‘IS’เข้าอาเซียน
‘บิ๊กป้อม’รับมาเลย์เตือน
ยันเฝ้าระวังนานแล้ว
‘อุดมเดช’เชื่อคุมได้
ตร.ล่าอีก2มือบึ้มภูเก็ต
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า รมว.กลาโหม มาเลเซียแจ้งเตือนถึงความเป็นไปได้ที่ก่อการร้ายสมาชิกกลุ่มไอเอสในประเทศอิรักและซีเรีย จะหลบหนีมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเรื่องนี้มีการเตือนมานานแล้ว ต้องระมัดระวัง และเราได้เตรียมการมาตลอดอยู่แล้ว
“กรณีที่รมว.กลาโหมมาเลเซียออกมาเตือนเพราะเขาเป็นห่วง อย่างไรก็ตามเราได้มีการสื่อสารกันตลอดอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะประเทศมาเลเซียเท่านั้น”พล.อ.ประวิตร กล่าว
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางรักเหตุว่าพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณริมรั้วสถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม ซอยเจริญกรุง 36 นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบของทางหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด(อีโอดี)ว่า ยังใช้การได้หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานเข้ามา อย่างไรก็ตาม ตนและหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ติดตามมาตลอด มีการเฝ้าทุกพื้นที่ มีการเข้าไปตรวจสอบปิดล้อมดำเนินการในทุกๆ พื้นที่ที่ต้องสงสัยและมีการการข่าวที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้การข่าวมีเหตุใดที่น่าวิตกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวยอมรับว่ามีเรื่องความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการก่อความไม่สงบ แต่เรารู้ความเคลื่อน ไม่เป็นไร ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เราติดตามมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดในช่วงนี้ เราติดตามมาตลอดในเรื่องความไม่สงบในทุกๆพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ เราต้องเพิ่มความระมัดระวังให้นักท่องเที่ยวเกิดความปลอดภัย รวมถึงประชาชน ให้มากที่สุดที่จะไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ
ขณะที่พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์(ศตส.) ถึงกรณีมาเลเซียแจ้งเตือนมีความเป็นไปได้ที่สมาชิกกลุ่มไอเอสจะหลบหนีเข้ามาในอาเซียนว่าทุกคนก็ทราบดีว่ามีการปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มไอเอส ซึ่งมีแนวโน้มจะมีมากยิ่งขึ้น หลายฝ่ายจึงมีความเป็นห่วงภูมิภาคนี้ว่าอาจมีสมาชิกกลุ่มไอเอสกลับเข้ามา
“ฝ่ายความมั่นคงก็ได้รับทราบ มีการติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด พล.อ.ประวิตร ได้ประชุมโดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือและระมัดระวัง ซึ่งเช่นเดียวกับในพื้นที่ภาคใต้ ก็มีการติดตามอยู่ตลอด แต่ขณะนี้ยังไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ ที่น่าหนักใจก็ขอให้สบายใจว่าคงไม่มีผลกระทบอะไร”
พล.อ.อุดมเดช ยังกล่าวถึงการข่าวที่มีการแจ้งเตือนก่อนหน้านี้ว่าจะมีการเตรียมก่อเหตุต่างๆขึ้นนั้น ในที่ประชุมศตส.โดยฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้องก็ติดตามดูในทุกด้าน มีการเน้นย้ำเรื่องนี้แล้ว ไม่น่าหนักใจอะไร ถ้าถามถึงความเคลื่อนไหวตอนนี้ก็ไม่มีอะไร เราสามารถคุมได้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ก็ไม่ประมาทมีการเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลและให้มีความพร้อม
วันเดียวกันที่สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่โดยเฮลิคอปเตอร์นำตัวนายมูฮำหมัด มูฮิ ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดและวางเพลิงในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อให้พยานชี้ตัว หลังจากให้การปฎิเสธในชั้นพนักงานสอบสวน แต่เคยให้การรับสารภาพในชั้นทหาร ทั้งนี้พยาน 2 คนที่เห็นเหตุการณ์ สามารถชี้ตัวผู้ต้องหาได้อย่างถูกต้องคือนายมูฮำหมัด มูฮิ แต่ผู้ต้องหายังให้การปฎิเสธ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาคดีวางระเบิดและวางเพลิงในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน เมื่อเดือนสิงหาคม 59 นั้น ขณะนี้มีการออกหมายจับแล้ว 10 คน โดยในพื้นที่จ.ภูเก็ตมีผู้ต้องหา 4 คน ขณะนี้จับกุมตัวได้แล้ว 2 คน สำหรับแนวทางการสืบสวนต่อไปจะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มพร้อมออกหมายจับเพิ่มเติมให้ครบทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี