"ครูปรีชา"คู่กรณี"ลุงจรูญ" หวย 30 ล้านอลเวง มั่นใจลอตเตอรี่เป็นของตน 100% เผยหลัง ผบ.ตร.สั่งโอนคดีไปกองปราบฯ รู้สึกสบายใจ พร้อมวางมาดหล่อให้สื่อถ่ายภาพหน้าบ้าน พร้อมถาม "นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์" เป็นใครมาสั่งให้กลับใจ แนะให้สู้ในศาลยุติธรรม
ความคืบหน้ากรณีหวย 30 ล้านบาทระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี อดีตข้าราชเกษียณตำรวจ กับ นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ที่ต่างฝ่ายต่างออกมายืนยันว่าเป็นของตนเองจนกลายเป็นคดีความอยู่ในขณะนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้ 6 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 143/22 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อขอพบนายปรีชา ใคร่ครวญ เพื่อขอสัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งโอนคดีกรณีหวย 30 ล้านจากกองบังคับการตำรวจภูธร ภาค 7 ไปให้ตำรวจกองปราบปรามดูแลคดีแทน
โดยเมื่อไปถึงพบว่าประตูเหล็กหน้าบ้านนั้นล็อกกุญแจเอาไว้ ส่วนกำแพงบ้านนั้นทาด้วยสีชมพู สำหรับตัวบ้านเป็นบ้างหลังขนาดใหญ่สูง 2 ชั้น ปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 1-2 งาน ส่วนภายในบริเวณบ้านนั้นมีรถยนต์กระบะจอดอยู่จำนวน 2 คัน ซึ่งผู้สื่อข่าวได้กดกริ่งหน้าบ้านพร้อมตะโกนเรียกครูปรีชาเพื่อขอสัมภาษณ์
ไม่นานนักก็พบกับครูปรีชา และได้ตะโกนแจ้งบอกสื่อมวลชนให้รอก่อนเพื่อขออาบน้ำเตรียมตัวไปสอนหนังสือ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ครูปรีชาก็เดินออกมาพบผู้สื่อข่าวด้วยการแต่งตัวใส่ชุดสูตรสีดำ มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มและให้การต้อนรับและพูดจากับสื่อมวลชนอย่างเป็นกันเอง
โดยครูปรีชา กล่าวว่า กรณีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งโอนคดีไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบดูแลคดีแทนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นั้น คุณครูก็ยินดีและยินดีทุกเรื่อง เพราะเป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก็ยินดีที่จะไปทุกที่ เพราะเรามีความเชื่อมั่นในความจริง ดังนั้น ไม่ว่าที่ไหนก็ไปได้
ซึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้มีความกังวลหรือหนักใจอะไรทั้งสิ้น แต่กลับรู้สึกสบายๆและทำให้สบายใจด้วย ของจริงจะไปที่ไหนก็คือของจริงและของแท้ เราไม่ได้กลัวอะไรเลย และมั่นใจในสิ่งที่เรามีอยู่ เรามั่นใจในความเป็นจริง และจะเดินตามรอยความเป็นจริงไป
เมื่อถามว่ากรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ประกาศให้เวลาครูในการกลับใจตรงนี้ครูปรีชา คิดอย่างไร ครูปรีชาตอบว่า แล้วนายอัจฉริยะ เป็นใคร ถึงมาบอกว่าจะให้เวลาครู ฝากสื่อไปถามนายอัจฉริยะ หน่อยว่า ทำไมต้องมาให้เวลาคุณครู นายอัจฉริยะ เป็นศาลหรือ ขอให้เขาเตรียมหลักฐานของเขาที่มีอยู่เข้าสู่กระบวนการของศาลจะดีกว่า เพราะว่าตอนนี้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ก็ได้แถลงการณ์ออกมาแล้วว่า ลอตเตอรี่นั้นเป็นของครู ซึ่งเราต้องเคารพเรื่องของกฎหมายในกระบวนการของศาล ครูพูดถูกจริงไหมครับ
"เพราะฉะนั้นเขาเป็นใครที่มาระบุว่าเราต้องไปรายงานตัวกับเขา ฝากสื่อมวลชนไปบอกนายอัจฉริยะ ด้วยว่า คุณครูไม่ได้มีอะไร แต่ว่าคุณครูเชื่อมั่นในสิ่งที่เรามี ถ้าเขามีอะไรก็ให้ไปพูดในกระบวนการของศาล และทำไมเขาต้องมายื่นโนติสว่า คุณครูต้องไปพบเขากี่โมง ขอฝากไปว่าตอนนี้กำลังเข้าสู่กระบวนการของศาลแล้ว เพราะว่าภาค 7 ก็ได้แถลงข่าวออกมาเรียบร้อยแล้ว และฝากบอกนายอัจฉริยะด้วยว่า ทำไมครูต้องไปแสดงตัวกับเขา และเมื่อเขาบอกว่าเขามีหลักฐานก็ขอให้แสดงออกมา ซึ่งครูก็ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด" นายปรีชา กล่าว
เมื่อถามว่าขวัญและกำลังใจขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายปรีชา ตอบว่าขวัญและกำลังใจก็ยังคงเป็นปกติ ของจริงต้องปกติ แต่ถ้าของไม่จริงก็คงจะต้องวิ่งไปวิ่งมา จริงไหมครับ
เมื่อถามอีกว่าหากวันข้างหน้าคดีพลิกกลับไปทาง ร.ต.ท.จรูญ จะทำอย่างไร นายปรีชา กล่าวว่า ภาพในอนาคตไม่ต้องไปคิด เอาปัจจุบันนี้ให้ดีก็พอ ให้เราเดินไปตามสิ่งที่เรามี และสิ่งที่เราเป็นซึ่งอยากจะไปถึงสังคม ซึ่งสังคมขณะนี้ก็ดีอยู่แล้ว เพราะสังคมนั้นเป็นสิ่งที่ดีงาม โดยเฉพาะสังคมของคนไทยของเรา และมีวิถีชีวิตที่ดีงามมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังนั้นความเชื่อมั่น ความเชื่อถือกับสองหลักที่ครูเคยบอกคือความเชื่อ กับ ความจริง จึงขอให้สังคมได้แยกแยะระหว่างความเชื่อกับความจริง และถึงขณะนี้ครูก็ยังมีความเชื่อมั่นว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของครูอย่างแน่นอน 100 %
"เพราะฉะนั้นจึงอยากจะฝากบอกไปว่าเรื่องของคดีคือเรื่องของกระบวนการของศาล ซึ่งครูเคยพูดเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง ไม่ใช่ว่าจะมีใครคนใดคนหนึ่ง จะมาสั่งให้ผมไปทำอะไรก็ได้ และขอฝากไปบอกเขาด้วยว่า ศาลเท่านั้นที่จะตัดสินได้ ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง และไม่ใช่มาอ้างว่ามีหลักฐาน ซึ่งถ้ามีก็ขอให้นำมา สำหรับเรื่องหลักฐานของครูนั้นเป็นเรื่องของคดี เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม โดยที่ผ่านมาก็ได้บอกสื่อไปทุกแขนงแล้วว่า เรื่องของคดี เรื่องของหลักฐาน เราจะไม่ขอพูดตรงนี้อีก ส่วนเรื่องของทนายที่มีการเปลี่ยนตัวนั้น ตรงนี้ก็ขอปิดและขอให้เป็นเรื่องส่วนตัวก่อน โดยอันไหนที่บอกสื่อได้ก็จะบอกอันไหนที่บอกไม่ได้ก็ขอปิดเอาไว้ก่อน สุดท้ายนี้ขอฝากสื่อไปบอกเขาด้วยว่า สิ่งที่ครูพูดมาทั้งหมดนั้นเป็นความจริง" ครูปรีชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ครูปรีชา จะเดินทางไปสอนหนังสือได้พูดแหย่เล่นกับสื่อมวลชนว่า "คราวหน้าหากจะเอารูปครูไปลงข่าวขอให้เอาภาพหล่อๆ หน่อยสิ" ผู้สื่อข่าวจึงขอให้ครูหามุมถ่ายภาพโดยเลือกบริเวณป้ายบ้านเลขที่ที่มีอักษรสลักเอาไว้ว่า “นะโม” ซึ่งครูปรีชาได้ชูนิ้วโป้ง รวมทั้งถอดแว่นตา และยิ้มให้สื่อถ่ายภาพด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี