ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมวิชาการเกษตร ได้ประกาศเตือนเกษตรกรชาวสวนมังคุด ในช่วงฤดูหนาวอากาศเย็น อุณหภูมิลดลง และมีหมอกในยามเช้า ให้เฝ้าระวังการระบาดของ 3 แมลงศัตรูพืช คือ เพลี้ยไฟ หนอนกินใบ และหนอนชอนใบ โดยเฉพาะเพลี้ยไฟจะเข้าทำลายในระยะออกดอกและใบอ่อน ดอกมักมีแผลสีน้ำตาลจากการทำลายของเพลี้ยไฟ ส่วนใบจะแสดงอาการหงิกงอและมีแผลสีน้ำตาล เกษตรกรควรสำรวจการระบาดบนยอดอ่อนหรือดอก หากพบเพลี้ยไฟจำนวนมากกว่าหรือเท่ากับ 1 ตัวต่อยอด
หรือ 1 ตัวต่อ 4 ดอก (0.25 ตัวต่อดอก) ให้เกษตรกรพ่นด้วยสารอิมิดาโคลพริด 70% ดับเบิ้ลยูจี อัตรา 3 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารคาร์โบซัลแฟน 20% อีซี อัตรา 50 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟิโพรนิล 5% เอสซี อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร และไม่ควรพ่นสารชนิดใดชนิดหนึ่งติดต่อกันหลายครั้ง เพราะจะทำให้เพลี้ยไฟต้านทานสารฆ่าแมลงได้
สำหรับหนอนกินใบ จะพบหนอนกัดกินใบของมังคุดทำให้ได้รับความเสียหาย หากพบหนอนกัดกินใบอ่อนเข้าทำลายประมาณ 20% ของยอด ให้พ่นสารคาร์บาริล 85% ดับบลิวพี อัตรา 60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่น 2 ครั้ง ห่างกัน 5 วัน ส่วนหนอนชอนใบ มักพบใบมังคุดมีอาการหงิก เมื่อสังเกตใต้ใบจะพบรอยทางยาวเป็นเส้นสีขาวจากการทำลายของหนอนชอนใบ หากพบหนอนกัดกินใบอ่อนเข้าทำลายประมาณ 30% ของยอด ให้พ่นสารคาร์บาริล 85% ดับบลิวพี อัตรา 60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่น 2 ครั้ง ห่างกัน 10 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี