23 ก.พ. 61 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้แจ้งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2559 ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2560 และประกาศกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติงานศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้จังหวัดทราบ เพื่อแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือเป็นแนวทางปฏิบัติ
อธิบดีสถ. กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่ง ได้ทำโครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดับอำเภอ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานเพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่อาจจะเกิดขึ้น เป็นศูนย์ปฏิบัติการในการประสานงานกับคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต สตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และคนพิการในพื้นที่ และการป้องกันโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังทางกฎหมาย
"ศูนย์ปฎิบัติการร่วมจะประสานงานกับส่วนราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการขอความช่วยเหลือเยียวยาให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยมีการขอรับเงินอุดหนุนจากเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดได้ตรวจสอบและมีข้อทักท้วงว่า การที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะขอรับเงินอุดหนุนเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว แต่โครงการไม่ปรากฏอยู่ในแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปี การนำเงินอุดหนุนไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการร่วม ในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และค่าวัสดุอุปกรณ์ อาจขัดกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ดังนั้นในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าว อาจเกิดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติหน้าที่ของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลได้" อธิบดี สถ. กล่าว
อธิบดีสถ. กล่าวต่อว่า เพื่อให้การดำเนินการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จึงแจ้งจังหวัดทุกจังหวัดซักซ้อมแนวทางปฏิบัติในเรื่องดังกล่าว โดยอ้างถึงระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2559 ที่กำหนดว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นสมควรให้เงินอุดหนุนแก่หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน ให้นำโครงการขอรับเงินอุดหนุนของหน่วยงานดังกล่าว บรรจุไว้ในแผนพัฒนาท้องถิ่นและตั้งงบประมาณไว้ในหมวดเงินอุดหนุนของงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรืองบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ห้ามจ่ายจากเงินสะสม ทุนสำรองเงินสะสม หรือเงินกู้
ดังนั้นหากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นสมควรอุดหนุนงบประมาณแก่หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนจะต้องนำโครงการที่ขอรับเงินอุดหนุนของหน่วยงานดังกล่าว มาบรรจุไว้ในแผนพัฒนาท้องถิ่นแล้วนำไปตั้งงบประมาณไว้ในหมวดเงินอุดหนุนของงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรืองบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2560 ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำหนดให้มีสถานที่กลาง ศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบกับหนังสือกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 เรื่องแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่กำหนดให้ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะมีอำนาจหน้าที่จัดให้มีการสำรวจ
ในส่วนการลงทะเบียนรับเรื่องขอความช่วยเหลือของประชาชน จัดให้มีช่องทางรับเรื่องขอความช่วยเหลือของประชาชนที่หลากหลาย จัดให้มีฝ่ายปฏิบัติการในพื้นที่ (หน่วยเคลื่อนที่เร็ว) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงทีและรวดเร็ว รวบรวมข้อมูลของประชาชนที่ขอรับความช่วยเหลือเสนอต่อคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดตามผลการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามที่คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมอบหมาย
ทั้งนี้ต้องรายงานผลการสำรวจและผลการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (สถานที่กลาง) ทราบ เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เฉพาะในพื้นที่และเป็นกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการให้การช่วยเหลือได้ด้วยตนเองเท่านั้น ส่วนกรณีที่เกินขีดความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ให้ส่งเรื่องไปยังสถานที่กลาง เพื่อประสานหน่วยงานอื่นให้การช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป
สำหรับศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (สถานที่กลาง) ที่จัดตั้งขึ้นตามประกาศกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติงานศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นการทำงานในลักษณะของหน่วยบูรณาการการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภาพรวม โดยประกาศดังกล่าวกำหนดให้สถานที่กลาง มีหน้าที่รวบรวมและแจ้งเวียน กฎหมาย ระเบียบ หนังสือสั่งการ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือประชาชน ทั้งด้านสาธารณภัย การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต โรคติดต่อ หรือโรคระบาดในท้องถิ่น เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร หลักเกณฑ์ และวิธีการในการช่วยเหลือประชาชน ให้คำปรึกษาหรือแนะนำหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอรับความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ให้กับประชาชนที่มาติดต่อ
รวมถึงรวบรวมข้อมูลปัญหาความต้องการของประชาชนและแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ หรือประสานหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือประชาชน และรวบรวมข้อมูลการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกเรื่องเชื่อมต่อกับจังหวัดและส่วนกลาง เพื่อประโยชน์ในการวางแผนการช่วยเหลือประชาชนในภาพรวมและเป็นการเพิ่มช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถยื่นขอรับความช่วยเหลือได้อีกช่องทางหนึ่ง
อธิบดี สถ. กล่าวต่อว่า เนื่องจากการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนั้น เมื่อท้องถิ่นจังหวัดได้ดำเนินการให้มีการพิจารณาร่วมกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วว่า สถานที่กลางจะจัดตั้งขึ้น ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด หรือที่หน่วยงานใด หรือส่วนราชการที่ได้รับมอบหมายให้เป็นสถานที่กลางนั้น จึงสามารถจัดทำโครงการเพื่อขอรับเงินอุดหนุนสำหรับใช้ในการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการร่วม ในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้
โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2559 ก็จะเห็นได้ว่าการดำเนินการของศูนย์ช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (สถานที่กลาง) จึงไม่ซ้ำซ้อนกัน แต่เป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนนั่นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี