ฆ่าโหด‘นางฮ้อย’กาฬสินธุ์ แทงพรุนเชือกมัดคอลากผูกถ่วงน้ำเขื่อนลำปาว ล็อกเป้าคนลงมือ

ฆ่าโหด‘นางฮ้อย’กาฬสินธุ์ แทงพรุนเชือกมัดคอลากผูกถ่วงน้ำเขื่อนลำปาว ล็อกเป้าคนลงมือ

วันพุธ ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567, 18.31 น.

ฆ่าโหด‘นางฮ้อย’กาฬสินธุ์ แทงพรุนเชือกมัดคอลากผูกถ่วงน้ำเขื่อนลำปาว ล็อกเป้าคนลงมือ

13 มีนาคม 2567 ร.ต.อ.เริงศักดิ์ แก้วเสน่ห์ใน ร้อยเวร สภ.ลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุพบศพคนเสียชีวิต ถูกมัดติดอยู่กับต้นไม้ในน้ำเขื่อนลำปาว บริเวณบ้านโนนศาลา หมู่ 13 ต.ภูดิน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งสงสัยว่าจะถูกฆาตกรรม หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชา และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ , พ.ต.ท.อติวัณณ์ หวลศรีไทย สว.สภ.ลำปาว , เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน , หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลกาฬสินธุ์


ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานดิน ซึ่งมีกระท่อมพักริมเขื่อนลำปาวเขตพื้นที่บ้านโนนศาลา หมู่ 13 ต.ภูดิน พบศพผู้เสียชีวิตเพศหญิงทราบชื่อคือนางสมพิศ อายุ 53 ปี อยู่หมู่ 13 บ้านโนนศาลา ต.ภูดิน สภาพศพถูกเชือกรัดที่คอ มัดติดอยู่กับต้นไม้ในน้ำเขื่อนลำปาว ห่างจากฝั่งประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำศพขึ้นมาตรวจสอบ พบบาดแผลถูกมีดแทงที่บริเวณลำคอ 3 แผล และลำตัวอีก 4 แผล รวม 7 แผล และยังมีเลือดไหลออกมา บริเวณลำคอมีรอยเชือกรัด

จากการตรวจสอบตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุพบรอยลากศพ และคราบเลือดจากกระท่อมที่พักยาวไปถึงริมน้ำกว่า 20 เมตร คาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือฆ่า แล้วใช้เชือกรัดคอ จากนั้นลากศพไปผูกมัดกับต้นไม้ในเขื่อนเพื่ออำพรางศพ

พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบสวนพยานเบื้องต้นพบว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุฆ่านางสมพิศ คือ นายสำราญ อายุ 59 ปี อยู่หมู่ 13 ต.ภูดิน ซึ่งเป็นแฟนใหม่ที่เพิ่งคบหากันกับผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวแล้ว

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นทราบว่าช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิต ซึ่งมีอาชีพเลี้ยงควายเอาไว้ขาย หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “นางฮ้อย” ได้นำควายมาเลี้ยงบริเวณที่เกิดเหตุ และกำลังนอนพักที่เปลในกระท่อม กระทั่งนายสำราญ ซึ่งเป็นแฟนใหม่ที่เพิ่งคบหากัน และอยู่กินฉันสามีภรรยามาได้ประมาณ 2 ปี ได้ขี่รถจักรยานยนต์ (จยย.) ตามมาหาที่กระท่อม คาดว่าทั้ง 2 คนน่าจะมีปากเสียงกัน เนื่องจากนายสำราญ มีนิสัยเป็นคนหึงหวง ระแวงตลอดว่านางสมพิศ จะไปมีชายอื่น จึงอาจเป็นสาเหตุในการลงมือในครั้งนี้

ด้านนายอาทิตย์ อายุ 32 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต ระบุว่า แม่ได้เริ่มคบหากับนายสำราญ ซึ่งเพิ่งออกจากคุกมา และได้อยู่กินฉันสามีภรรยาได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายสำราญมักจะร้ายผู้เป็นแม่อยู่บ่อยครั้ง บางครั้งก็ขู่ฆ่า เพราะนายสำราญมีนิสัยหึงหวง ติดตามแม่ตลอดเวลา และมักหวาดระแวงว่าแม่จะไปมีคนอื่น ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่ค่อยจะถูกกันนายสำราญ เพราะมักจะทำร้ายแม่ของตน แต่แม่ก็ไม่เคยบอกกับตนว่าถูกนายสำราญทำร้าย เนื่องจากกลัวว่าตนกับนายสำราญจะทะเลาะกัน กระทั่งวันเกิดเหตุช่วงเช้าแม่ได้นำควายออกมาเลี้ยงตามปกติ จนมาช่วงสายก็ยังไม่มากินข้าว และไม่สามารถติดต่อได้ จึงออกตามหาเห็นแต่รถจักรยานยนต์จอดไว้ และพบรอยลาก และคราบเลือด กระทั่งพบศพของแม่ถูกผูกมัดกับต้นไม้ในเขื่อนลำปาว ชาวบ้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามักได้ยินนายสำราญขู่ฆ่าแม่ ว่าเคยติดคุกมาแล้ว ติดฆ่าคนติดคุกอีกรอบจะเป็นไรไป แต่ไม่คิดว่าจะลงมือฆ่าจริงๆ และฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งตนรับไม่ได้กับพฤติกรรมนี้ จึงอยากให้นายสำราญได้รับโทษสูงสุด

ด้านนายสมคิด อายุ 51 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สามีเก่าของพี่สาวได้เสียชีวิตไปแล้ว ปกติพี่สาวนั้นก็เป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริงเป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน จะมีบางที่ไปพบปะกับสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนบ้านหญิงตามงานบุญ งานประเพณี แต่ก็ไม่เคยสร้างปัญหา สร้างความเดือดร้อนให้ใคร หรือสร้างความเสื่อมเสีย ส่วนนายสำราญนั้นก็ได้มาคบกับพี่สาวได้ประมาณ 2 ปี แต่ก็เหมือนจะมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง เพราะนายสำราญมักจะติดตามพี่สาวไปทุกที่ตลอดเวลา ด้วยความหึงหวง และระแวง กระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้ ลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เพราะความหึงหวงจนเกินไป ส่วนตัวก็อยากให้ได้รับโทษสูงสุด  ////-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top