วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เรื่องที่มีการกล่าวขาน และถูกจับตามองเป็นพิเศษของสังคมในกระทรวงเกษตรฯ ณ สัปดาห์ที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นเรื่องของ ข่าวการที่ท่านรัฐมนตรี คิดจะรังสรรค์สร้างกระทรวงเกษตรฯใหม่ โดยมีการปรับปรุงกระทรวงเกษตรฯ เสียใหม่ ด้วยการทุ่มงบประมาณ กว่า 30 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมด บอกเหตุผลว่าพื้นมันร้าว เลยทำให้คนในกระทรวงเกษตรฯ “ร้าวฉานกันเอง” อันเป็นการดำเนินการต่อเนื่องในเรื่องการสร้างถนนในกระทรวงเกษตรฯ และแถมด้วยการสร้างเสาธงราคา 2 ล้านบาท
มาอีกเรื่องที่กำลังจะเป็นปัญหาที่ควรต้องดู นั้นคือ เรื่องการนำเข้าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ ที่กระทรวงพาณิชย์อนุญาตให้นำเข้าอาหารสัตว์ที่กำลังจะเป็นเผือกร้อนมายังกระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะข้าวที่เกี่ยวข้องโดยตรง ว่ากันว่า มีการอนุญาตให้นำเข้ารำแป้งสาลี ด้วยไม่รู้มายังไง นำเข้าจากประเทศอาเซียนเสียด้วย นั้นไม่รวมถึงข้าวโพด และอื่นๆ ที่เป็นอาหารสัตว์ ระวัง... หากไม่แก้วันนี้ ระวังกระทบต่อราคาข้าวในประเทศไทย จะดิ่งเหว เพราะตอนนี้ ทั้งข้าวโพด มันสำปะหลัง กระทบไปแล้ว
มาถึงเรื่องสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาปัจจุบันกันบ้าง โดยขณะนี้กรมชลประทานชี้แจงว่า ยังคงระบายน้ำตอนบนลงสู่อ่าวไทยให้เร็วที่สุด เพื่อรองรับปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลาง ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.)ได้คาดการณ์ไว้ว่า ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. -2 ต.ค. 2559 ที่ผ่านมา ความกดอากาศต่ำจะเคลื่อนตัวขึ้นไปบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด (29 ก.ย. 2559) มีปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 1,998 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 50-70 เซนติเมตร
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตามที่กรมชลประทาน ได้ประเมินว่ามีโอกาสที่เขื่อนจะมีปริมาณน้ำเต็มอ่างฯได้ ในวันที่ 8 ต.ค. 2559 นั้น จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำออกจากเขื่อน เพื่อให้มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำจากฝนที่จะตกลงมาอีก โดยจะปรับเพิ่มการระบายจากเดิมวันละ 20.75 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบัน (29 ก.ย. 2559)มีการระบายน้ำวันละ 32 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะทยอยเพิ่มเป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ภายในวันนี้ ซึ่งปริมาณน้ำจะไหลมารวมกับปริมาณน้ำที่มาจากคลองชัยนาท-ป่าสัก บริเวณเหนือเขื่อนพระรามหก กรมชลประทานจะควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกไม่เกิน 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที วันที่ 29 ก.ย. 2559 มีน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก 433 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนพระรามหกลงมาไปจนถึงจุดบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1-1.50 เมตร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมชลประทาน ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสุพรรณบุรี รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก นอกคันกั้นน้ำให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไปแล้ว
ราชดำเนิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี