องให้เกษตรกรหาแนวทางแก้ไข และสุ่มตัวอย่างซ้ำ หากยังพบการปนเปื้อนจะยกเลิกแปลงรับรอง GAP และขอใบ Q คืนจากเกษตรกร ตามมติคณะกรรมการรับรองมาตรฐานการผลิตพืชต่อไป