รายงานพิเศษ : เดินหน้าพัฒนาความเข้มแข็งสหกรณ์

รายงานพิเศษ : เดินหน้าพัฒนาความเข้มแข็งสหกรณ์

วันอังคาร ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

จากการเดินทางตั้งแต่วันเริ่มต้น มาถึงปัจจุบัน ครบ 44 ปี กรมส่งเสริมสหกรณ์ มีหน้าที่กำกับ ดูแล ส่งเสริม และพัฒนาสหกรณ์ให้มีความมั่นคงแข็งแรง ให้ขบวนการสหกรณ์เป็นองค์กรหลักในการสร้างความเข้มแข็ง สร้างความกินดีอยู่ดี สร้างความรักสามัคคีของคนระดับฐานรากของประเทศ ปัจจุบันมีคนในขบวนการสหกรณ์ 11 ล้านครัวเรือนหรือ 33 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ

ในปีที่ผ่านมา การทำงานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ดำเนินการตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทั้ง 2 ท่านมีความตั้งใจ และมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ขบวนการสหกรณ์มีความเข้มแข็ง โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มีการจัดทำแผนพัฒนาความเข้มแข็งสหกรณ์ ปี 2559-2560 และมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้มีพันธะสัญญากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ว่า ภายใน 2 ปี จะเร่งดำเนินการให้สหกรณ์ในประเทศไทย 60% ยกระดับขึ้นเป็นสหกรณ์ชั้น 1 เป็นสหกรณ์ชั้น 2 ที่มีความเข้มแข็ง 30% ส่วนสหกรณ์ชั้น 3 ที่ยังมีข้อบกพร่อง อาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจในการดำเนินงาน และมีเรื่องการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้อง จะลดลงเหลืออย่างน้อย 5%


พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขบวนการสหกรณ์ถือเป็นพื้นฐานที่มีความสำคัญ เป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายเร่งด่วนในหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการเร่งรัดและยกระดับ หรือปฏิรูปการทำเกษตร เครื่องมือที่สำคัญและจะสามารถดำเนินการได้เร็วที่สุดจะต้องผ่านสหกรณ์ ดังนั้นในปี 2560 เราอยากเห็นสหกรณ์มีความเข้มแข็งมากขึ้น เพราะสหกรณ์เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับในการที่จะทำให้เกษตรกรเกิดความเข้มแข็งได้อย่างแท้จริง ถ้าสหกรณ์เข้มแข็งก็สามารถช่วยเหลือมวลสมาชิกให้เกิดความมั่นคงในการดำรงชีวิต รวมทั้งกิจการตามความมุ่งหมายของสหกรณ์

ด้าน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวว่า การดำเนินการที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการให้กับรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การดำเนินนโยบายประชารัฐ ในการดูแลพี่น้องประชาชน รวมทั้งมีส่วนร่วมกับสถาบันการศึกษาในการพัฒนาฝ่ายจัดการของสหกรณ์ รวมถึงบุคลากรของกรมส่งเสริมสหกรณ์ด้วย และได้ร่วมมือกับกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ ในการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตรเพื่อลดต้นทุนสมาชิก หรือ Motor Pool พร้อมกับส่งเสริมสหกรณ์ให้เป็นแม่ข่ายเพื่อสร้างความเข้มแข็งผ่านการให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรม

สำหรับในปี 2560 สิ่งที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะเดินหน้าต่อไปคือ นำภารกิจที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาทำให้เกิดผลสำเร็จ เช่นนโยบาย 6 มาตรการหลัก ได้แก่ มาตรการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันสินค้าเกษตร การบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) การขับเคลื่อนระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ เกษตรอินทรีย์ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และมาตรการธนาคารสินค้าเกษตร รวมทั้งวางแนวทางในการพัฒนาสหกรณ์ โดยมุ่งหวังที่จะพัฒนาสหกรณ์สู่ Smart Coop เป็นสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรที่มีความเข้มแข็ง เป็นกลไกและเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความยั่งยืน โดยยึดแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับ และให้ความสำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางมงคลของคนในขบวนการสหกรณ์ ในการน้อมนำเพื่อนำไปดำเนินการ ที่ผ่านมาเห็นภาพของความเข้มแข็งทุกสหกรณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้บริหารงาน โดยมีเป้าหมายที่ต้องการให้เกษตรกร และสมาชิกสหกรณ์ มีความกินดีอยู่ดี มีความสุข มีความมั่นคงในชีวิต และมีความยั่งยืนในการดำรงอาชีพโดยได้แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นทิศทางในการปฏิบัติ

ทั้งนี้ ได้ตั้งปรัชญาการทำงานในปี 2560 ว่า “Back to Members” ซึ่งขบวนการทุกอย่างของกรมส่งเสริมสหกรณ์ จะมุ่งสร้างไปสู่ความเข้มแข็งของสมาชิก โดยตั้งเป้าพัฒนาบุคลากรของกรมส่งเสริมสหกรณ์ และขบวนการสหกรณ์ให้เป็น Smart Officer พร้อมมุ่งพัฒนาสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็งให้เป็น Smart Coop และพัฒนาเครือข่ายของขบวนการสหกรณ์ ทั้งด้านการตลาด ด้านการเงิน ด้านธุรกิจ และการเรียนรู้ให้เกิดเป็น Smart Network ในการทำงานให้มีความเข้มแข็ง เพราะเชื่ออย่างยิ่งว่าเครือข่ายที่มั่นคง และเข้มแข็ง จะทำให้สหกรณ์มีความเจริญรุ่งเรืองได้ สหกรณ์ไม่สามารถยืนอยู่คนเดียว (Stand Alone) การที่สหกรณ์จะมีความแข็งแรงในกิจกรรมที่มีความถนัด หรือเชี่ยวชาญ และนำกิจกรรมเหล่านั้นมาเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน สร้างเครือข่ายให้มีความเข้มแข็ง เพื่อให้ขบวนการสหกรณ์ทั้ง 7 ประเภท เป็นเนื้อในเดียวกัน การแบ่งสหกรณ์ทั้ง 7 ประเภท ไม่ได้แบ่งแยกออกจากกัน แต่ตามกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งสหกรณ์ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในการเข้าไปส่งเสริม กำกับ ดูแล ซึ่งสหกรณ์ทั้ง 7 ประเภทยังเป็นพี่น้องกัน ดังนั้น Network ทุกสหกรณ์จะต้องมาร่วมกัน และหลังสร้างสหกรณ์มี Network ที่เข้มแข็ง ธุรกิจของสหกรณ์ก็จะเป็น Smart Business โดยทั้ง 4 Smart กรมส่งเสริมสหกรณ์จะสร้างให้เกิดผลสำเร็จ เพื่อมุ่งเป้าไปสู่การเป็น “Smart Members” และเป็น “Back to Members” ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม การดำเนินแผนงานในปี 2560 กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะยึดแนวทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 12 ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยการนำระบบเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาช่วยในการทำงาน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มุ่งหวัง และอยากเห็น Smart ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างเข้มแข็งเดินหน้าผลักดันให้สร้างกรมส่งเสริมสหกรณ์ และสหกรณ์ เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) โดยมีความคิดเห็นร่วมกันว่า การที่สหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็น Learning Organization เท่านั้น ที่จะทำให้ขบวนการสหกรณ์สามารถเติบโตมั่นคง และแข็งแรง พร้อมกับสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ขึ้นในระบบสหกรณ์ การสร้าง KM ในระบบการให้ความรู้ ระบบเทคโนโลยี และเครือข่ายของกรมส่งเสริมสหกรณ์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ มุ่งหวังให้เกิดขึ้นในปี 2560 ซึ่งส่งผลให้สมาชิกสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร เป็น “Smart Members” มีความกินดีอยู่ดี มีอาชีพมั่นคงตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จากแนวคิดและเป้าหมายดังกล่าว กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เครือข่ายภาครัฐ และภาคเอกชน ขับเคลื่อนงานต่อเนื่อง และงานริเริ่มใหม่ ในปี 2560 เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ จำนวน 12 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาสหกรณ์การเกษตรเป็นองค์กรหลักระดับอำเภอ 2.โครงการเพิ่มขีดความสามารถการดำเนินธุรกิจข้าวเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในสถาบันเกษตรกร 3.โครงการศูนย์กลางบริหารเครื่องจักรกลการเกษตรระดับชุมชน 4.โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเกษตรกรที่ได้รับการจัดที่ดินในพื้นที่ที่ ส.ป.ก. ยึดคืนด้วยระบบสหกรณ์ 5.โครงการส่งเสริมความเข้มแข็งกลุ่มผู้ผลิตในพื้นที่นิคมสหกรณ์ โดยใช้เครื่องมือ Agri-Map 6.โครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดเมล็ดถั่วเหลืองแบบครบวงจรตามแนวทางประชารัฐ7.โครงการส่งเสริมตลาดสินค้าสหกรณ์ออนไลน์ผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) 8.โครงการสร้างระบบคุ้มครองทางการเงินแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ (เชื่อมโยงข้อมูลทางการเงิน)9.โครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างระบบน้ำในไร่นาของสมาชิกสถาบันเกษตรกร 10.โครงการพัฒนาบุคลากรกรมส่งเสริมสหกรณ์ และสหกรณ์สู่การเป็น Smart officer 11.โครงการส่งเสริมการจัดตั้งกองทุนจัดการความเสี่ยงผลผลิตทางการเกษตร และรักษาสิ่งแวดล้อมของสมาชิกในสถาบันเกษตรกร และ 12.โครงการสหกรณ์สีขาวด้วยธรรมาภิบาลในสหกรณ์ (Cooperative Governance)

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top