วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
3 พ.ย.59 นายประเสริฐ โกศัลวิตร อดีตอธิบดีกรมหม่อนไหม และกรมการข้าว กล่าวกับ “สกู๊ปแนวหน้า” ว่า ถือเป็นโชคดีอย่างหนึ่งในชีวิตของตน ที่ครั้งหนึ่งเคยได้ถวายงานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในส่วนของโครงการพระราชดำริ “ฝนหลวง” ซึ่งทำให้ตนเห็นว่าพระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกร โดยเฉพาะเกษตรกรอย่างยิ่ง
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในแต่ละปฏิบัติการฝนหลวงนั้น พระองค์ท่านจะทรงศึกษาสภาพอากาศจากแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศด้วยพระองค์เอง ครั้งหนึ่งเคยรับทราบจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า ในช่วงที่เกิดวิกฤติภัยแล้ง พระองค์ท่านจะทรงประทับนั่งกับพื้นเพื่อทรงงาน โดยมีแผนที่สภาพทางอากาศวางกับพื้น ในช่วงที่เกิดภัยแล้งพระองค์ท่านจะทรงศึกษาสภาพภูมิอากาศที่จะมีการเปลี่ยนแปลงว่าในช่วงที่แล้งๆนั้น จะสามารถรีบทำฝนหลวงได้ภายในกี่วัน จากนั้นพระองค์ท่านจะรับสั่งผ่านลงมาให้พวกเราไปตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษฝนหลวงช่วยเหลือเกษตรกร
‘ครั้งหนึ่งผมเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษฝนหลวงไปตั้งหน่วยที่ จ.แพร่ เพื่อเติมน้ำลงเขื่อนสิริกิติ์ มีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมจำได้แม่น ในการพิมพ์ถวายรายงานประจำวันนั้น ปรากฏว่าผมพิมพ์ผิด ระหว่างที่ส่งเข้าไปนั้นก็มีเรื่องที่ตอบกลับมาเดี๋ยวนั้นทันทีจาก VR009-กส.9 ซึ่งเป็นสัญญาณเรียกขานทางวิทยุประจำพระองค์ ว่าที่ผมพิมพ์ผิดไปนั้นคืออะไร แสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านทรงติดตามปฏิบัติการฝนหลวงตลอดเวลา เหตุผลหนึ่งที่ทรงห่วงใยในเรื่องของน้ำ เพราะเวลาเข้าเฝ้าฯทุกครั้งจะทรงรับฝั่งว่าน้ำมีความสำคัญมากต่อภาคการเกษตร’ นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า อีกประสบการณ์ คือ เดือน มี.ค.2542 ช่วงนั้นเกิดวิกฤติภัยแล้ง พระองค์ทรงมีรับสั่งให้ตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษฝนหลวงที่ จ.นครสวรรค์ ครั้งนั้นพระองค์ท่านจะรับสั่งเป็นแผนที่สภาพอากาศมาว่าวันนี้ให้ขึ้นทำงานบริเวณนี้ ใช้สารเคมีสูตรนี้ มีบางวันทรงให้ทดสอบบินตอนกลางคืนประมาณตี 2 -3 ให้ขึ้นบินโปรยสารเคมีเป็นสูตรเย็นเหนือบริเวณบึง หรือที่มีน้ำอยู่ เพื่อดึงความชื้นรอถึงเช้า เพื่อที่จะสามารถมีความชื้นทำฝนหลวงได้
นอกจากนี้ช่วงปี 2541-2542 ที่มีปัญหาภัยแล้ง ประกอบกับประเทศกำลังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ เกิดภาวะฟองสบู่แตก มีคนตกงานจำนวนมาก ในระหว่างที่ตนเปิดปฏิบัติการฝนหลวงนั้น พบว่ามีการปลูกข้าวในลุ่มน้ำเจ้าพระยามากจริงๆ มีครั้งหนึ่งตนขับรถผ่านเข้าไปดูในพื้นที่ ไปพบเกษตรกรก็ได้คุยกับเขา สิ่งหนึ่งที่ได้ยินแล้วแทบจะน้ำตาไหล คือ บางคนตกงานมา แล้วกลับบ้านมาปลูกข้าวก็ยังพอมีกิน เพราะเขาเชื่อมั่นในพระองค์ท่านว่าจะสามารถช่วยเขาได้
นั่นคือศรัทธาและความเชื่อมั่นของเกษตรกร และพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระองค์ท่าน ในฐานะที่เคยถวายงานผมเห็นตลอดว่าพระองค์ท่านไม่เคยปล่อยปละละเลย หรือละเว้น ในการที่จะดูแลว่าจะทำอย่างไรให้น้ำมีพอใช้สำหรับการเกษตรและการอุปโภคบริโภค ไม่ใช่เกิดเหตุแล้วเพิ่งจะมารับสั่ง แต่ทุกอย่างพระองค์ท่านได้เตรียมอะไรไว้หมดแล้ว เตรียมไว้ล่วงหน้า และด้วยน้ำพระทัยที่แปรเปลี่ยนเป็นสายฝนที่โปรยปรายลงมา หลังทำฝนหลวงก็ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่การเกษตรหลายพื้นที่
‘พวกผมในฐานะที่ทำงานฝนหลวง เชื่อมั่นในพระบารมี ส่วนตัวผมนั้นทุกครั้งที่ขึ้นบินทำงาน ผมจะยกมือไหว้ ขอพระบารมีของพระองค์ท่านคุ้มครองพวกเรา ตลอดระยะเวลาเป็น 10 ปี ที่ทำงานกันมาทุกคนก็ปลอดภัยดี ผมเชื่อมั่นต่อพระบารมี พระองค์เคยทรงมีรับสั่งว่าการที่เราตั้งใจดี ทำดี ผลจะออกมาดี ทำให้เกษตรกรในพื้นที่แห้งแล้งได้รับประโยชน์ ตามที่พระองค์ท่านทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์เป็นอย่างมาก ตรงนี้คือสิ่งที่ผมและผู้ปฏิบัติงานฝนหลวงยึดมั่น’ นายประเสริฐ กล่าวทั้งน้ำตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี