บังเอิญเข้าไปในเฟซบุ๊คของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ เมื่อไม่กี่วันมานี้ ไปพบภาพที่ท่านโพสต์ไว้ เป็นภาพอินโฟกราฟิกอย่างที่เขานิยมกันจำนวน 11 ภาพ พร้อมข้อความที่ท่านเขียนไว้ว่า “กระทรวงพาณิชย์ฝากคำแนะนำถึงเกษตรกร เตรียมการเข้าร่วมโครงการชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60”
เห็นท่านรัฐมนตรีโพสต์เอง (หรือเปล่าไม่ทราบ) แถมเป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีตราสัญลักษณ์ของกระทรวงพาณิชย์ และ กรมการค้าภายในปรากฏอยู่ทุกภาพ ทำให้เข้าใจได้ว่ากรมการค้าภายในเป็นคนผลิตภาพกราฟิกดังกล่าวนี้ ครั้นจะผ่านเลยไปเฉยๆก็กระไรอยู่ ยอมเสียเวลาเปิดดูเสียหน่อย จะดูคนเดียวไม่แชร์ก็จะใจดำเกินไป นอกจากแชร์ในโซเชียลมีเดียแล้ว ก็จะขอนำมาถ่ายทอดไว้ ณ ที่นี้ด้วย
คำแนะนำดังกล่าวเริ่มจากการเกี่ยวข้าวข้าวที่มีสิทธิ์รับประโยชน์จากโครงการชะลอการขายข้าวในครั้งนี้ประกอบไปด้วย ข้าวหอมมะลิ ข้าวเจ้า และข้าวปทุมธานี 1 จากนั้นตากข้าวให้แห้ง เพื่อให้ได้ราคาดี โดยข้าวเปลือกความชื้นต้องไม่เกิน 5% และสิ่งเจือปนไม่เกิน 2% เมื่อแห้งดีแล้วให้เก็บเข้ายุ้งฉาง ชาวนาจะต้องเตรียมยุ้งฉางให้ดีและให้พร้อม ยุ้งฉางจะต้องปิดให้มิดชิด ป้องกัน นก หนู และแมลงเข้าไปทำลาย เวลาเก็บข้าวเปลือกก็ต้องเกลี่ยกองข้าวให้เสมอกัน
ชาวนาจะต้องรวมกลุ่มกันในหมู่บ้านแล้วนัดหมายวัน เวลา กับเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. ในจังหวัดให้เข้าไปตรวจสอบคุณภาพ และปริมาณข้าว ทำสัญญากู้เงิน โดยใช้ข้าวเป็นหลักประกัน และให้เพื่อนชาวนาด้วยกันค้ำประกันร่วมชาวนาเจ้าของข้าวจะได้รับเงินกู้ภายใน 3 วัน นับจากวันทำสัญญา โดย ธ.ก.ส. จะโอนเข้าบัญชีเงินฝากที่เปิดบัญชีไว้กับ ธ.ก.ส. ทั้งนี้ไม่มีการหักหนี้เก่าแต่อย่างใด ยกเว้นแต่ว่าชาวนาจะนำเงินกู้นั้นมาชำระหนี้เก่าเองตามความสมัครใจ
วงเงินกู้ตามโครงการนี้ ถ้าเป็นข้าวหอมมะลิ ตันละ 9,500 บาท ข้าวเจ้า ตันละ7,000 บาท และ ข้าวปทุมธานี 1 ตันละ 7,800บาท บวกค่าเก็บรักษาในยุ้งฉางอีกตันละ 1,500 บาท และค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวอีกตันละ 2,000 บาท เท่ากันหมดกับข้าวทุกชนิด รวมกับค่าต้นทุนการผลิต ข้าวหอมมะลิตันละ 2,500 บาท ข้าวเจ้าตันละ 2,000 บาท และ ข้าวปทุมธานี 1 ตันละ 1,600 บาท รวมแล้วเกษตรกรจะได้รับเงินกู้ข้าวหอมมะลิตันละ 15,500 บาท ข้าวเจ้าตันละ 12,500 บาท และ ข้าวปทุมธานี 1 ตันละ 12,900 บาท
เอาเงินกู้ไปใช้ให้สบายใจก่อน ภายใน 5เดือนนับจากวันที่ได้รับเงินกู้ ราคาข้าวดีเมื่อไรค่อยขายข้าว แล้วนำเงินมาชำระหนี้เงินกู้ให้หมดภายใน 5 เดือนที่ว่านี้
สำหรับเกษตรกรชาวนาที่ไม่กู้เงิน และอยากจะขายข้าวเลย ณ เวลานี้ ซึ่งราคาข้าวยังตกต่ำอยู่ คือ ข้าวหอมมะลิ ตันละ 9,000- 9,800 บาท ข้าวเจ้า ตันละ 7,200-7,600 บาท ข้าวปทุมธานี 1 ตันละ 8,000-8,100 บาท รัฐบาลจะช่วยเหลือต้นทุนการผลิต ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว และ และด้านอื่นๆ รวมเป็นเงินช่วยเหลือ ข้าวหอมมะลิ ตันละ 5,500 บาท ข้าวเจ้าตันละ 5,000 บาท และข้าวปทุมธานี1 ตันละ 4,600 บาท ทั้งนี้ชาวนาที่จะได้รับความช่วยเหลือดังกล่าวต้องขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามฐานข้อมูลโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือต้นทุนการผลิต ทั้งหลายทั้งมวลนี้สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ธ.ก.ส. หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัดทุกจังหวัด หรือ สายด่วน 1569
อินโฟกราฟิกดังกล่าวยังมี คำขวัญว่า “พัฒนาเกษตรกรไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”พร้อมระบุชื่อ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)
นอกจากอินโฟกราฟิกแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้นำนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สุเทพ คงมาก พร้อมคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้ช่วยเหลือชาวนาด้วย ซึ่งนายกสมาคมฯ ยืนยันว่าไม่ได้จัดฉาก แต่ต้องการมาขอบคุณนายกรัฐมนตรีจริงๆ ก็ว่ากันไป
แต่จะว่ากันไปถึงไหนก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมีข่าวว่า บิ๊กฉัตรพยายามเร่งเรื่องการปรับปรุงสินเชื่อตามโครงการแปลงใหญ่เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีให้ทันภายในสัปดาห์หน้า เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับลั่นวาจาว่าถ้าอธิบดีคนไหนไม่ทำงานจะปลด!!!
ในฐานะคนนอก ก็รู้สึกเห็นใจอธิบดีทั้งหลายอยู่เหมือนกัน เพราะนโยบายของกระทรวงเกษตรดูจะเน้นหลายด้านจนสับสน วันหนึ่งบอกว่าจะเร่งให้ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ และเศรษฐกิจพอเพียง มาอีกวันหนึ่งจะสนับสนุนให้เกษตรกรกู้หนี้ยืมสินกันเยอะๆ ....ก็ไม่รู้สินะ
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี