10 ต.ค. 59 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เตรียมเสนอความเห็นชอบจากครม.ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ในมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยเพิ่มเติมในพื้นที่เกษตรที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ โดยกำลังหารือกับสำนักงบประมาณ จะเสนอเงินช่วยเหลือหลังจากน้ำลดแล้ว   ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยเห็นใจ เกษตรกรให้เร่งมาตรการเยียวยา พื้นที่ไหนมีความเสียหายแล้วต้องรีบเข้าไปดูแล โดยภาพรวมประชาชนในพื้นที่อยู่กันมาอย่างนี้เป็นปกติอยู่ริมน้ำทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ปัญหาลดลงมากที่สุด

 

 “จะนำเข้าครม. พรุ่งนี้สำหรับเกษตรกรได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตั้งวันที่ 18 พ.ค.เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เพิ่มเติมจากการชดเชยพื้นที่เกษตรเสียหายสิ้นเชิงตามระเบียบราชการเดิมกรณีภัยพิบัติ รัฐช่วยเหลือ นาข้าว 1,113 บาท พืชไร่ 1,480 พืชสวน 1,690 บาท รายละไม่เกิน 30 ไร่ โดยรัฐบาลเพิ่มการช่วยเหลือพื้นที่ได้ผลกระทบบางส่วนตามประกาศของกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เช่นนาข้าวแช่น้ำ 7 วัน มีประมาณ 5 พันกว่าหมู่บ้าน ใน 44 จังหวัด โดยมี 4 มาตรการทั้ง จ่ายเงินสด  ช่วยฟื้นฟูหลังน้ำลด พักการชำระหนี้ และมาตรการช่วยเหลือเงินกู้  โดย ปภ. ประกาศ ก่อน 31 ส.ค. มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 1.5แสนไร่ และตั้งแต่ 1 ก.ย.ถึง ปัจจุบัน 3 หมื่นกว่าไร่ รวม 1.8 แสนไร่ “รมว.เกษตรฯกล่าว

 

รมว.เกษตรฯ กล่าวว่าได้เตรียมแผนสำรองกรณีฉุกเฉินหากสุดวิสัย ถ้ามีมรสุมเข้า ต้องผันน้ำเข้าพื้นที่เกษตรเพาะปลูกข้าวรอการเก็บเกี่ยว ใช้เป็นแก้มลิงกักเก็บน้ำประมาณ 3 พันกว่าไร่ ในทุ่ง 3 อำเภอ ทุ่งบางบาล  ทุ่งผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทุ่งป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง หากต้องนำน้ำเข้าจะจ่ายเงินชดเชย โดยเสนอ ครม.รับหลักการใช้งบกลาง  

 

 พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่าได้เฝ้าระวังพร่องน้ำเขื่อนป่าสักฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ล้นมากระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน โดยระบาย 700 ลบ.ม.ต่อวินาที ผ่านเขื่อนพระรามหก 712 ลบ.ม.ต่อวินาที  ในส่วนปริมาณน้ำระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2.2 พันลบ.ม.ต่อวินาที  ซึ่งน้ำสองก้อนนี้ไหลมาที่อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 2.1 พันลบ.ม.ต่อวินาที ยังไม่ถึงจุดวิกฤติ 3.5 พันลบ.ม.ต่อวินาทีที่จะกระทบกทม.และปริมณฑล รวมทั้งภายใน 7 วันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์มีฝนน้อยมาก ไม่เกิน 10 มม. ทางกรมชลประทาน จะใช้เวลาอีก4 วันเร่งระบายน้ำทั้งสองเขื่อนลงสู่อ่าวไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งช่วงนี้แนวโน้นปริมาณน้ำเหนือและน้ำเข้าเขื่อนป่าสักฯ ลดลง  

 

“ในส่วนพื้นที่เกษตรที่อยู่ในคันกั้นน้ำขณะนี้ยังไม่เสียหาย และยืนยันว่ากรมชลประทาน ยังไม่ปล่อยน้ำเข้าพื้นที่เกษตรอยู่ในคันกั้นน้ำโดยเด็ดขาด ยกเว้นแต้ว่าเกษตรกรเก็บเกี่ยวแล้ว อยากมีได้น้ำไว้ใช้ฤดูแล้งหน้า ให้แจ้งนายอำเภอและทางผู้ว่าราชการจังหวัด รับรองมาด้วย พร้อมกับต้องมีหนังสือรับรองว่าต้องการน้ำ ให้กรมชลประทาน ปล่อยน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น ทุ่งป่าโมก ผักไห่ บางบาล เป็นจุดพื้นที่ลุ่มต่ำ เกษตรกรอยากได้น้ำจึงปล่อยน้ำเข้าไป ตนได้ย้ำให้ระมัดระวังไม่ไปทำให้พื้นที่นาข้าวรอเก็บเกี่ยวเสียหาย” รมว.เกษตรฯกล่าว

 

 นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวยืนยันว่ายังไม่ผันน้ำเข้าทุ่ง เพราะการบริหารน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในระดับ 2,300ลบ.ม.ต่อวินาที จะใช้เวลา4 วัน ระบายน้ำเหนือออกทะเล ไม่ทำให้กระทบกทม.นนทบุรี ปทุมธานี  แต่หากมีกรณีฉุกเฉิน ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จุดวิกฤติเกินระดับ 2.8 พันลบ.ม.ต่อวินาที จึงตัดสินใจผันเข้าทุ่ง เตรียมทุ่งบางบาล ผักไห่ ปราโมก์ เป็นพื้นที่รับน้ำนองพื้นที่สำรอง อย่างไรก็ตามสภาพอากาศทางเหนือเริ่มหนาว ทำให้ฝนลดลง ปริมาณน้ำที่จ.นครสวรรค์ เริ่มทรงตัว ทำให้มั่นใจไม่มีปัญหา ส่วนเขื่อนป่าสักฯ เฝ้าระวังติดตามอยู่ ขณะนี้เริ่มระบายออกมาป้องกันไม่ให้เขื่อนป่าสักล้น ขณะนี้มีน้ำ 906 ล้านลบ.ม.ประมาณ 94 เปอร์เซนต์ มีน้ำไหลเข้ามา 60 ล้านลบ.ม. ระบายออก 60.52 ล้านลบ.ม. พยายามให้น้ำสมดุลโดยไม่ท่วมริมตลิ่ง สำหรับน้ำทะเลหนุนสูง ช่วง18-19 ต.ค. ไม่มีผลต่อกทม. ได้ใช้ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากกระพระราชดำริ เร่งระบายน้ำได้เร็วขึ้น  ในกรณีจ.พระนครศรีอยุธยา เสนอทำฟัสเวย์ ขยายคลองบางบาล  ทำเส้นทางทางอ้อมตัวเมือง ยังอยู่ระหว่างทำผลการศึกษา ยังตอบไม่ได้ว่าจะทำหรือไม่

 

รายงานข่าว เปิดเผยว่ารมว.เกษตรฯเสนอมาตรการฉุกเฉิน เนื่องจากสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ในปี 2559 มีความเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รัฐมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่รับน้ำหลาก เป็นการชั่วคราว ในพื้นที่ทุ่งป่าโมก ทุ่งผักไห่ และทุ่งบางบาล โดยสมควรจ่ายพื้นที่ยังไม่เก็บเกี่ยว ไร่ละ 5,760 บาท โดยมีเกณฑ์คิดจากต้นทุน การผลิตข้าวภาคกลางเฉลี่ย ไร่ละ 4,800 บาท และค่าเสียโอกาส ที่เกษตรกรควรได้รับ ร้อยละ 20 หรือไร่ละ 960 บาท รวมวงเงินชดเชย 20,488,320 บาท

 

 โดยพื้นที่รอการเก็บเกี่ยว ทุ่งป่าโมก 96 ไร่ ทุ่งผักไห่ 1,436 ไร่ ทุ่งบางบาล 2,025 ไร่ รวม 3,557 ไร่

 

แต่สำนักงบประมาณ เห็นแย้งว่าควรจ่ายตามเสียหายจริง ไม่ควรเหมาจ่าย จึงนำเสนอนายกฯและขอความเห็นจากครม.ต่อไป