กรมประมงขยายพื้นที่ประกาศปิดอ่าวไทยเพิ่ม 33,900 ตร.กม. ห้ามจับปลาในเขต 7 ไมล์ทะเล ระบุปี60 ได้ผลชัดได้เห็นพ่อแม่พันธุ์“ปลาทู”นับแสนตัว จากเดิมปี57ถูกจับเกลี้ยง
9 ก.พ.61 ที่กรมประมง นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายมงคล สุขเจริญคนา นายกสมาคมประมงแห่งประเทศไทย และนายปิยะ เทศแย้ม รองประธานสมาพันธ์ประมงพื้นบ้าน ร่วมแถลงข่าวมาตรการใหม่ในการบริหารจัดหารทรัพยากรประมง ปิดอ่าวไทย ตัว ก.
นายอดิศร กล่าวว่า มาตรการปิดอ่าวตัว ก. ช่วงระยะเวลา 3 เดือน เป็นฤดูปลาวางไข่ วันที่ 15ก.พ.- 15 พ.ค.ทุกปี โดยในปีนี้ได้ขยายพื้นที่เขต 2 จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพิ่มขึ้น 2,900 ตร.กม. ขยายพื้นที่ทำประมงห่างจากชายฝั่ง 7 ไมล์ทะเล จาก 5 ไมล์ทะเลมาเสริมด้วย ทำให้ครอบคลุมพื้นที่เพิ่มขึ้น 33,900 ตร.กม. ซึ่งจากเดิมมีการประกาศปิดอ่าวไทยเพียง 2 เขต ได้ปรับใหม่เป็น 4 เขต ตลอดบริเวณอ่าวไทย ครอบคลุมพื้นที่ จ.ประขวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฏร์ธานี
นอกจากนี้ ยังกำหนดเครื่องมือสามารถทำประมงได้ เช่น เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ อวนลาก อวนลากคานถ่างที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดความยาวไม่เกิน 16 เมตร และการทำประมงในเวลากลางคืนให้ทำนอกเขตทะเลชายฝั่ง เครื่องมืออวนติดตาปากที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกอรสและมีช่องตาอวนตั้งแต่ 2 นิ้วยกเว้นที่มีความยาวอวนเกิน 2,500 เมตร ต่อเรือประมง 1 ลำ ทำประมงในชายฝั่งทะเล เครื่องมืออวนปู อวนลอยกุ้ง เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกหมึก ที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทำประมงนอกทะเลชายฝั่ง ลอบปู ตามเงื่อนไขประกาศกระทรวง ลอบหมึกทุกชนิด ซั้งทุกชนิดที่ใช้ประกอบทำการประมงพื้นบ้านในเขตทะเลชายฝั่ง คราดหอย ตามเงื่อนไขประกาศกระทรวง อวนรุนเคย จั่น ยอ แร้ว สวิง แห เบ็ด สัปปะนก ขอ ลอบ ฉมวก และเครื่องมืออื่นใดที่ไม่ใช้ประกอบเรือกลขณะทำการประมง
ทั้งนี้ กรมประมง มีมาตรการปิดอ่าว ปีนี้จะกำหนดเป็นเขตโดยตั้งแต่ 15 ก.พ.-15 พ.ค.61 จะปิดอ่าวตอนกลาง พื้นที่ 2,700 ตร.กม. จากนั้นในวันที่ 16 พ.ค.-16 มิ.ย. จะเริ่มปิดเขตที่ 2 ในพื้นที่ 7 ไมล์ทะเลของพื้นที่อ่าวไทยตอนกลาง และพื้นที่ 2,900 ตร.กม.บริเวณพื้นที่อ่านประจวบฯซึ่งกำหนดให้เป็นเขตที่2 จากนั้น 15 มิ.ย.-15 ส.ค.พื้นที่ 2,530 ตร.กม.จะเริ่มปิดในเขตที่ 3 อ่าว ตัว ก.ซึ่งเป็นเขตที่ 3 ระยะเวลา 60 วัน หลังจากนั้นจะเริ่มปิดอ่าวตัว ก.เขตที่4 ในวันที่ 1 ส.ค.-30 ก.ย. พื้นที่ 1,650 ตร.กม.
นายอดิศร กล่าวว่า สำหรับการแบ่งพื้นที่ปิดเป็น 4 เขตเพื่อให้ทรัพยากรสัตว์น้ำสามารถวางไข่ และเจริญเป็นตัวเต็มวัยและแพร่พันธุ์ได้สมบูรณ์ เพื่อให้สัตว์น้ำในฤดูปลาที่มีไข่ ได้มีพื้นที่การเจริญเติบโตครบวงจรขึ้น จึงมีการกำหนดเครื่องมือที่ใช้ได้ และมีเขตระยะเวลาปิดอ่าวชัดเจน ห้ามจับปลา พ่อแม่พันธุ์ เพื่อให้ลูกวัยอ่อน ว่ายขึ้นมาหากินเจริญเติบโตในเขตที่ 1 ในส่วนของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และเพิ่มเติมเขต 2 ในอ่าวประจวบ
ทั้งนี้ขอให้ชาวประมงระมัดระวังตนเป็นห่วงการลงโทษ ใน พ.ร.บ. ประมงฉบับ ใหม่ ลงโทษแรง มีการเสียค่าปรับแพงมาก ตามขนาดเรือขนาดแตกต่างกัน กรุณาอย่ากระทำผิด และ มีคำสั่งทางปกครองด้วย ไม่ใช่โดนปรับอย่างเดียว มีการยึดสัตว์น้ำ พักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาต เรือถูกกักไว้ ทำการประมงไม่ได้เลย ถือว่าร้ายแรงมา ถึงขั้นต้องเลิกทำอาชีพประมง ตนขอบคุณชาวประมงพื้นบ้านที่ให้ความร่วมมือ และ มีความลำบากในการทำอาชีพ เพราะการปิดอ่าวถือว่านานมาก ซึ่งในต่างประเทศมีมาตรการชดเชยให้กับชาวประมงพื้นบ้าน แต่ปีนี้ทำมาตรการไม่ทัน จะนำไปหารือกับรมว.เกษตรฯเรื่องชดเชยชาวประมง ในช่วงหยุดหาปลา
“มาตรการปิดอ่าวเพื่อฟื้นฟูสัตว์น้ำกลับคืนมา เน้นปลาผิวน้ำ ปลาทู ปลารัง ซึ่งปลาทู เป็นตัวชี้วัด ปีที่แล้วประชากรปลาทูเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มาก จึงขยายพื้นที่ปิดอ่าวและทุกฝ่ายเห็นด้วยว่าได้ผลโดยเฉพาะชาวประมงพื้นที่บ้าน ดังนั้นปลาจะเพิ่มมากน้อยต้องร่วมมือกัน ทำให้สมบูรณ์มากขึ้นปีหน้าอาจเห็นผลดีกว่านี้” อธิบดีกรมประมง กล่าว
ด้านนายมงคล กล่าวว่า เป็นเรื่องใหญ่ทำไมทรัพยากรไม่ฟื้นเพราะปลาถูกตัดตอน การเจริญเติบโตไม่ครบวงจร เช่นปลาทูเมื่อก่อนวิ่งขึ้นไปอ่าวตัวก. ไม่ได้ วันนี้ทุกคนอยากอนุรักษ์ จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ทุกคนถอยทั้งหมด รอให้ทรัพยากรฟื้นคืนมา ห้ามจับใน7 ไมล์ทะเล เพื่อให้ปลาทูอยู่ชายฝั่ง ขึ้นไปเติบโตในอ่าวก.ได้ ปลายปี60 สามารถมีปลาทูขนาดใหญ่ 9-10 ตัวโล มีไข่ทุกตัว กลับมามีให้เห็นเป็นแสนๆตัวซึ่งที่ผ่านเราไม่เคยได้เห็นปลาทูมานานแล้วในแถบทะเลอ่าวไทย
“กระทรวงเกษตรฯ จ้างเกษตรกร หยุดกรีดยาง ได้ ควรมาจ้างหยุดทำประมงชายฝั่ง เพื่อชดเชยเครื่องมือต้องเปลี่ยน เดิมทีปลาทูอ่าวไทยตัว ก.ไม่มีเลยจะสูญพันธุ์ การกำหนดเครื่องมือทำการประมงได้ และห้ามเครื่องมือจับพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ห้ามเครื่องมือจับลูกปลา สอดคล้องกับลูกปลาวิ่งไปขึ้นไปหาอาหารให้อ่าว ตัว ก. ตามวงจรมัน ซึ่งปลาทูจะมี ไข่ในท้อง 2หมื่น- 2 แสนฟอง ต่อตัว” นายมงคล กล่าว
ขณะที่นายปิยะ กล่าวว่า ดีใจเห็นภาครัฐมีส่วนร่วมภาคประชาชน จริงๆมาตรการที่ออกมาอาจทำให้เราลำบากขึ้น แต่ท้ายสุดถือเอาทรัพยากรสูงสุด ถอยคนละก้าว เราต้องถอย ให้โอกาสปลาทูได้กลับมา ขอบคุณประมงพื้นบ้านรู้จักถอย อย่างไรก็ตามมีมาตรการจำเป็นต้องแก้ไขในอนาคตอยากเห็นการปรับรวดเร็วขึ้น วันนี้เราเดือดร้อนเพราะทรัพยากรลดลง ทำอย่างไรให้สัตว์น้ำหลับมาอย่างรวดเร็ว การใช้เครื่องมือใหม่ ชาวประมง มีวัตถุดิบเปลี่ยนเนื้ออวน ยุติใช้เครื่องมือตาอวนขนาดถี่ ที่ผ่านมาพวกเราไม่เคยมีการเรียกร้องจากรัฐบาล
รายงานการสำรวจปริมาณสัตว์น้ำทั้งหมดของกรมประมงปี60 พบว่าปริมาณจากจับสัตว์น้ำ เดิม 2.4 ล้านกก. เพิ่มเป็น 28 ล้านกก. โดยเพิ่มพื้นที่ปิดอ่าวตัวก. เพิ่มเป็น 30 ล้านกก.ปีเดียวกัน ซึ่งชาวประมงอวนล้อมจับจ.สมุทรสาคร จากที่ไม่มีปลาทูเลย ในเดือน ธ.ค.60 จับได้ 2.45 แสนกก. จากปี 57 สถานการณ์วิกฤติสุดจับจนเกลี้ยงทะเลอ่าวไทยไม่เหลือไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี