วันอาทิตย์ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
นักวิชาการ มธ.เสนอทางออก หลังพบ‘ทุนมนุษย์ไทย’ตกต่ำหลายด้าน

นักวิชาการ มธ.เสนอทางออก หลังพบ‘ทุนมนุษย์ไทย’ตกต่ำหลายด้าน

วันอาทิตย์ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 19.11 น.
Tag : การศึกษา ทุนมนุษย์ นักวิชาการธรรมศาสตร์ ปฏิรูปมหาวิทยาลัย ยูนิเซฟ รัฐบาล สศช TDRI
  •  

แนะรื้อใหญ่-แยกประเภท"มหา’ลัย"ให้ชัด "นักวิชาการ มธ."เสนอทางออก หลังพบ"ทุนมนุษย์ไทย"ตกต่ำหลายด้าน

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เสนอแนวทางแก้ปัญหา หลัง “สศช.-TDRI-ยูนิเซฟ” ตีแผ่รายงานประเทศไทยสอบตกทุนมนุษย์หลายด้าน เสนอรัฐบาลปฏิรูปมหาวิทยาลัยครั้งใหญ่ แยกประเภทมหาวิทยาลัยให้ชัดระหว่าง “วิชาการ-วิจัย” เพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญเชิงลึก กับ “วิทยาศาสตร์ประยุกต์” เพื่อผลิตกำลังคนป้อนตลาดแรงงาน ระบุ หากเศรษฐกิจแย่ก็แทบเป็นไปไม่ที่เด็กจะได้รับการสนับสนุนให้มีผลการเรียนที่ดี ชี้ชัดหากต้องการพัฒนาทรัพยากรบุคล ต้องคำนึงถึงสุขภาวะของครอบครัวและชุมชน


จากกรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) องค์การยูนิเซฟ และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) จัดทำรายงาน “การพัฒนาทุนมนุษย์ในประเทศไทย: การวิเคราะห์ช่องว่าง อุปสรรค และทางเลือกเชิงนโยบาย” โดยแสดงความกังวลต่อการพัฒนาทุนมนุษย์ในประเทศไทย อาทิ ภาวะทุพโภชนาการในเด็กเล็กอายุ 2-5 ปี ทักษะการอ่านและการคำนวณของนักเรียนที่ไม่เหมาะสมตามช่วงวัย มีคนอายุ 25-34 ปี เพียงร้อยละ 59 ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย มีวัยทำงานเพียง 3% เท่านั้น ที่ได้รับการฝึกอบรมหลังสำเร็จการศึกษา และพบว่าวุฒิการศึกษาไม่สอดคล้องกับความต้องการตลาดแรงงาน มีแรงงานมากกว่าครึ่งทำงานไม่ตรงสาย ฯลฯ พร้อมทั้งเสนอให้มหาวิทยาลัยต้องปรับตัวและเน้นสร้างทักษะที่จำเป็นให้กับนักศึกษา

ผศ.ชล บุนนาค ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพและความยั่งยืน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอของรายงานฯ ที่ระบุถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยที่จะต้องมีการปรับตัว ยกเลิกหลักสูตรที่ไม่จำเป็น และหันมาเน้นการสร้างคนที่มีความพร้อมจะเรียนรู้และมีทักษะที่จำเป็น เช่น การทำงานเป็นทีม การสื่อสาร หรือทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์ เพื่อให้บัณฑิตมีความยืดหยุ่นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันระบบอุดมศึกษาของไทยยังมีความสับสนในตัวเองอยู่ว่า ตกลงแล้วเราจะผลิตปัญญาชนเพื่อการพัฒนาประเทศ หรือจะผลิตแรงงานเพื่อเข้าสู่ตลาดกันแน่ ซึ่งในยุโรปจะมีการแยกสถาบันการศึกษาออกเป็น 2 ประเภทคือ 1. มหาวิทยาลัยทั่วไปที่เน้นวิชาการและวิจัย (University/Research University) เน้นการเรียนการสอนเชิงวิชาการและการวิจัยขั้นพื้นฐานเป็นหลัก เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และผลักดันความก้าวหน้าทางวิชาการในระดับสากล 2. มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (University of Applied Sciences) หรือโพลีเทคนิค (Polytechnic) ที่มุ่งเน้นการศึกษาเฉพาะเจาะจงไปที่สาขาอาชีพเป็นสำคัญ เพื่อผลิตบุคลากรที่มีทักษะตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งการแยกประเภทมหาวิทยาลัยเช่นนี้จะเหมาะสมต่อการพัฒนาทุนมนุษย์และทรัพยากรบุคคลและเป็นทางออกของประเทศไทยได้

ผศ.ชล กล่าวว่า หากรัฐบาลตัดสินใจปฏิรูปมหาวิทยาลัยครั้งใหญ่ ด้วยการดำเนินการตามแนวทางนี้ ก็จะช่วยให้มหาวิทยาลัยแต่ละประเภทสามารถทุ่มเททรัพยากรเพื่อตอบวัตถุประสงค์นั้นๆ ได้อย่างชัดเจน เช่น มหาวิทยาลัยวิจัยก็จะวิจัยเชิงลึกได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการสร้างความสัมพันธ์กับภาคอุตสาหกรรม หรือต้องแบ่งกำลังคนไปดูแลทั้งงานวิจัยและการสอนแบบประยุกต์ นักศึกษาเองก็จะเลือกได้อย่างชัดเจนว่าจะศึกษาแนวทางใด ขณะที่ตลาดแรงงานก็จะชัดเจน คือหากต้องการคนที่พร้อมทำงานได้ทันทีก็จะรับผู้จบจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ แต่หากต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ต้องการความรู้เชิงลึกก็จะรับผู้จบจากมหาวิทยาลัยวิจัย

“รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณสำหรับมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์เพื่อให้คุณภาพและมาตรฐานที่สูง แต่หลังจากนั้นควรส่งเสริมให้แต่ละสถาบันแข่งขันกันเอง ทั้งในด้านการดึงดูดนักศึกษาและการร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนส่วนมหาวิทยาลัยวิจัย รัฐบาลต้องสนับสนุน งบประมาณวิจัยอย่างมียุทธศาสตร์ โดยไม่ใช้วิธีแบบเบี้ยหัวแตก หรือการให้งบประมาณจำนวนน้อยๆ กระจายไปหลายส่วนเหมือนที่ผ่านมา” ผศ.ชล กล่าว

นอกจากแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องระบบการศึกษา การฝึกอบรม รวมถึงระบบที่เกี่ยวข้องกับตัวเด็กและเยาวชนที่นำเสนอเอาไว้ในตัวรายงานแล้ว นักวิชาการธรรมศาสตร์รายนี้ กล่าวว่า ปัญหารากฐานสำคัญต่อการพัฒนาทุนมนุษย์และทรัพยากรบุคคลที่ค้องแก้ไขคือปัจจัยทางเศรษฐกิจ การมองเรื่องทรัพยากรมนุษย์จำเป็นต้องมองไปที่สุขภาวะของครอบครัวและชุมชนด้วย แยกกันไม่ได้ หากเด็กเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่พร้อมหรือได้รับการเลี้ยงดูโดยผู้สูงอายุอย่างตามมีตามเกิด ก็แทบจะเป็นไปไม่เลยที่เด็กจะได้รับการสนับสนุนให้มีผลการเรียนที่ดี สาเหตุที่ดึงพ่อแม่ออกจากบ้านก็คือปัจจัยทางเศรษฐกิจ

“ผมคิดว่ารายงานฉบับนี้ยังขาดการพูดถึงปัญหาที่เป็นรากฐานอย่างแท้จริง เช่น อัตราค่าแรงขั้นต่ำที่ไม่เพียงพอจนเป็นเหตุให้พ่อแม่และผู้ปกครองส่วนใหญ่ต้องทำงานหนักล่วงเวลาจนไม่มีเวลาดูแลบุตรหลานได้อย่างเต็มที่ การขาดแคลนงานที่มีมูลค่าสูงในชนบทจนเป็นผลให้ทำให้คนต้องย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในเมืองและทิ้งลูกหลานไว้กับผู้สูงอายุ ฯลฯ” ผศ.ชล กล่าว

ผศ.ชล กล่าวว่า ในส่วนของภาวะทุพโภชนาการในเด็กเล็กอายุ 2-5 ปี ซึ่งนอกจากความรู้ด้านโภชนาการที่ต้องส่งเสริมกันต่อไปแล้ว ปัญหานี้ยังสัมพันธ์กับปัจจัยทางเศรษฐกิจและเชื่อมโยงโดยตรงกับระบบอาหารและเกษตรกรรมของประเทศอีกด้วย ปัจจุบันอาหารที่ดีมีราคาแพง คนจำนวนไม่น้อยจึงเข้าไม่ถึงอาหารที่ดี ซึ่งมีผลต่อการทำลายรากฐานการพัฒนามนุษย์อย่างแท้จริง รวมทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจและปัจจัยอื่นๆ ที่ผลักดันเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา อาทิ อบายมุข สิ่งเสพติด การขาดแคลนพื้นที่สาธารณะหรือแหล่งเรียนรู้นอกโรงเรียน ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของสุขภาวะครอบครัวและชุมชนทั้งสิ้น

สำหรับประเด็นมีวัยแรงงานเพียง 3% ที่ผ่านการฝึกอบรมหลังสำเร็จการศึกษา ส่วนตัวมองว่าก็เป็นผลมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจเช่นกัน กล่าวคือสภาพการทำงานที่บีบคั้นและนโยบายของบริษัท โดยเฉพาะในบริษัทขนาดเล็กที่ไม่มีทรัพยากรมากเพียงพอจึงไม่สามารถเปิดช่องให้พนักงานไปฝึกอบรมได้ ขณะที่พนักงานก็ต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อหารายได้ให้เพียงพอจนไม่มีเวลาในการพัฒนาตนเอง ฉะนั้นหากจะคาดหวังให้พนักงานไปพัฒนาตนเองเพียงอย่างเดียวโดยไม่มองถึงปัญหาเหล่านี้ แนวทางดังกล่าวก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ครูอีสานรวมพลังครั้งใหญ่ ปฏิรูปห้องเรียนเพื่อเยาวชนไทย ครูอีสานรวมพลังครั้งใหญ่ ปฏิรูปห้องเรียนเพื่อเยาวชนไทย
  • \'รัฐบาล\'เตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค. ประดับพระฉายาลักษณ์ 1-31 ส.ค.68 'รัฐบาล'เตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค. ประดับพระฉายาลักษณ์ 1-31 ส.ค.68
  • \'เปรมศักดิ์\'จี้รมว.อว.ขันน็อตมหาวิทยาลัย เช็คบิลบุคลากรนอกแถวเอี่ยวค้ายา 'เปรมศักดิ์'จี้รมว.อว.ขันน็อตมหาวิทยาลัย เช็คบิลบุคลากรนอกแถวเอี่ยวค้ายา
  • ‘เฉลิมชัย’คิกออฟ แคมปัสทัวร์‘พระแม่พาติว ซีซัน 2’ มอบทุน-ติวเข้มฟรี เพื่อเยาวชนไทยทั่วประเทศได้โอกาสเท่าเทียม ‘เฉลิมชัย’คิกออฟ แคมปัสทัวร์‘พระแม่พาติว ซีซัน 2’ มอบทุน-ติวเข้มฟรี เพื่อเยาวชนไทยทั่วประเทศได้โอกาสเท่าเทียม
  • \'เด็กไทย\'สร้างชื่อ! เวที\'คณิตศาสตร์โอลิมปิก\'ออสเตรเลีย 'เด็กไทย'สร้างชื่อ! เวที'คณิตศาสตร์โอลิมปิก'ออสเตรเลีย
  • สพฐ.เตรียมขับเคลื่อนนโยบาย‘รมว.ศธ.-รมช.ศธ.’ พร้อมยกเครื่องโรงเรียนขนาดเล็ก สพฐ.เตรียมขับเคลื่อนนโยบาย‘รมว.ศธ.-รมช.ศธ.’ พร้อมยกเครื่องโรงเรียนขนาดเล็ก
  •  

Breaking News

ไม่รอด! รวบหนุ่มเมียนมาลักลอบขนยาบ้า 3 แสนเม็ด

ทบ.ยัน'กัมพูชา'นำผู้ช่วยทูตทหารดูความเสียหายวัดตาเมือนแซนเจย เป็นพื้นที่สู้รบ-ไร้พลเรือน

เล่าให้ฟังแบบง่ายๆ! 'ปราสาทตาควาย'เกิดอะไรขึ้น

เลขาฯสทนช.ลุยน่าน! ตรวจจุดเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง-วางแผนป้องกันน้ำท่วมทั้งระบบ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved