รัฐบาลยืดหยุ่นเวลา ปชช.เข้ากราบพระบรมศพ เน้นความสะดวก-เรียบร้อย

รัฐบาลยืดหยุ่นเวลา ปชช.เข้ากราบพระบรมศพ เน้นความสะดวก-เรียบร้อย

วันศุกร์ ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

รัฐบาลยืดหยุ่นเวลา

ปชช.เข้ากราบพระบรมศพ

เน้นความสะดวก-เรียบร้อย

กสท.เคาะเกณฑ์ออกอากาศ

ตามปกติ-แต่ต้องเหมาะสม

แนะ’โลโก้ขาวดำ’ถึง21ม.ค.

เมื่อเวลา 14.56 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

กลุ่มผู้พิการเข้ากราบพระบรมศพ


สำหรับบรรยากาศโดยรอบพระบรมมหาราชวังตลอดทั้งวัน ยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลมารอเข้าแถวกราบถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันที่ 5 โดยวันนี้เริ่มเปิดให้กลุ่มแรกเข้าถวายสักการะตั้งแต่เวลา 05.00 น. กระทั่งเวลา 08.00 น. จึงเปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ ก่อนเดินตามทางระเบียงคด ผ่านพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เข้าสู่กำแพงแก้วของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยประชาชนหลายคนมารอตั้งแต่เวลา 03.00 น. โดยวันเดียวกันนี้ มีกลุ่มผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส 140 คน จากโครงการสู้เพื่อวันใหม่l เดินทางมากราบถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเบื้องหน้าพระโกศพระบรมศพ ซึ่งกลุ่มจิตอาสาได้ช่วยดูแลเข็นรถเข็นให้ตลอดเส้นทาง

หญิงท้อง8เดือนอึดต่อแถว5ชม.

นางทิวาทิพย์และนาย เศวตชัย พึ่งบัว แพทย์และพยาบาลจากอ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งนางทิวาทิพย์กำลังตั้งครรภ์ 8 เดือนด้วยกล่าวว่า ออกจากบ้านตั้งแต่ 5 โมงเย็นวันที่ 2 พฤศจิกายน และมาถึงกรุงเทพฯประมาณตีหนึ่ง พักอยู่กับเพื่อนย่านบางขุนนนท์และเดินทางมาถึงสนามหลวงตอน 7 โมง ใช้เวลารอกว่า 5 ชั่วโมงจึงได้เข้าสักการะพระบรมศพ แม้ว่าภรรยาจะตั้งครรภ์ 8 เดือนใกล้คลอด แต่ตั้งใจแล้วว่าต้องมาให้ได้ โดยลากิจมา 4 วัน อย่างน้อยแม้ลูกของเราจะไม่ได้เกิดในแผ่นดินของรัชกาลที่ 9 แต่ก็จะสอนลูกได้ว่า ที่เรามีแผ่นดินอยู่มีบ้านเมืองที่ดีก็ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อได้ขึ้นไปสักการะก็ได้อธิษฐานจิต ขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย และกล่าวปฏิญาณว่าเราจะเป็นคนดี ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด

ลุงเอี่ยมตื้นตันได้กราบพระบรมศพ

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.)จังหวัดนครปฐม พานายเอี่ยม คำภิรานนท์ อายุ 67 ปี อดีตขอทานเงินล้านซึ่งป่วยเป็นโปลิโอ อาศัยอยู่วัดไร่ขิง จ.นครปฐม เข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ทราบข่าวว่าลุงเอี่ยมเสียใจกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ที่ทราบว่าพระองค์สวรรคต จึงสั่งให้พ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ ผกก.สน.ธรรมศาลา จ.นครปฐมร่วมกับพมจ.นครปฐมไปหาลุงเอี่ยม และแจ้งว่าจะพามาถวายสักการะพระบรมศพวันนี้ ลุงเอี่ยมดีใจมากจนนอนไม่หลับ

ขณะที่ลุงเอี่ยมกล่าวว่า เสียใจต่อการสวรรคตของในหลวง คิดถึงพระองค์มาก พอได้เข้าไปกราบพระบรมศพแล้วรู้สึกปลื้มใจ รักในหลวงมาก เพราะทำเพื่อคนไทยทุกคน วันนี้ได้รูปพระบรมโกศก็จะนำไปบูชา

กกต.แจกผัดไทยเสวย-ลองกอง

ส่วนโดยรอบสนามหลวง ยังคงมีจิตอาสามาแจกสิ่งของ อาหารและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยที่เต็นท์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมแจกผัดไทย 1,500 ชุดและลองกอง 700 กิโลกรัม พุดดิ้ง สาหร่ายและน้ำดื่ม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เร่งปรับพื้นที่สนามหลวงคืบ60%

อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่จากสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.)เร่งปรับพื้นที่สนามหลวง โดยนำหินคลุกมาถมฝั่งทิศเหนือ รองรับการบริหารจัดการพื้นที่สนามหลวงใหม่และจะใช้ฝั่งทิศใต้ใกล้พระบรมมหาราชวังในการสร้างพระเมรุมาศ

นายประสาร พิพัฒน์วรรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.)ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการปรับปรุงพื้นที่สนามหลวง ก่อนเปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการเริ่มปรับปรุงพื้นที่ฝั่งทิศเหนือ เพื่อใช้เป็นจุดอำนวยความสะดวกประชาชนและรองรับเต็นท์หน่วยงานราชการ หรือจิตอาสา ให้มาอยู่จุดเดียวกัน การปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมด 23,000 ตร.ม.เพื่อตั้งเต็นท์ 72 หลังรองรับประชาชนได้ 2 หมื่นคนจะแล้วเสร็จวันที่ 6 พฤศจิกายน ขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 60% จะมีปัญหาฝนตกทำให้งานช้าบ้าง แต่เจ้าหน้าที่ทำงาน 24 ชั่วโมงเพื่อให้เสร็จทันกำหนด

ปรับเวลาแจกอาหาร3ช่วงวันแรก

ในการแจกอาหารให้ประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมนั้น วันนี้เป็นวันแรกที่กทม. เริ่มจัดระเบียบการแจกอาหารมื้อหลัก โดยเเบ่งเป็น 3 รอบคือ รอบ 06.00-9.00 น. 11.00-14.00 น. 16.00-20.00 น. อย่างไรก็ตาม เวลา 10.00น.ซึ่งเป็นช่วงหยุดแจกอาหาร มีประชาชนจากต่างจังหวัดและกรุงเทพฯที่หิวและไม่ทราบข่าวการจัดระเบียบ มายืนรอหน้าเต๊นท์ เพื่อรอรับการแจกข้าวจำนวนมาก แต่เมื่อจิตอาสาแจ้งให้ทราบก็เข้าใจแต่ยังปักหลักยืนต่อคิวรอต่อไป ขณะที่จิตอาหารบางเต็นท์ได้นำอาหารว่าง อาทิ ปาท่องโก๋ นม น้ำเต้าหู้มาแจกให้รับประทานรองท้องไปก่อน

จัดโซนตั้งเต็นท์เสร็จอาทิตย์หน้า

ด้านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการบริหารจัดการพื้นที่สนามหลวงและการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพว่า เจ้าหน้าที่กำลังปรับพื้นที่โซนเหนือ ด้านสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า) โดยจะเทยาง แอสฟัลต์ติก คอนกรีตภายในวันที่ 6 พฤศจิกายน จากนั้นจะเริ่มนำเต็นท์มากางเป็นที่พักคอยของประชาชนที่มากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในวันที่ 7 พฤศจิกายน ก่อนที่จะประชาชนจะเคลื่อนแถวไปที่ถนนหน้าพระธาตุ เพื่อเข้าประตูวิเศษไชยศรี คาดว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถตั้งเต็นท์ได้เรียบร้อยทั้งหมด ส่วนพื้นที่ที่จะใช้จัดทำพระเมรุมาศต้องรอหารือกับกระทรวงวัฒนธรรม ที่มีแผนและกรอบระยะเวลาแล้ว

ชี้ยืดหยุ่นเวลากราบพระบรมศพ

นายสุวพันธ์กล่าวต่อว่า เรามีแผนหลักและแผนต้องปรับปรุงรายสัปดาห์ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้เราใช้พื้นที่ด้านเหนือ บริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า มากกว่าด้านใต้ บริเวณพระบรมมหาราชวัง แต่ภายในเวลา 2 เดือนข้างหน้าต้องปรับแผนใหม่ เพราะจะใช้พื้นที่ด้านใต้มากกว่า รวมถึงปรับการบริหารจัดการดูแลอาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ จุดดูแลของส่วนราชการต่างๆที่มี 17 จุด จะปรับเปลี่ยนเมื่อเต็นท์พักคอยในโซนเหนือเสร็จ โดยมอบให้กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) เป็นหน่วยหลักในการบริหารจัดการ

สำหรับแนวโน้มขยายเวลาให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพจากเดิมปิดเวลา 21.00 น.นั้น นายสุวพันธุ์กล่าวว่า เวลาเปิด-ปิดยืดหยุ่นตามสภาพความพร้อม ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ก็เปิดให้ประชาชนเข้าตั้งแต่เช้าตรู่ ดังนั้น ทุกอย่างอยู่บนหลักอะลุ่มอล่วย แต่สิ่งสำคัญที่ทุกหน่วยงานคำนึงถึงคือ ประชาชนต้องได้รับความสะดวกและเรียบร้อย

ปชช.ช่วยแพ็คข้าวถุงล้นทำเนียบฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ส่วนราชการ และจิตอาสา ทั้งนักเรียนนักศึกษา ประชาชนทั่วไป ช่วยกันบรรจุข้าวเปลือกพอเพียง เพื่อเป็นของที่ระลึกไว้แจกให้ผุ้ที่มาถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพียงครึ่งวันเช้ามีประชาชน-จิตอาสาจำนวนมากมาร่วมกิจกรรมเต็มพื้นที่จนไม่สามารถรองรับได้ เจ้าหน้าที่ต้องขอร้องและประชาสัมพันธ์ว่า หากผู้ใดเดินทางมาร่วมกิจกรรมขอให้โทรศัพท์ลงมาแจ้งความจำนง และลงทะเบียนเพื่อจัดวันเวลาที่เหมาะสมก่อน สามารถโทรแจ้งได้ที่หมายเลข 02 283 4281 และ 02 283 4285 เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องสถาน

คุมสถานบันเทิงเปิดปิดตามกม.

นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.)กล่าวถึงการอำนวยความสะดวกประชาชนในต่างจังหวัดๆละ 750 คนที่จะเดินทางมากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า ได้ย้ำทุกจังหวัดกระจายประชาชนที่จะมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพให้ครบทุกอำเภอ ตำบลและหมู่บ้าน รวมถึงการจัดยานพาหนะให้รถมีสภาพดี ป้องกันอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้ออกทุกข์ จะเน้นย้ำผู้ว่าราชการจังหวัดควบคุมการเปิดปิดสถานบันเทิงให้เป็นไปตามกฎหมาย รวมทั้งงานประเพณีท้องถิ่นสามารถจัดได้ตามปกติ แต่ต้องดูแลให้เหมาะสม

ลงนามแสดงความอาลัย6.4ล.

ทั้งนี้ มท.สรุปผลการจัดกิจกรรมลงนามแสดงความอาลัยและการจัดกิจกรรมเถวายเป็นพระราชกุศลในส่วนต่างจังหวัด โดยมีประชาชนลงนามแสดงความอาลัยจนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 227,802 คน มียอดสะสมการลงนามแสดงความอาลัยตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 6,460,760 คน กิจกรรมน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยกิจกรรมสวดอภิธรรมมีผู้เข้าร่วม 254,990 คน ยอดผู้เข้าร่วมกิจกรรมสวดอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม-2 พฤศจิกายนมีจำนวน 8,281,493 คน การทำบุญตักบาตรมีผู้เข้าร่วม 41,092 คน ยอดผู้เข้าร่วมกิจกรรมการทำบุญตักบาตรตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน มีจำนวน 2,687,268 คน

กสท.แจงแนวทางออกอากาศ

ด้านสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวหลังเชิญผู้ประกอบการโทรทัศน์และวิทยุประชุมชี้แจงแนวทางออกอากาศหลังครบ30วันที่รัฐบาลกำหนดเป็นช่วงไว้ทุกข์กรณีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคตว่า แนวทางปฏิบัติประกอบด้วย กรณีถ่ายทอดสดให้ทุกสถานีเชื่อมโยงสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) เมื่อมีพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล กรณีมีพระบรมวงศานุวงศ์หรือกษัตริย์ประเทศต่างๆ มาร่วมในพระราชพิธีให้สลับสับเปลี่ยนกันเชื่อมโยงสัญญาณ กรณีรายการศาสตร์แห่งพระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนให้ทุกสถานีเชื่อมโยงสัญญาณจากทรท.ทุกวันศุกร์

ย้ำเสนอรายการปกติต้องเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม การออกอากาศของสถานีให้นำรายการปกติมาออกอากาศได้ แต่ให้คำนึงถึงความเหมาะสมของรายการ เพื่อปรับเปลี่ยนบรรยากาศความรู้สึกของประชาชนให้เป็นไปตามลำดับ เห็นควรให้กำหนดความเหมาะสม ดังนี้ ระหว่างวันที่ 13 -18 พฤศจิกายน ให้นำเข้ารายการที่มีระดับความเหมาะสมสำหรับปฐมวัย (ป) รายการสำหรับเด็ก (ด) รายการทั่วไป (ท)และรายการสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป (น13) ไม่ควรมีเนื้อหาลักษณะตลก เฮฮา ความรุนแรง เรื่องทางเพศ การใช้ถ้อยคำหยาบคาย

ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน-21 มกราคม 2560 ให้นำรายการที่มีระดับความเหมาะสมสำหรับปฐมวัย (ป) รายการสำหรับเด็ก (ด) รายการทั่วไป (ท)และรายการสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป (น13) รายการที่เหมาะสมสำหรับผู้ชมที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่ควรมีเนื้อหารุนแรง เรื่องทางเพศการใช้ถ้อยคำหยาบคาย ทั้งนี้ รายการเฉพาะไม่เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชน (ฉ)ให้ออกอากาศหลังวันที่ 21 มกราคม 2560

ใช้’โลโก้ขาว-ดำ’ถึง21มค.ปีหน้า

พ.อ.นทีกล่าวอีกว่า ส่วนการนำเสนอรายการที่เกี่ยวกับการระลึกถึงพระมหากรุณาที่คุณ การแสดงความอาลัย การเทิดพระเกียรติ ให้ผู้รับอนุญาตกำหนดเพิ่มเติมไว้ในผังรายการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาจนถึงวันที่ 21 มกราคม 2560 ทั้งนี้ ควรกำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ประชาชนส่วนมากได้รับชม

สำหรับการแต่งกายของพิธีกร ผู้ดำเนินรายการ ผู้ประกาศ ให้อยู่ในโทนสีดำ ขาว (เน้นสีดำ) สุภาพ กรณีผู้ร่วมรายการขอให้พิจารณาตามความเหมาะสม การแสดงตราสัญญาลักษณ์ของสถานี ควรปรับโทนสีเป็นโทนขาว ดำ และให้อยู่ในตำแหน่งมุมล่างขวาของจอ จนถึงวันที่ 21 มกราคม 2560 การโฆษณา ให้ยึดถือปฏิบัติตามแนวทางเดียวกับระดับความเหมาะสมของเนื้อหารายการที่ออกอากาศได้แต่ละห้วงเวลา

ช้าง10เชือกเข้ากรุงกราบพระบรมศพ

ด้านนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมของช้างแสนรู้งางามจำนวน 10 เชือก ที่เพนียดหลวงคล้องช้าง สถานที่ฝึกซ้อมช้างในการตั้งขบวนเดินแถว และการหมอบกราบ ซึ่งจังหวัดกำหนดนำช้าง 10 เชือก พร้อมคชอาภรณ์ชุดใหม่ เดินทางเข้ากรุงเทพฯในวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน เพื่อถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยขบวนช้าง 9 เชือกจัดแยกเป็นแถว และช้าง 1 เชือกนำขบวนอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์

นายลายทองเหรียญ มีพันธุ์ เจ้าของวังช้างอยุธยาแลเพนียด จ.พระนครศรีอยุธยากล่าวว่า พลายงางามทั้ง 10 เชือก เป็นช้างมงคล ทุกเชือกเคยถวายการแสดงหน้าพระที่นั่งหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2555 พระองค์เสด็จฯทุ่งมะขามหย่อง ส่วนคนเลี้ยงช้างทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ทรงให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ช้างไทย

ปทุมธานีจัดแปรอักษรยิ่งใหญ่

วันเดียวกัน หลายจังหวัดต่างรวมตัวแสดงพลังสามัคคี จงรักภักดีและร่วมแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลายรูปแบบ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ อย่างที่สนามหน้าโรงเรียนสามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่และประชาชนทุกหมู่เหล่าจำนวน 14,000 คนแปรอักษรเป็นข้อความว่า“ปทุมธานี รักพ่อ” มีการขับเสภาสดุดีพระเกียรติยศ ยืนไว้อาลัย 89 วินาที และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงภูมิแผ่นดินนวมินทร์มหาราชา เพลงยามเย็น โดยมีวงโยธวาทิต 14 วงร่วมบรรเลง

ชัยนาทระดม1.9หมื่นคนแปรอักษร

เช่นเดียวกับ จ.ชัยนาทเตรียมความพร้อมแปรอักษรถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 4 พฤศจิกายน โดยเป็นการรวมความสามัคคีของชาวชัยนาท 19,999 คน ที่เป็นอาสาสมัครจาก 8 อำเภอของชัยนาทและมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ

นร.กาฬสินธุ์-กระบี่แปรเลข9อาลัย

นอกจากนี้ คณะผู้บริหาร ครูนักเรียนนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์ ร่วมประกอบพิธีลงนามถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยร่วมลงนามแสดงความอาลัย ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีอย่างกึกก้อง พร้อมขับร้องและนำวงโปงลาง บรรเลงกลอนลำแสดงความอาลัย “ร้อยดวงใจไทนาฏศิลป์” ซึ่งคณะครูและนักเรียนร่วมกันประพันธ์ขึ้นมา ก่อนจะได้แปรอักษรเลข 9 ไทย พร้อมอักษร วนศ.กส. อักษรย่อของวิทยาลัย เพื่อน้อมเกล้าฯแสดงความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมถึงรร.สังทองข์วิทยา จ.กระบี่นำคณะผู้บริหาร ครู นักเรียนและบุคคลากรโรงเรียนประมาณ 4,000 คน แปรเป็นรูปหัวใจ ล้อมเลข ๙ และชื่อของโรงเรียนสังข์ทองวิทยา นอกจากนี้ จะให้คณะครูนักเรียนไว้ทุกข์ตลอด 1 ปี

อุดรฯปั่นด้วยใจกราบพระบรมศพ

ชมรมจักรยานจังหวัดอุดรธานี 1997 นำโดย นายเลขา ทองธิราช รวม 9 คน ปั่นจักรยานเริ่มต้นจากตัวจังหวัดมุ่งหน้ากรุงเทพฯ เพื่อไปกราบสักการะพระบรมศพพ่อหลวงของชาวไทย รวมระยะทาง 570 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้เวลาเดินทาง 5 วัน ถึงกรุงเทพฯประมาณวันที่ 8 พฤศจิกายน

มทบ24นำล้างตลาดทำดีถวายพ่อ

ขณะที่พล.ต.อำนวย จุลโนนยาง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 อุดรธานี นำชาวตลาดร่วมทำกิจกรรมทำดีเพื่อพ่อหลวง ทำความสะอาด ตลาดสด และรอบค่ายประจักษ์ศิลปาคม ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

สตูล3ศาสนาร่วมใจประกอบพิธี

วันเดียวกัน ที่สำนักงานเทศบาลเมืองสตูล นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่า พ่อค้า ประชาชนทั้ง 3 ศาสนา ประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม เพื่อแสดง ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยศาสนาพุทธ เริ่มพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป ศาสนาอิสลามเชิญโต๊ะอิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น ประจำมัสยิด และนาซะทั้ง 9 แห่ง ทำพิธีขอดูอา ถวายพระพร ศาสนาคริสต์ บาทหลวงประจำโบสถ์คริสต์ ในเขตเทศบาล ประกอบพิธีอ่าน พระคัมภีร์ พระธรรม ถวายพระพร จากนั้นทุกศาสนาร่วมยืนถวายอาลัยพร้อมกัน 9 นาที

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 3 พฤศจิกายน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง มีพระพิธีธรรม 8 รูปจากวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรม

ก่อนหน้านั้น เวลา 14.56 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์  เสด็จฯทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดอนงคารามวรวิหาร  และ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรม

ทั้งนี้ เวลา 07.00 น. พล.ต.หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล  เสด็จทรงเป็นประธานบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารที่สวดพระอภิธรรมศพ

จากนั้นเวลา 11.00 น. หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล  เป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรมจากวัดอนงคารามวรวิหาร  และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top