18 ธ.ต. 59 ที่วัดป่าพุทธรังษีโซล พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เดินทางมาพบปะกับผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการ จำนวนกว่า 200 คน เพื่อรับทราบถึงชีวิตความเป็นอยู่ และปัญหาการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐในเกาหลี เบื้องต้นพบว่ามีกรณีที่อาจต้องเร่งประสานให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน เช่น กรณีแรงงานไทยไม่สามารถขอต่อวีซ่าได้ เพราะอายุเกิน 40 ปี แต่นายจ้างไม่ยอมให้กลับประเทศเนื่องจากเป็นคนดี นายจ้างไว้ใจ และร้องขอให้อยู่ต่อ กรณีนี้คนเลยกลายเป็นโรบินฮู้ดไปโดยปริยาย ซึ่งตัวผู้ใช้แรงงานเองก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบากเพราะต้องหลบซ่อน โดยในวันนี้คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและคุ้มครองสิทธิพลเมือง (ACRC) แห่งสาธารณรัฐเกาหลี รวมถึงผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีก็มารับฟังปัญหาด้วย โดยจะมีการประสานในระดับนโยบายต่อไป

พล.อ.วิทวัส กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาการถูกกดขี่ เอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง โดยเฉพาะแรงงานเกษตร ปศุสัตว์ เช่น นายจ้างให้ทำงานวันหยุดโดยไม่มีค่าล่วงเวลา ซึ่งในกรณีนี้ทางคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและคุ้มครองสิทธิพลเมือง (ACRC) แห่งสาธารณรัฐเกาหลี เองไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือควบคู่กับกระทรวงแรงงานของเกาหลี โดยขอให้ผู้ใช้แรงงานแจ้งว่าเกิดอะไรขึ้น จะได้รีบเข้าไปตรวจสอบและสอบสวน หากนายจ้างมีความผิดจะโดนลงโทษตามกฎหมาย และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ปัญหาสถานที่ประกอบการไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ปัญหาแรงงานโดนโกงค่าจ้าง ปัญหาหญิงมีครรภ์ ตลอดจนปัญหาของผู้ใช้แรงงานเองที่เกิดจากความไม่เข้าใจถึงสิทธิ ทำให้กลายเป็นข้อพิพาทระหว่างผู้ใช้แรงงานกับนายจ้าง

พล.อ.วิทวัส กล่าวอีก ทั้งนี้หน่วยงานรัฐไม่เคยทิ้งประชาชน แต่ในทางกลับกันอยากให้ทุกคนรักษากฎกติกาด้วย เพราะจะทำให้การช่วยเหลือราบรื่นและสะดวกขึ้น และควรฝึกในเรื่องของภาษาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเสนอให้ทางทูตแรงงานจัดหาครูมาสอนภาษาหลังเวลาเลิกงาน เพื่อที่จะได้พึ่งพาตนเองได้ ทั้งนี้ อยากฝากไปถึงผู้ที่ลักลอบเข้ามาใช้แรงงานผิดกฎหมาย และเรื่องยาเสพติด ว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะจะทำให้ไทยถูกตัดโควต้า ทำให้ผู้ที่อยากจะเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายเสียโอกาส และเป็นการทำลายภาพพจน์ของประเทศไทย อย่างไรก็ตามทางผู้ตรวจการแผ่นดินจะรวบรวมปัญหาทั้งหมดที่รับทราบในวันนี้ไปยังรัฐบาลไทยเพื่อหาแนวทางการแก้ไขต่อไป

ด้าน นางกาญจนา วงศ์สุวรรณ์ อัครราชทูตฝ่ายแรงงานประจำสถานทูตไทยในเกาหลี กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินไทยเดินทางมาเยือนแรงงานไทยในเกาหลี เพราะมีปัญหาด้านแรงงานจำนวนมากที่ต้องการผลักดันและสนับสนุนทั้งจากหน่วยงานรัฐของไทยและเกาหลี และการที่ไทยลงนามความร่วมมือกับคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและคุ้มครองสิทธิพลเมือง (ACRC) แห่งสาธารณรัฐเกาหลี ทำให้กระทรวงแรงงานมีเครือข่ายในการประสานขอรับความช่วยเหลือ เยียวยา แก้ปัญหาต่างๆ ได้สะดวกขึ้น

ขณะที่ นายคิน อิน ซู รองประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและสิทธิพลเมือง (ACRC) แห่งสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวว่า จากการที่ได้รับฟังปัญหาในวันนี้ มีหลายสิ่งที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่และเพิ่งได้รับทราบ แต่อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและสิทธิพลเมือง (ACRC) แห่งสาธารณรัฐเกาหลี จะเร่งให้ความช่วยเหลือตามพันธกรณีที่มีแก่กัน ซึ่งขอให้ผู้ประสบปัญหาแจ้งให้ทราบ โดยเข้าไปยื่นร้องเรียนทางระบบ E-People ผ่านเว็บไซต์ www.epeopel.go.kr หรือผ่านทาง www.acrc.go.kr รวมทั้งศูนย์ช่วยเหลือแรงงานต่างชาติที่เป็นทางการ 8 แห่ง และศูนย์ช่วยเหลือแรงงานต่างชาติที่ไม่เป็นทางการอีก 88 แห่ง