"ศรีสราห์"สั่งสอบ"หมวดมานัส"แจกซองอั่งเป่าตร.ย่านฝั่งธนกว่า60นาย อึ้งขาดราชการไปนอกบ่อยมาก96ครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต จ่อฟันละทิ้งหน้าที่ โยน"เฉลิมเกียรติ"สอบโยงธุรกิจสีเทาเอาเงินบ่อนมาแจกหรือไม่ ขณะที่"บิ๊กหยม"โบ้ยกลับให้"บิ๊กปู"เป็นคนทำ ด้านผบช.น.อ้างพี่ให้น้องตามธรรมเนียมตรุษจีนทุกปีมีทั้งผ้ายันต์-เงินสด500บาท แง้มไม่น่าผิดอาญาแค่โดนทางวินัย
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสวนข้อเท็จจริงร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์ รอง สว.(สส.)กก.4 บก.ส.1 หลังมีภาพปรากฏในโลกโซเชียลแจกอั่งเปาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 60 นาย ในหลายสถานีตำรวจย่านฝั่งธนบุรีว่า เบื้องต้นผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 ยืนยันว่าคนที่แจกอั่งเปาคือ ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ดังนั้นตนในฐานะกำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ต้องรอผลการตรวจสอบอีกครั้ง เบื้องต้นให้รายงานผลให้ทราบใน 30 วัน ตามกฎ ก.ตร. การแจกอั่งเปาจะผิดหรือไม่ผิดตนไม่ขอตอบ ส่วนการละทิ้งการปฏิหน้าที่ไปต่างประเทศโดยไม่แจ้งกว่า 96 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงปี 2558 เป็นต้นมา เป็นความผิดชัดเจน
"เรื่องนี้ผมถามไปทางต้นสังกัดว่าเป็นการเดินทางออกไปต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการละทิ้งหน้าที่ ปกติถ้าละทิ้งเกิน 15 วันก็ไล่ออก แต่กรณีนี้น่าจะไม่ได้ละทิ้งต่อเนื่องหลายวัน" พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจมีข้อมูล ร.ต.ต.มานัส พัวพันกับบ่อนการพนันหรือไม่ เชื่อมโยงกับบ่อนไหน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ก็ต้องตรวจสอบ สั่งให้สืบสวนแล้ว ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับบ่อนไหนหรือไม่ต้องคอยดู สมัยตนเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ไม่มีบ่อน เปิดไม่ได้ ห้ามเด็ดขาด สมัยนั้นทหารเข้มมาก แต่ทราบมาตั้งแต่ 10 ปีแล้วว่าร.ต.ต.มานัสเกี่ยวพันกับธุรกิจสีเทา ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. ด้านงานป้องการปราบปราม ในการตรวจสอบและขยายผล
ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. กล่าวว่า ได้สั่งการกำชับตำรวจเกี่ยวกับการประพฤติตัวให้มีความเหมาะสมในช่วงวาเลนไทน์และตรุษจีน โดยสั่งการห้ามมิให้ตำรวจรับอั่งเปาโดยเด็ดขาด เมื่อปรากฎภาพดังกล่าวออกมาเช่นนี้ จึงสั่งการให้ บช.น.โดยเฉพาะ บก.น.7 ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าของในซองที่มอบให้ตำรวจเป็นเงินสด หรือเป็นผ้ายันต์ ตามที่มีกระแสข่าว และรายงานขึ้นมาภายใน 7 วัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบ และจะมีรายงานเบื้องต้นมายังตนในวันนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากในซองเป็นเงินสดจริงจะตรวจสอบด้วยหรือไม่ว่าเงินดังกล่าวได้มาจากไหน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอให้ผลการตรวจสอบมีความชัดเจนเสียก่อนว่าภาพที่ปรากฎในโซเชียลเหมาะสมหรือไม่ สิ่งของที่อยู่ในซองแดงเป็นอะไร และถึงประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จึงจะสามารถพิจารณาว่าจะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร
ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามกฎระเบียบไม่มีการปกป้องผู้ใดอย่างแน่นอน และมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของตัวบุคคล ไม่ใช่การท้าทายคำสั่งของตนแต่อย่างใด
ส่วน ร.ต.ต.มานัส มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นเจ้าของบ่อนดังหรือธุรกิจสีเทาหรือไม่นั้น พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ทางพล.ต.อ.ศรีวราห์จะตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่านี้ โดยจะประชุมรายละเอียดกันอีกครั้งหลังจากนี้ รวมถึงตรวจสอบว่าหากในซองเป็นเงินจริงเงินนั้นเกี่ยวข้องกับบ่อนหรือไม่อย่างไร หรือหากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมีรายชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนันก็จะมีการลงโทษตามระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเด็ดขาด
"หากตรวจสอบพบว่าผู้ใดเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน รวมถึงจะมีการตรวจสอบไปยังกองบังคับการตำรวจสันติบาลเกี่ยวกับกรณีที่มีข่าวว่า ร.ต.ต.มานัส ขาดราชการออกนอกประเทศ 96 ครั้ง หากพบว่ามีการขาดราชการจริงก็จะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน" พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ระบุ
ขณะที่ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบสวนตำรวจรับอั่งเปาจาก ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์ รอง สว.กก.4 บก.ส.1 บช.ส.ที่บ้านพักย่านฝั่งธนบุรี ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลสอบสวนข้อเท็จจริงของ บก.น.7 ดำเนินการว่าผู้ที่เกี่ยวข้องมีความผิดทางวินัย หรืออาญาหรือไม่ คาดว่าจะทราบผลใน 7 วัน
"เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เป็นการให้ซองตามธรรมเนียมของวันตรุษจีนของ ร.ต.ต.มนัส ในลักษณะพี่ให้น้อง ที่เปิดบ้านทำบุญเลี้ยงพระเป็นประจำทุกปี โดยมีข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.น.7 ประมาณ 60 คน เข้าแถวรับซอง ขณะที่ในซองพบว่า มีทั้งผ้ายันต์และเงินสดประมาณ 500 บาท" พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กฎหมายของ ป.ป.ช.ข้าราชการมีสิทธิรับของขวัญหรือเงินสดได้ไม่เกิน 3,000 บาท และที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ออกคำสั่งห้ามข้าราชการตำรวจ เรียกรับผลประโยชน์ในเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะตรุษจีน ซึ่งเจตนาของคำสั่งดังกล่าวคือการห้ามข้าราชการตำรวจ ตระเวนไปรับซองตามบริษัท ห้างร้านต่างๆ เพราะดูไม่เหมาะสม
"ดังนั้น เรื่องนี้ดูแล้วไม่น่ามีความผิดทางอาญา แต่ถ้าจะผิดอาจผิดทางวินัย หลัง บก.น.7 รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาที่ บช.น.แล้ว จะมีการประชุมสรุปผลเพื่อพิจารณาตีความอย่างรอบคอบอีกครั้ง ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับให้ตรวจสอบเรื่องนี้และทำตามระเบียบอย่างเคร่งครัด" ผบช.น.กล่าวย้ำ
ส่วน พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทำให้เสียภาพลักษณ์ของตำรวจอย่างมากแม้ส่วนตัวจะไม่รู้จุดประสงค์ของผู้ให้ว่าให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจให้เพราะต้องการติดสินบนเจ้าหน้าที่พนักงาน หรือเจ้าพนักงานไปรับสินบนเองจึงอยากให้ผู้บังคับบัญชาเคร่งครัดเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะเทศกาลตรุษจีนทุกปีมักจะมีเหตุการณ์อยู่บ่อยครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : พักราชการ 'หมวดมานัส' สันติบาลสั่งสอบทิ้งหน้าที่ไปนอก 96 ครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี