รายงานพิเศษ : กรมส่งเสริมสหกรณ์ขับเคลื่อน‘Smart Agricultural Curve’2561  ‘ปีแห่งการพัฒนาคนและยกระดับการบริหารจัดการ’

รายงานพิเศษ : กรมส่งเสริมสหกรณ์ขับเคลื่อน‘Smart Agricultural Curve’2561 ‘ปีแห่งการพัฒนาคนและยกระดับการบริหารจัดการ’

วันพฤหัสบดี ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561, 06.00 น.

จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งในพื้นที่และประเทศโดยรวม ทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพได้ตามปกติ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ปัญหาความไม่สงบเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกันในหลายมิติ ทั้งมิติด้านการเมือง สังคมวัฒนธรรม และเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาจึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนโดย กรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่ร่วมดำเนินงานแก้ไขปัญหาในมิติการพัฒนา (มิติเศรษฐกิจ) ในการพัฒนาศักยภาพคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยใช้หลักการสหกรณ์และการรวมกลุ่ม โดยมีความเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนำยุทธศาสตร์ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา มาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการ

นางสาวประโลมใจ เนียมแกล้ว ผู้อำนวยการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 18 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากสภาพพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร ซึ่งภายใต้กรอบนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการขับเคลื่อน 14 นโยบายสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนายกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ การพัฒนาข้าราชการและเกษตรกรให้เป็น Smart Officer และ Smart Farmer นั้น ในปีงบประมาณ 2561 กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะเดินหน้าขับเคลื่อน “Smart Agricultural Curve” และกำหนดให้ปี 2561 เป็น “ปีแห่งการพัฒนาคน และยกระดับการบริหารจัดการ” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น ทั้งด้านสังคม มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ตลอดทั้งมีความภาคภูมิใจในอาชีพเกษตรกร ซึ่งดำเนินการภายใต้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 20 ปี ตามแนวคิดประเทศไทย 4.0 คือ “เกษตรกรมั่นคง ภาคการเกษตรมั่งคั่ง สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน”


ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 18 จังหวัดสงขลา ดำเนินการจัดทำโครงการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่งบประมาณ 2551 จนถึงปัจจุบัน โดยในปีงบประมาณ 2561 ได้กำหนดให้จัดโครงการอบรม 2 หลักสูตร ได้แก่ 1.หลักสูตร “เผยแพร่ความรู้เรื่องประชารัฐกับสหกรณ์สู่ชุมชน” กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่นและผู้นำศาสนาใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้นำชุมชน มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการสหกรณ์ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและยุทธศาสตร์ประชารัฐ สามารถถ่ายทอดวิถีชีวิตพอเพียงแบบสหกรณ์และประชารัฐให้กับบุคลากรในชุมชน ตลอดจนประชาสัมพันธ์งานสหกรณ์และประชารัฐขยายสู่ผู้นำองค์กรอื่น และสร้างแนวร่วมทางเศรษฐกิจและสังคมตามหลักการสหกรณ์ โดยได้ดำเนินการเมื่อวันที่ 11–16 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา มีผู้นำเข้ารับการอบรมจำนวน 187 คน ระหว่างการอบรม ผู้นำชุมชนได้เข้าศึกษาดูงานและรับความรู้ในเรื่องการบริหารการจัดการสหกรณ์และการดำเนินงานสหกรณ์ การส่งเสริมกลุ่มอาชีพในสหกรณ์ จากสหกรณ์การเกษตรพระพรหม อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช และสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

หลักสูตรที่ 2 “ส่งเสริมพัฒนาผู้นำสหกรณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้” กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย กรรมการ ฝ่ายจัดการ และสมาชิกแกนนำของสหกรณ์โคเนื้อมือนารอ จำกัด จังหวัดนราธิวาส มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้นำสหกรณ์มีความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการของสหกรณ์สู่ความเข้มแข็ง มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจและสามารถดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ตรงตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสหกรณ์ ซึ่งดำเนินการเมื่อวันที่ 20–23 ธันวาคม 2560 มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 100 คน ระหว่างการอบรม ผู้นำสหกรณ์ได้เข้าศึกษาดูงาน และรับความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการฟาร์มโคนม จากสหกรณ์โคนมพัทลุง จำกัด และการบริหารจัดการฟาร์มโคเนื้อของสหกรณ์
โคเนื้อพัทลุง จำกัด

“ในการจัดโครงการทั้ง 2 หลักสูตร เป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้าใจที่ดีระหว่างภาครัฐกับประชาชนในเขต 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยตัวแทนผู้นำชุมชน และผู้นำสหกรณ์ ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ได้มาทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน ในระยะต่อไปจะเป็นการขับเคลื่อนและถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับไปสู่สมาชิกในชุมชนและสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ทั้ง 5 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีขึ้น ความรู้ที่ได้รับสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมอาชีพ ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้า สร้างมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรและมีส่วนในการร่วมกันสนับสนุนและพัฒนาอาชีพการเกษตรของคนไทย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น”นางสาวประโลมใจ กล่าวทิ้งท้าย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top