นายสมนึก จงเสริมตระกูล นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ กรมการข้าว เปิดเผยว่า กลุ่มผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้บ้านจันทร์หอม ต.หนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ มีการรวมกลุ่มกันทำนาในรูปแบบนาแปลงใหญ่ ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ มีหน้าที่เข้าไปส่งเสริมถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยมุ่งเน้นให้เกษตรกรผลิตข้าวที่มีคุณภาพ ไม่มีสารตกค้าง สร้างความปลอดภัยทั้งตัวเกษตรกรและผู้บริโภค
สำหรับพื้นที่ดำเนินการนาแปลงใหญ่ ของกลุ่มผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้บ้านจันทร์หอม จำนวน 3,000 ไร่ สมาชิก 101 ราย แบ่งกิจกรรมทำนาออกเป็น 3 แบบ คือ แปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ คุณภาพ จำนวน 200 ไร่ แปลงผลิตข้าวปลอดภัยมาตรฐาน GAP จำนวน 2,200 ไร่ และแปลงข้าวอินทรีย์ 600 ไร่ ทั้งนี้ จากพื้นที่ที่อยู่ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ มีความเหมาะสมในการปลูกข้าวหอมมะลิ เกษตรกรส่วนใหญ่จึงปลูกข้าวพันธุ์ ขาวดอกมะลิ 105 กับ กข 15 ซึ่งข้อดีของข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้จะมีรสชาติอร่อยกว่าข้าวหอมมะลิทั่วไป เม็ดข้าวจะมีความงอกดีและมีกลิ่นหอมมากกว่า ทำให้สามารถจำหน่ายได้ราคาดีและเป็นที่ต้องการของตลาด
ทางกลุ่มนาแปลงใหญ่ได้มีการเชื่อมโยงตลาดกับทางสหกรณ์การเกษตรชุมพลบุรี โดยผลผลิตที่นำมาขายให้กับสหกรณ์ต้องเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐานตามที่กำหนด นอกจากนี้กลุ่มยังมีการเชื่อมโยงตลาดอีกส่วนหนึ่งที่เป็นข้าวตลาดเฉพาะคือ ข้าวหอมมะลิคุณภาพ GI ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนรับรองมาตรฐานจาก EU
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี