วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
9 ก.ย. 59 พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนาพื้นที่ ส.ป.ก. ที่ยึดคืนจากการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ณ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่าที่ผ่านมา ส.ป.ก. ได้ดำเนินการปฎิบัติการในการยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก. ที่ครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ภายใต้คำสั่ง หน.คสช. ที่ 36/2559 ลงวันที่ 5 ก.ค. 59อย่างเคร่งครัด โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้ประชุมกับส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนการปฏิบัติการ 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นการเตรียมการ 2) ขั้นการแจ้งเตือน 3) ขั้นการยึดและการรื้อถอน 4) ขั้นการปรับปรุงพัฒนาที่ดิน และ 5) ขั้นการจัดสรรที่ดินให้เกษตรกร
ทั้งนี้ล่าสุดการดำเนินงานในพื้นที่บางส่วนอยู่ในขั้นการยึด/การรื้อถอน และการปรับปรุงพัฒนาที่ดิน ซึ่งในกรณีที่แปลงไม่มีผู้คัดค้านทั้งแปลง สามารถยึดคืนได้ทันที 28 แปลง เนื้อที่ 27,874 ไร่ ใน 6 จังหวัด โดยในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มีพื้นที่ที่ไม่มีผู้คัดค้านทั้ง 4 แปลง เนื้อที่ 3,326 ไร่ ทั้งนี้ นางเพียงใจ หาญพาณิชย์ ได้แสดงเจตจำนงคืนที่ดิน ส.ป.ก. ใน จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ 1,263 ไร่ แล้ว ซึ่งได้มีการบูรณาการพื้นที่ โดยกรมพัฒนาที่ดิน จะเข้ามาปรับปรุงดินให้เหมาะสมมากขึ้น กรมชลประทาน จะเข้ามาพัฒนาแหล่งน้ำ ฝายทดน้ำ ระบบกระจายน้ำ ขณะที่ กรมปศุสัตว์ได้ เตรียมการส่งเสริมการเลี้ยงแพะ เนื่องจากแพะยังมีความต้องการทั้งในประเทศและการส่งออกถึงปีละ 212,000 ตัว กรมส่งเสริมการเกษตร จะเข้ามาส่งเสริมการทำเกษตรผสมผสาน เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ระหว่างรอผลผลิต กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะเข้ามาส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ ขณะที่ในส่วนของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) จะเข้ามาดูแลเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ในเรื่องที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส.ป.ก. ได้จัดทำแผนผังไว้แล้ว และจะเริ่มดำเนินการได้ทันที โดยใช้งบเหลือจ่ายปลายปี 2559 ของ ส.ป.ก. ให้เสร็จเรียบร้อยภายในต้นปี 2560

ทั้งนี้ ใน จ.กาญจนบุรี มีเกษตรกรได้ยื่นความจำนงขอรับการจัดสรรที่ทำกิน จำนวน 6,000 กว่าราย ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้เป็นผู้จัดสรรให้เกษตรกร แต่จะนำเสนอ คทช. ให้พิจารณาเกษตรกรที่ต้องการทำปศุสัตว์ นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะส่งเสริมให้ความรู้การทำปศุสัตว์ แนะนำการบริหารจัดการ การตลาด พัฒนาสู่การเกษตรแปลงใหญ่ต่อไป และสำหรับพื้นที่แปลงนี้มีจุดเด่นที่อยู่ใกล้ถนนและแหล่งท่องเที่ยว อีกทั้งยังสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวการเกษตรได้ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งหน่วยงานภาคการท่องเที่ยวจะเข้ามาดูแลเพิ่มเติมอีกด้วย
สำหรับการดำเนินการในระยะต่อไป กระทรวงเกษตรฯจะเสนอขอใช้งบกลางปี 2559 เพื่อพัฒนาพื้นที่อีก จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 2,188 ไร่ ได้แก่ จ.สุราษฏร์ธานี และ จ.นครราชสีมา ซึ่งในปี 2560 จะแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ 1) พื้นที่ที่ยึดคืนได้ในกรณีที่ 1 เต็มแปลง จำนวน 28 แปลง เนื้อที่ 27,874 ไร่ และ 2) พื้นที่ที่ยึดคืนได้ในกรณีที่ 1 ไม่เต็มแปลง และ ยังได้มีแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะบูรณาการทุกหน่วยงาน โดยจะใช้ Agri-Map พิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ และใช้รูปแบบสหกรณ์เข้ามาดูแล แบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วน คือ 1.พื้นที่อยู่อาศัย 2) พื้นที่ทำกิน 3) พื้นที่ส่วนรวม เช่น สำนักงานสหกรณ์ แปลงรวม ตลาดเกษตรกร เป็นต้น และ 4) พื้นที่ป่า ด้วย



โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี