จปร.จัดเทิดเกียรตินายพลเกษียณ 'บิ๊กติ๊ก-บิ๊กเต้'ร่วมงานสานต่อทหารอาชีพ
วันพฤหัสบดี ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559, 14.13 น.
29 ก.ย. 59 ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการ นายทหารชั้นนายพลที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2559 พร้อมด้วยพล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และนายทหารที่เกษียณอายุราชการในปีนี้ รวมจำนวน 387 คน โดยในช่วงเช้ามีพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พิธีเทิดเกียรติ มอบกระบี่ และการสวนสนามเทิดเกียรติจากกองสวนพันผสม จำนวน 16 กองพัน ประกอบด้วยกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากหน่วยต่างๆ
ทั้งนี้พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ช่วยผบ.ทบ. กล่าวสดุดีตอนหนึ่งว่า ในวาระที่ทุกคนจะต้องพ้นภาระหน้าที่จากกองทัพไปตามวิถีทางของการรับราชการ ในนามของกองทัพบกขอถือโอกาสนี้แสดงออกซึ่งมุทิตาจิตด้วยความเคารพเป็นอย่างยิ่ง ตลอดการรับราชการของทุกคนได้ปฎิบัติหน้าที่สมกับเป็นชายชาติทหาร ดูแลปกป้องประเทศชาติและประชาชน ได้สร้างคุณประโยชน์ส่วนรวมและทำให้กองทัพมั่นคงเข้มแข็ง มีเกียรติและศักดิ์ศรีมาจนทุกวันนี้ ซึ่งจากปณิธานการทำงานปรากฎเป็นผลงานที่น่ายกย่อง นับเป็นแบบอย่างและเป็นแรงผลักดัน ให้นายทหารรุ่นหลังได้สานต่อ มีการปฎิบัติหน้าที่ตามแนวทางของทหารอาชีพ เพื่อความมั่นคงและความสงบสุขของประเทศชาติและประชาชน แม้ระยะเวลาการรับราชการจะสิ้นสุดลง แต่เชื่อมั่นว่าวิถีชีวิตความเป็นทหารหาญจะยังคงอยู่ในสายเลือดของทุกคนไม่เสื่อมคลาย ทั้งนี้ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าพวกเราจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ เป็นทหารของชาติที่พร้อมอุทิศเสียสละตนในการปฎิบัติหน้าที่ โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักสำคัญ
ขณะที่พล.อ.ปรีชา กล่าวเนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการว่า ตลอดอายุราชการที่ผ่านมา นายทหารทุกคนได้ทำหน้าที่ด้วยความภาคภูมิใจ มุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มความสามารถ เพื่อแก้ปัญหาที่จะกระทบต่อความมั่นคงของชาติ แม้จะถึงเวลาเกษียณอายุราชการแล้วพวกเรายืนยันว่าพร้อมอุทิศตนสนับสนุนการดำเนินงานของกองทัพเมื่อมีโอกาส และขอฝากกำลังพลที่ยังรับราชการอยู่ ให้ดูแลรักษาเกียรติยศของทหารอย่างเต็มความสามารถ คิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรักและสามัคคีเพื่อประโยชน์ของประเทศ รวมทั้งพัฒนากองทัพ ให้เจริญก้าวหน้าในฐานะกำลังหลักด้านความมั่นคงสืบไป