17 ต.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปัตตานี ว่า นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) ปัตตานี พร้อมนายอำเภอสายบุรี ได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของ “ปู่วาเด็ง ปูเต๊ะ” พระสหายแห่งสายบุรี ที่บ้านบาเลาะ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เพื่อนำข่าวการเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไปบอกแก่ นางสาลาเมาะ ปูเต๊ะ อายุ 90 ปี ภรรยาของนายวาเด็ง ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคชราไปก่อนแล้วในวัย 96 ปี เมื่อหลายปีก่อน โดยปัจจุบันมีเพียงลูกสาววัย 45 ปี ทำหน้าที่เลี้ยงดูมารดา โดยนายวีรนันทน์ ได้มอบกระเช้าของขวัญให้กับนางสะลาเมาะ ปูเต๊ะ อายุ 90 ปี ผู้เป็นภรรยา และนางอะตีเกาะ ปูเต๊ะ อายุ 40 ปี บุตรสาวของนายวาเด็ง เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจกับทั้งคู่ ซึ่งยังคงอยู่ในสภาพโศกเศร้า พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลครอบครัวของนายวาเด็ง ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นายวีรนันทน์ กล่าวว่า ครอบครัวของนายวาเด็ง ยังคงสานต่อเจตนารมณ์นายวาเด็ง ในการจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้ ทำให้ในขณะนี้ทางครอบครัววาเด็ง ยังคงทำใจไม่ได้ และยังคงโศกเศร้ากับการสูญเสียในครั้งนี้ โดยเมื่อทราบข่าวนางสะลาเมาะ ถึงกับแสดงความตกใจและเศร้าสลดใจลงอย่างมาก เพราะคิดถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อยู่ตลอดเวลา และทุกๆ ปีจะส่งผลไม้ไปให้พระองค์ท่าน และไม่นานมานี้ก็เพิ่งส่งไปให้ ตามคำสั่งเสียก่อนเสียชีวิตของนายวาเด็ง ซึ่งการสวรรคตทำให้ทั้งครอบครัวเสียใจอย่างมมาก โดยเฉพาะนางสะลาเมาะ ถึงกับกล่าวซ้ำๆ และถามว่าท่านสวรรคตแล้วจริงหรือ จนเกิดความเศร้าสลดเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะครอบครัว ปูเต๊ะ และชาวบ้านทุกคนรักพระองค์ท่านไม่น้อยไปกว่านายวาเด็ง

‘แม้ปู่วาเด็ง จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ทางจังหวัดยังต้องให้การดูแล ครอบครัวของปู่วาเด็ง พระสหายแห่งสายบุรี โดยกำชับให้นายอำเภอสายบุรี เข้าไปดูแลส่งเสริมด้านอาชีพ และความเป็นอยู่เป็นกรณีพิเศษ อย่าให้มีความเดือดร้อน เพราะถือว่าปู่วาเด็ง คือ พระสหายของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ของทั้งครอบครัวปู่วาเด็ง ร่วมถึงชาวปัตตานีด้วย’ นายวีรนันทน์ กล่าว

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปดูต้นจำปาดะหลังบ้านที่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งนายวาเด็งได้กำชับกับครอบครัวก่อนเสียชีวิต ให้ดูแลต้นจำปาดะให้ดี และนำผลของจำปาดะที่ดีที่สุดนำไปทูลเกล้าฯ ถวายแด่ในหลวงอย่างที่ตนเองเคยทำมาทุกปี ซึ่งทางครอบครัวได้ถือปฏิบัติด้วยดีเสมอมา

ด้านนางอะตีเกาะ บุตรสาว ได้บอกับผู้สื่อข่าวด้วยภาษามลายู ว่า หลังจากที่รับทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ก็ได้รีบมาบอกกับมารดาทันที มารดารู้สึกเสียใจและคิดถึงในหลวง รักในหลวงเป็นอย่างมาก และรู้สึกเสียดายที่พระองค์ท่านจากเราไป เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นคนดีและเป็นที่รักยิ่งของเราทุกคน