มท.นำปชช.2.5แสนคน
ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
เริ่ม29ตุลาคม59-2ม.ค.60
จว.ละ600คนตามตัวอักษร
ให้ผู้ว่าฯอำนวยความสะดวก
เมื่อเวลา 07.03 น. วันที่ 23 ตุลาคม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วยคุณพลอยไพลิน และคุณสิริกิติยา เจนเซน พระธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย หน้าพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนวารเป็นพระพุทธรูปประทับยืนแบบสมภังค์ แสดงปางห้ามญาติหรืออภัยมุทราด้วยพระหัตถ์ขวาเพียงข้างเดียว ที่หน้าพระแท่นนพปฏลมหาเศวตฉัตร จากนั้นทรงประเคนสำรับภัตตาหารแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดบวรนิเวศวิหารและประยุรวงศาวาสวรวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมมาตั้งแต่ค่ำวันที่ 22 ตุลาคม แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ ในเวลา 07.58 น.
พระเทพฯทรงบำเพ็ญพระราชกุศล
ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล เป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรมวัดอนงคารามวรวิหาร และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
เวลา 19.00 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช มีพระพิธีธรรม8 รูปจากวัดระฆังโฆษิตารามวรมหาวิหาร และวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
เปิดปราสาทพระเทพบิดรวันปิยะฯ
วันเดียวกัน ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมรูปกษัตริย์ในปราสาทพระเทพบิดรเพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันปิยะมหาราช ซึ่งเป็นอภิลักขิตสมัยคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในการนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาต เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ให้ประชาชนเข้าถวายบังคมสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชที่ปราสาทพระเทพบิดรในวันที่ 23 ตุลาคม ระหว่างเวลา 8.00- 17.00 น.
หน้าวังแน่นเข้าแถวยาวกว่า3กม.
ส่วนบรรยากาศที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งสำนักพระราชวังเปิดให้พสกนิกรเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงเพื่อแสดงความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชตั้งแต่เวลา 08.04 น. มีประชาชนจากทั่วสารทิศมานั่งต่อแถวรอก่อนเวลาเปิดให้เข้าลงนาม ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวทำให้มีผู้คนมามากกว่าปกติ โดยระยะทางที่ประชาชนเข้าแถวนั้นยาวตั้งแต่หน้าประตูวิเศษไชยศรีออกไปนอกพระบรมมหาราชวังจนถึงในสนามหลวงรวมระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร แม้สภาพอากาศร้อนจัดแต่ไม่มีใครย่อท้อ อย่างไรก็ตาม ในการเข้าลงนามถวายสักการะพระบรมศพวันนี้ กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยเกี่ยวกับการจัดงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ด้วยการนำแผงเหล็กกั้นพื้นที่รอบสนามหลวงและเปิดทางเข้าเพียง 4 จุด โดยนำเครื่องตรวจวัตถุระเบิด พร้อมตรวจกระเป๋าสัมภาระของประชาชนทุกคนอย่างละเอียด
แจกบัตรคิว1.1หมื่นใบหมดบ่าย2
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้จัดระเบียบการเข้าถวายสักการะและลงนามแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยแจกบัตรคิวบริเวณทางเข้าสนามหลวงฝั่งถนนหน้าพระธาตุเพียงจุดเดียว เมื่อรับบัตรคิวแล้วให้ไปต่อแถวเพื่อรอเข้าถวายสักการะทางประตูวิเศษไชยศรี ซึ่งวันนี้จัดเตรียมบัตรคิวไว้ 11,100 ใบ โดยเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ประกาศแจ้งว่า บัตรคิวหมดแล้ว เมื่อถึงเวลา 16.00 น. สำนักพระราชวังปิดการสักการะพระบรมศพหน้าพระฉายาลักษณ์ และลงนามถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีจำนวนประชาชนมาลงนามแสดงความอาลัย 36,486 คน รวม 9 วัน 288,883คน รวมเงินที่ประชาชนถวายเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลทั้งหมด 1,304,870 บาท รวม 9 วัน เป็นเงิน 5,479,954.25 บาท
ลูกเสือ-เนตรนารีเข็นรถคนชรา
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณสนามหลวงตลอดทั้งวัน มีประชาชนเดินทางมาถวายดอกไม้สักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจำนวนมาก ขณะที่กลุ่มจิตอาสาได้ตั้งเต๊นท์แจกน้ำ อาหาร และบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ต่อเนื่องเช่นกัน โดยที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ถนนหน้าพระธาตุ มีกลุ่มลูกเสือ เนตรนารี กองร้อยพิเศษ เครือโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา นักเรียนจิตอาสา ช่วยเหลือบริการประชาชน อาทิ ยืนเป่านกหวีดช่วยโบกรถ เข็นรถเข็นรับส่งผู้สูงอายุ ผู้พิการเข้าไปภายในศาลาสหทัยสมาคม
สืบสานคำสอนพ่อ’พอเพียง’
สอบถามนายจำนงค์ พุทธโส วัย 73 ปี ซึ่งนั่งรถเข็นเข้ามาเป็นคันแรก โดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เดินทางมาจากบ้านย่านลาดพร้าว มาร่วมจุดเทียนและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีตั้งแต่เมื่อคืน แล้วรอจนถึงเช้าเพื่อเข้ามาลงนามแสดงความอาลัย ที่ผ่านมาลุงนำคำสอนของพระองค์มาเป็นแนวทางปฏิบัติในชีวิตหลายข้อ ที่เห็นชัดคือความขยันหมั่นเพียร มีน้อยใช้น้อย มีมากก็ใช้แต่พอดี
นางยุพิน บุญบวร วัย 59 ปีประชาชนคนแรกที่เข้ามาลงนามแสดงความอาลัยวันนี้กล่าวว่า พระองค์ยังอยู่ในใจเราเสมอ ทรงมองมาที่ประชาชนทรงดูแลทุกคนให้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข และสามัคคีกัน โดยส่วนตัวป้ายังได้น้อมนำคำสอนของพระองค์มาปฎิบัติในชีวิตประจำวันเสมอโดยเฉพาะเรื่องความประหยัด ด้วยการปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง อีกทั้งยังสอนลูกๆ ให้รู้จักประหยัด ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นด้วย
จุฬาฯ3พันคนกราบพระบรมศพ
เวลา 11.10น. คณาจารย์ พร้อมนิสิตและบุคลากรจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประมาณ 3,000 คน นำโดย รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ รองอธิการบดีด้านการพัฒนานิสิตและนิสิตเก่าสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกันกล่าวบทอาเศียรวาทน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ และกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บริเวณสนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยสมาคม หลังรวมตัวกันที่จุฬาฯตั้งแต่เวลา 07.00 น.กระทั่งเวลา 8.30 น.ร่วมกันกล่าวอาเศียรวาท และสักการะพระบรมรูป 2 รัชกาล แล้วจึงเดินทางมาถวายบังคมพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 บริเวณลานพระราชวังดุสิต ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบกันมาทุกปี
รศ.ดร.บัญชากล่าวว่า เนื่องจากปีนี้เกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ มหาวิทยาลัยได้นัดหมายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อมาสักการะพระบรมศพ ปรากฏว่ามีนิสิตพร้อมใจกันมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้กว่า 3,000 คน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นองค์พระบรมราชูปถัมภกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเดินเท้าจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเข้ามาทางประตูสวัสดิโสภา ผ่านประตูมณีนพรัตน์มายังสนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยฯ
จัดคิวถวายบังคมรอบละ100คน
จากกรณีสำนักพระราชวังออกประกาศเปิดให้ประชาชนเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท หลังพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม เวลา 13.00 น.ได้มีแผนจัดระเบียบประชาชนที่จะเข้าเฝ้าฯถวายบังคมพระบรมศพ โดยจะแจกบัตรคิวสำหรับผู้ต้องการเข้าไปถวายบังคมพระบรมศพ โดยจัดให้เข้าไปครั้งละ 100 คน เฉลี่ยวันละ 3-4 หมื่นคน พร้อมกำชับให้แต่งกายสุภาพ ผู้หญิงสวมกระโปรงเท่านั้น ไม่ใส่เสื้อแขนกุด ผู้ชายสวมกางเกงสุภาพ ห้ามสวมกางเกงยีนส์
จัดแผนวันละ5จว.ๆละ600คน
ด้านนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.)เปิดเผยว่า หลังสำนักพระราชวังประกาศเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมนั้น กระทรวงกำหนดแผนอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยกำหนดเป้าหมายจำนวนคนจากจังหวัดต่างๆวันละ 5 จังหวัดๆละ 600 คน รวมวันละ 3,000 คน เป็นเวลา 79 วันและกำหนดวันละ 6 จังหวัดๆละ 600 คน รวมวันละ 3,600 คนเป็นเวลา 5 วัน รวม 84 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2559 -20 มกราคม 2560 โดยจะสามารถอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนจากต่างจังหวัดได้รวม 255,000 คน ทั้งนี้ กำหนดวันเดินทางแต่ละจังหวัด ให้เดินทางวันละ 5 จังหวัด ครอบคลุมทั้ง 4 ภาค และจัดลำดับก่อน - หลังตามลำดับตัวอักษรชื่อจังหวัดของแต่ละภาค
สำหรับการปฏิบัติตามแผนดำเนินงานฯ ดังนี้ 1. ให้จังหวัดตั้งคณะทำงานอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน 2. ชี้แจงแนวทางดำเนินงาน ให้นายอำเภอดูแลด้วยตนเองป้องกันผู้ไม่หวังดีนำไปบิดเบือน 3.กำชับเรื่องผู้เดินทาง สถานที่ เวลานัดหมายที่กำหนดตามแผนดังกล่าว 4. ให้จังหวัดแนะนำเส้นทางเดินทาง จุดจอดรถในกรุงเทพฯ รวมทั้งจุดบริการรับ-ส่ง ประชาชนในการเดินทาง โดยให้จังหวัดประสานศูนย์อำนวยการกรมการปกครอง หมายเลขโทรศัพท์ 02 278 - 1008 ต่อ 319 เพื่อแจ้งจำนวนคน ยานพาหนะชื่อผู้ประสานงาน พร้อมเบอร์โทรศัพท์ วัน เวลา เพื่อสนับสนุนการอำนวยความสะดวกต่อไป อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำให้จัดทำบัญชีรายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ลำดับประจำตัวของผู้เดินทาง เพื่อสะดวกในการจัดระเบียบและตรวจนับผู้เดินทางกรณีพลัดหลง โดยเฉพาะคนชรา เด็ก และประชาชนที่ไม่คุ้นเคยพื้นที่กรุงเทพฯ
“บิ๊กป้อม”ตรวจเยี่ยมกอร.รส.
ในส่วนการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะและแสดงความอาลัยพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) สนามหลวง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมพล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และพล.ท.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่1 มาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ที่ปฎิบัติงานอำนวยความสะดวกให้ประชาชน
โดยพ.อ.มนัส จันทร์ดี รองเลขาธิการร่วม รส.บรรยายสรุปเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนรอบพระบรมมหาราชวังและสนามหลวงว่า มีเจ้าหน้าที่กองอำนวยการร่วมอยู่ในพื้นโดยรอบและมีจุดคัดกรองประชาชนเข้ามาในพื้นที่ 8 จุดมีกำลังของ ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครร่วมกันดูเเล และมีจุดตรวจที่2เป็นกองอำนวยการ ซึ่งอยู่ในสนามหลวง 9 จุด เพื่อคัดกรองประชาชนอีกชั้น
ต้องไม่มีมิจฉาชีพอาละวาด
พล.อ.ประวิตรกล่าวหลังตรวจเยี่ยมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ห่วงใยเรื่องการดูแลอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยให้ ประชาชนที่มาร่วมแเสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งจากการฟังบรรยายของกองอำนวยการร่วม กทม.และทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันทำให้เกิดความปลอดภัย โดยเฉพาะมิจฉาชีพต้องไม่เกิดขึ้น และที่สำคัญคือจุดแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มต้องให้บริการทั่วถึง ประกอบกับจากการฟังบรรยายสรุปการทำงานที่ผ่านมาทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถ้าเกิดอะไรขึ้นกอร.รส. มีชุดเคลื่อนที่เร็วแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม จากการเดินตรวจคิดว่ายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงที่ต้องดำเนินการเพิ่ม และจะพยายามไม่ให้เกิดเรื่องมิจฉาชีพ ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น
สร้างสะพานหลัง’กห.’เพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม กอร.รส. พล.อ.ประวิตรสั่งการให้ทหารช่าง จากองพลทหารราบที่ 9 สร้าง จัดสร้างสะพานอีก 1 สะพาน บริเวณข้างสะพานช้างโรงสี หลังกระทรวงกลาโหม หลังสร้างสะพานแรก หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ไปแล้ว ซึ่งสามารถช่วยจัดระบบการจราจรได้เป็นอย่างดี โดยพล.ต.วุฒิชัย นาควานิช ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (ผบ.พล.ร.9)เผยว่า จะสร้างสะพานให้เสร็จเพื่อใช้งานวันที่ 24 ตุลาคม รองรับประชาชนที่จะเดินทางมาจากด้านมหาดไทยและกทม.และเพื่อระบายการเข้า-ออกของ ประชาชนที่มาทาง ถ.ราชดำเนิน หากยังไม่เพียงพอ ทหารพร้อมสร้างเพิ่มเติมอีก
ตร.ชี้3แสนคนร้องสรรเสริญฯ
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)เปิดเผยผลการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่มาดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกประชาชนที่มาร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและกราบสักการะพระบรมศพ บริเวณสนามหลวง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่าผลการปฏิบัติภาพรวมเรียบร้อยดี มีประชาชนมาร่วมร้องเพลงและกราบสักการะพระบรมศพ รวมไม่ต่ำกว่า 300,000 คน เมื่อนับจากพื้นที่ถนนตามตารางเมตร ส่วนการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนนั้น นายกฯเป็นห่วง จึงสั่งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราความปลอดภัย เด็กพลัดหลง ลักเด็กไม่ให้เกิดขึ้น ส่วนต่างจังหวัดที่จัดพิธีสักการะผบ.ตร.สั่งการให้ผู้บัญชาการ(ผบช.)แต่ละภาคบูรณาการกับภาครัฐและเอกชน โดยตั้งศูนย์ศปก.ตร.เฝ้าฟังตลอด 24 ชั่วโมง
เปิด“สนามม้านางเลิ้ง”ให้พักฟรี
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.)ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดรองรับประชาชนที่ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สนามม้านางเลิ้ง) ซึ่งรัฐบาลจัดสถานที่พักและเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ อาหาร น้ำดื่ม หน่วยแพทย์ รถรับ-ส่ง บริการสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมเปิดเผยว่า สำหรับสนามม้านางเลิ้งมีรถบริการรับ-ส่ง 8 คันนำประชาชนไปสนามหลวง เวลา 06.00-21.00 น. ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 25 ตุลาคม หากประเมินแล้วว่ามีประชาชนเข้าไปใช้บริการมากก็จะเปิดต่อไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ วท.ยังนำยาดม ยาลม ยาหอม 10,000 ชุด มาแจกประชาชนที่สนามม้านางเลิ้ง สนามหลวงและหน้าพระบรมมหาราชวัง ช่วยบำบัดน้ำเสียจากการย้อมผ้าก่อนทิ้งลงคลองผดุงกรุงเกษม
พนักงานปตท.ร่วมอาลัยในหลวง
ส่วนบรรยากาศในต่างจังหวัด พสกนิกรแต่ละจังหวัดตั้งใจทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอย่างต่อเนื่อง วันเดียวกัน กลุ่มพนักงานบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด หรือ ปตท.สผ.ที่แท่นบงกชในอ่าวไทย ร่วมแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยแปรอักษรเป็นรูปเลข 9ไทย บนแท่นขุดเจาะน้ำมัน โดยพนักงานได้ยกพระบรมฉายาลักษณ์ขึ้นเหนือศีรษะน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
สำหรับจุดดังกล่าวเป็นหนึ่งในพื้นที่ปิโตรเลียมนวมินทร์กลางอ่าวไทย ซึ่งปี 2544 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมของโครงการบงกช และโครงการอาทิตย์ว่า “พื้นที่ปิโตรเลียมนวมินทร์”
ม.หัวเฉียวร่วมโครงการจิตอาสา
ชมรมลูกโพธิ์อาสา สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ กำหนดจัดโครงการค่ายลูกโพธิ์อาสาพัฒนาสังคม ครั้งที่ 7 ได้รับการสนับสนุนจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อให้นักศึกษาเกิดกระบวนการเรียนรู้ในการปรับตัว การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น และนำทักษะความรู้ด้านวิชาการมาประยุกต์ใช้กับชุมชนด้วยจิตอาสา และทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งนี้ กิจกรรม ประกอบด้วย การสร้างธนาคารปู การซ่อมแซมสะพานเส้นทางศึกษาธรรมชาติ การปลูกป่าชายเลน การให้ความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน โดยมีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการ 50 คน อาจารย์ที่ปรึกษา 1 คน
“บ่าวตา”เร่งเดินให้ถึงเร็วที่สุด
ขณะที่นายอธิตา ศรีทวีป หรือ “บ่าวตา” อายุ 30 ปี ชาวจ.สตูล ออกเดินเท้าจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นวันที่ 2 เพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และร่วมลงนามแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งตลอดเส้นทางมีประชาชนที่ทราบข่าวนำน้ำ อาหาร และเงินมาช่วยเหลือและให้กำลังใจ โดยบ่าวตามุ่งมั่นจะเดินให้ถึงสนามหลวงเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร
เชียงใหม่เช็ดป้ายต้นไม้ทรงปลูก
ที่ วัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พระครูสิริศีลสังวร หรือครูบาน้อย เตชปัญโญ เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล สั่งเด็กวัดและลูกศิษย์ทำความสะอาดป้ายระบุวันเดือนปี ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงปลูกต้นจำปา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2524 โดยต้นจำปานั้นยืนต้นสูงตระหง่านให้ความร่มเย็นข้างวิหารภายในวัด ซึ่งถือเป็นต้นไม้มงคล มีกลิ่นหอม แม้ผ่านมา 35 ปีแล้ว ทางวัดก็ดูแลเอาใจใส่ตลอดจนเติบโตสวยงาม
สุราษฎร์ฯจัดแสดงอนุสรณ์สถานฯ
ส่วนที่อนุสรณ์สถานแทรกเตอร์พระราชทาน ริมถ.สุราษฎร์ธานี-กระบี่ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านร่วมกันทำความสะอาดรถแทรกเตอร์ ทาสีและตกแต่งสถานที่ พร้อมจัดนิทรรศการเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเยี่ยมราษฎร 4 ครั้ง พร้อมพระราชทานรถแทรกเตอร์คันดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2511
นายประมวล พันธุ อายุ 65 ปี ข้าราชการบำนาญ อดีตท้องถิ่น อ.ชัยบุรี ซึ่งรับเสด็จฯถึง 4 ครั้ง กล่าวด้วยความปลาบปลื้มว่า พระองค์เสด็จฯอ.พระแสง ครั้งแรกทรงเห็นความยากลำบากของประชาชน จึงพระราชทานรถแทรกเตอร์ทางเครื่องบินลำเลียง จนมีการสร้างถนนใช้จนถึงทุกวันนี้
อ่างทองทำผัดไทยเลี้ยงปชช.
ขณะที่ ชาวบ้านในชุมชนวัดแสนสุข ต.บางปลากด อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ตั้งเต็นท์ทำผัดไทย เลี้ยงประชาชนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีประชาชนเข้าแถวรอรับเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีผู้จัดเตรียมข้าวของทำผัดไทยกว่า 120 กิโลกรัมเพื่อแจกจ่ายให้ทั่วถึง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี