แก๊งเปรี้ยวพลิกลิ้นหลายตลบ!ทนายไม่หนักใจยันมีหลักฐานวางแผนฆ่า-ไม่ใช่พลั้งมือ
21 ก.พ.61 เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดขอนแก่นนัดสืบพยานโจทก์เป็นวันที่ 2 หลังจากได้มีการนัดสืบพยานโจทก์ในคดีเลขดำที่ อ.1957/2560 โดยมีพนักงายอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว พร้อมพวกรวม 5 คน ประกอบด้วย น.ส.กวิตา หรือ เอิร์น ราชดา , น.ส.อภิวันท์ หรือ แจ้ สัตยบัณฑิต และ นายวิศิน หรือ นิว นามพรหม และ น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ พรมคุณ
โดยผู้ต้องหา 4 คน ถูกตั้ง 5 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ , ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว ทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งนี้มีเพียง น.ส.จิดารัตน์ ที่ถูกตั้งข้อหารับของโจรและเจ้าตัวได้ยอมรับข้อกล่าวหาในการสืบพยานโจทก์แล้ว
นายนพดล สีดาทัน ทนายความฝ่ายโจทก์ กล่าวว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานอัยการได้เบิกตัว พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ให้การต่อเนื่องและหากการให้การแล้วเสร็จ ฝ่ายโจทก์จะขอเบิกตัว นางพิชชาภา คำเพิงใจ แม่ของน้องแอ๋ม ขึ้นให้การตามข้อกล่าวหาที่พนักงานอัยการได้ตั้งไว้เพื่อเอาผิดกับผู้ต้องหาตามมาตรา 289 ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต
นายนดล กล่าวว่า คดีนี้จำเลยกลับคำให้การในชั้นศาลแทบทั้งหมด เช่นการตาย ในช่วงการถูกจับกุมจำเลยบอกว่า ตบตีกันบีบคอจนน้องแอ๋มสิ้นใจ จึงไปซื้ออุปกรณ์ที่ใช้หั่นศพบรรจุศพ แต่ในวันนี้ จำเลยกลับบอกว่า ขึ้นรถแล้วรุมทำร้ายกันในรถ แต่แอ๋มยังไม่เสียชีวิต จึงขับรถวนไปมาหลายกิโลเมตร น้องแอ๋มก็ยังมีชีวิตอยู่ จึงได้พากันไปร้านสะดวกซื้อที่บ้านโนนทัน เพื่อซื้อถุงดำ เมื่อได้ถุงดำมา น.ส.เปรี้ยวจึงใช้ถุงดำรัดคอน้องแอ๋มจนสิ้นใจ และมีเสียงตะโกนบอกกันว่า ตายแล้ว จึงได้ไปที่รีสอร์ท สถานที่หั่นศพ แยกร่างเป็น 4 ชิ้น
“แม้จำเลยทั้งหมดจะให้การปฏิเสธ โดยเฉพาะน.ส.เปรี้ยว ให้การว่า เป็นการพลั้งมือจากการปิดปาก แต่มือไปปิดจมูกน้องแอ๋ม จนขาดอากาศหายใจ ในฐานะทนายความฝ่ายโจทก์ ไม่มีความหนักใจในเรื่องที่ฝ่ายจำเลยให้การปฏิเสธในข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรอง เพราะการสืบสวนเรื่องราวต่างที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพยานต่างๆและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันจึงมีความชัดเจนว่าเป็นการไตร่ตรองก่อน” ทนาย กล่าว
ทั้งนี้ ฝ่ายโจทก์มีหลักฐานเด็ดที่ชี้ชัดว่าน้องแอ๋มตายหลังจากขึ้นรถแล้ว รวมถึงคำให้การของจำเลยบางคนที่ยืนยันว่า น้องแอ๋ม ถูกล่อลวงมาขึ้นรถ และแยกที่นั่งกัน โดย น.ส.เปรี้ยวไปหลบซ่อนที่ด้านหลังรถ ในจุดที่เป็นที่เก็บของ เมื่อน้องแอ๋มขึ้นรถมาก็มีการรุมทำร้ายและใช้ถุงดำรัดคอ จนสิ้นใจ ในจุดนี้จึงไม่ใช่การพลั้งมือ แต่เป็นการวางแผนมาเป็นอย่างดี
ด้าน น.ส.สุพิชชา คำเพิงใจ แม่ของ น.ส.แอ๋ม ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนและครอบครัวจะเดินหน้าเอาผิดกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุดตามกระบวนการของกฎหมาย เนื่องจากพยานหลักฐานชัดเจนว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุมีการวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี จึงไม่เชื่อว่าการฆาตรกรรมลูกสาวครั้งนี้ จะเป็นการพลั้งมือตามที่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้าง
อย่างไรก็ตามการสืบพยานโจทก์ จะมีการสืบทั้งหมด 6 นัด คือวันที่ 20-22 ก.พ.61 , 27-28 ก.พ.61 และวันที่ 13 มี.ค.61 หลังจากที่มีการสืบพยานฝ่ายโจทก์ที่มีอยู่กว่า 30 ปากแล้วเสร็จ จากนั้น จะเป็นการสืบ พยานฝ่ายจำเลย ในระหว่างวันที่ 14-15 มี.ค.61
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี