หลังภาคประชาชน ต.สามัคคี อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ เข้าร้องเรียนร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สำนักงาน

ตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.)จ.กาฬสินธุ์ อ้างว่าผู้บริหารและปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)สามัคคีทุจริตโครงการซ่อมถนนลูกรัง และโครงการประปาตั้งแต่ปี 2552-2559 งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งปปท.และสตง.ตรวจพบมีการปลอมลายเซ็นผู้ใหญ่บ้านตั้งโครงการ และตั้งฎีกาเบิกทับซ้อน ส่วนสภาอบต.สามัคคีมีมติทำหนังสือขอให้ย้ายปลัด อบต.สามัคคีออกนอกพื้นที่ แต่การดำเนินการยังไม่คืบหน้า ทำให้ชาวบ้านออกมาทวงถามเรื่องนี้อีกครั้ง

โดยนายบุญเพ็ง เยาวบุตร ในฐานะตัวแทนภาคประชาชนต.สามัคคี อ.ร่องคำเปิดเผยเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมว่า ชาวบ้านต.สามัคคีขอเรียกร้องให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับอำเภอสอบข้อเท็จจริงตรงไปตรงมา เพราะเท่าที่เชิญชาวบ้านไปสอบปากคำพบว่ามีคณะกรรมการสอบเพียง 1 คน ซึ่งตามขั้นตอนการสอบต้องมีคณะกรรมการสอบอย่างน้อย 2 คน และยังไม่มีการตรวจสอบเอกสารของอบต.สามัคคี ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการยื้อเวลาเตะถ่วงให้คนลืม เรื่องเงียบ กลายเป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้หน่วยงานทั้งปปช.กาฬสินธุ์ สตง.กาฬสินธุ์ ท้องถิ่นจังหวัด ท้องถิ่นอ.ร่องคำ และปปท.ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบดำเนินการจริงจัง เงินทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินภาษี เป็นเงินของแผ่นดิน และเป็นปัญหาทุจริตที่รัฐบาลเดินหน้าปราบปราม

ด้านนายสุภัทรชัย หันจรัส ประธานสภา อบต.สามัคคี อ.ร่องคำเปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังรับเรื่องร้องเรียน สภาอบต.สามัคคีมีมติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้น พร้อมให้สมาชิก อบต.ทั้ง 15 หมู่บ้านลงพื้นที่หาหลักฐานเอกสาร แล้วนำมารายงานในที่ประชุม พบมีมูลทุจริตและประพฤติมิชอบ มีการเลี่ยงเข้าชี้แจง เลี่ยงจัดซื้อจัดจ้าง ประมูลแข่งขันราคา เป็นการตกลงราคาจ้างไม่เกิน 1 แสนบาท และมีบริษัทรับเหมาเพียง 3 ห้างที่รับงานมาตลอด ไม่มีประกันสัญญาจ้าง ไม่มีช่างคุมงาน

“มีโครงการผีจริงคือไม่มีถนน แต่เบิกจ่ายเงิน อีกทั้ง ถนนบางสาย ซึ่งใช้งบซ่อมเฉลี่ย 9 หมื่นบาท ทั้งที่จริงๆะได้หินลูกรังไปซ่อมประมาณ 100 คัน แต่มีการนำหินไปลงจริงเฉลี่ยพียง 20-30 คันรถต่อสาย ถนนหลายสายไม่มีหินมีแต่ดิน ซ่อมถนนซ้ำซ้อนกับอบจ.กาฬสินธุ์ และตั้งงบซ่อมบ่อยครั้ง อีกทั้ง ยังให้การเท็จต่อสภา อบต.อีกด้วย”นายสุภัทรชัยกล่าว

และว่า สำหรับการดำเนินการของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของอำเภอร่องคำนั้น ช้ามาก ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคมแต่ถึงตอนนี้ผลสอบยังไม่เสร็จ อีกทั้ง การเรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่มีหนังสือแจ้ง เพียงแต่โทรศัพท์บอกให้เข้าไปสอบปากคำ และสอบแต่พยาน ไม่ตรวจสอบเอกสาร เหมือนเป็นการยื้อเวลาให้สังคมและประชาชนลืมแล้วเรื่องเงียบหายไป เช่นเดียวกับกรณีสภาอบต.สามัคคีลงมติทำหนังสือให้ย้ายปลัดอบต.สามัคคี เรื่องก็ยังเงียบ ทำให้ชาวบ้านและสภาอบต.สามัคคีหวาดผวา กลัวอิทธิพล แต่ทุกคนยืนยันสู้เพื่อความถูกต้องจนถึงที่สุด

ขณะที่นายสัมฤทธิ์ กิตติโชติ สุขสงค์ นายอำเภอร่องคำ ในฐานะผู้กำกับดูแลอบต.สามัคคีชี้แจงว่า คณะกรรมการซึ่งมีปลัดอาวุโสอำเภอร่องคำ ท้องถิ่นอ.ร่องคำ และเจ้าหน้าที่รวม 3 คนสอบพยานไปแล้ว 49 ปาก เหลืออีก 3 ปากคือ นายกฯอบต.สามัคคี ปลัด อบต.สามัคคี และประธานสภา อบต.สามัคคีที่ติดภารกิจ แต่จะเร่งทำให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้เพื่อส่งจังหวัดพิจารณาต่อไป ส่วนข้อร้องเรียนให้ย้ายปลัด อบต.สามัคคีอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องใช้เวลา เพราะต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย