วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นักศึกษา ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี กว่า 50 ชีวิต ลุยปลูกป่าชายเลน เพื่อเรียนรู้กฎหมายสิ่งแวดล้อม ในสถานที่จริง โดยแนวคิดสร้างสรรค์ในเรื่องของการเรียนรู้จาก อาจารย์ผู้สอนเผย ภายในห้องสี่เหลี่ยมอย่างเดียว มาเป็นการเข้าไปสัมผัสกับของจริง ซึ่งนอกจากจะได้เพิ่มประสบการณ์ชีวิตให้กับตนเองแล้ว ยังเป็นการได้รับความรู้ในด้านอื่นๆ ถึงสามด้านคือ ด้านวิชาการ ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ และเป็นการถมช่องว่างระหว่างนักศึกษา-ประชาชนที่ยังมีมุมมองไม่ตรงกัน ซึ่งการจัดกิจกรรมของนักศึกษาดังกล่าวนี้ถือได้ว่า เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกถึง 3 ตัว...สุดคุ้มจริงๆ
ผศ.จิตรดารมย์ รัตนวุฒิ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เปิดเผยให้ทราบว่า นักศึกษาดังกล่าวนี้ กำลังเรียนอยู่ในรายวิชากฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม จำนวน 50 คน ที่ไปร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน ณ พื้นที่ป่าชายเลน บ้านเฉงอะ หมู่ที่ 4 ตำบลตะเคียนทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ผลที่ได้รับจากการลงไปทำกิจกรรมในครั้งนี้ ทำให้เกิดผลใน 3 มิติด้วยกัน คือ 1.นักศึกษาได้เรียนรู้เนื้อหาของรายวิชาจากสถานที่จริง 2.นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมจริง ลงมือทำเองจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่หาอ่านไม่ได้จากตำรา และ 3.นักศึกษาได้ลงไปคลุกคลีกับชาวบ้านและท้องถิ่น ทำให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีและถมช่องว่างระหว่างนักศึกษากับประชาชน
นางสาวขวัญทยา บุญเชิด อาจารย์ผู้สอนรายวิชากฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัจจุบันป่าชายเลนถูกบุกรุกทำลายจนลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ทั้งที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์มาก ที่เป็นทั้งแนวป้องกันทางธรรมชาติช่วยรักษาแนวชายฝั่งทะเลไม่ให้ถูกคลื่นลมกัดเซาะ เป็นทั้งแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำและช่วยกรองมลพิษบริเวณชายฝั่ง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูอนุรักษ์โดยเร่งด่วน โดยการปรับปรุงพัฒนาการใช้ประโยชน์ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวบ้านและชุมชน โดยในส่วนของการจัดการเรียนการสอนนั้น ทุกวันนี้มันหมดยุคของการเรียนรู้เฉพาะในห้องเรียนสี่เหลี่ยมแคบๆ อย่างเดียวแล้ว ผู้สอนต้องเป็นคนนำเด็กก้าวออกไปสู่โลกกว้าง ต้องเปลี่ยนจินตนาการให้เป็นภาพจริง เด็กๆ ต้องได้สัมผัสเหตุการณ์และสถานที่จริง เพื่อที่พวกเขาจะได้เกิดประสบการณ์และเกิดการเรียนรู้ในมิติที่เป็นจริง เมื่อจบออกไปแล้วจะได้นำความรู้และประสบการณ์ไปใช้งานได้จริง
นายกิตติศักดิ์ เพชรรัตน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ กล่าวว่า การได้มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ทำให้ตนและเพื่อนๆ ตระหนักว่า การอนุรักษ์ป่าชายเลนจะเกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนที่เป็นผู้ใช้ประโยชน์จากป่าเหล่านั้นในชีวิตประจำวัน ต้องสร้างความรู้สึกรักหวงแหน ตนและเพื่อนๆ นักศึกษาซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนในท้องถิ่น เมื่อได้ลงมาทำกิจกรรมด้วยตนเองก็เกิดแรงจูงใจที่จะร่วมอนุรักษ์ และยังสามารถมีส่วนสำคัญในการทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองและคนในชุมชนเข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย
พฤติกรรมของสังคมโลกในวันนี้ หากมองด้วยสายตาที่หวาดระแวง จะพบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่บีบวงล้อมเข้ามาหาเรา ล้วนแล้วแต่แฝงไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและผลประโยชน์ของผู้ไม่หวังดีทั้งสิ้น การที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเองจากประสบการณ์ และการร่วมกลุ่ม สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติเป็นสิ่งที่คนในชาติพึงสังวรณ์กันไว้ให้มากที่สุด
ชนิตร ภู่กาญจน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี