8 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เฟซบุ๊ก “เสนอ ผันแปรจิตร” นักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของกิจการร้าน “แดรี่ฮัท” หลายสาขาในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ภาพและข้อความอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวโซเชียลเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์สอบถามเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อตรวจสอบโพตส์เป็นภาพที่นายเสนอ ได้เข้าพบนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และภาพขณะเข้าพบ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พร้อมข้อความว่า “สวรรค์มีตาเทวดามีจริงขอกราบขอบพระคุณท่าน ผวจ.ท่าน จำเริญ ทิพญพงค์ธาดาและ ผบก.ภ.จว. พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ที่ไห้ความเมตตารับเรื่องร้องเรียนขอกระผมและรับฟังเหตุผลของกระผม และบอกให้ผมอโหสิกรรมให้กับคนที่กระทำกับกระผม ถ้าไม่ได้ท่านทั้งสองไม่รู้ว่าผมจะมีชีวิตรอดหรือไม่ ผมขออโหสิกรรมให้กับคนที่ป่วยและคิดจะทำร้ายผมก็แล้วกันนะครับ กราบขอบพระคุณครับ”
นอกจากนี้นายเสนอ ยังได้โพสต์ภาพบุคคลหนึ่ง โดยแต่งภาพด้านบนเป็นรูปหัวกะโหลกปิดบังใบหน้าที่แท้จริงบุคคลในภาพไว้ พร้อมข้อความว่า “ผมนายเสนอ ผันแปรจิตร มีเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ของเมืองคอน ดูถูกเหยียดหยามว่าผมมันเป็นขยะ ผมคนนี้แหละจะเป็นขยะเผาไหม้เจ้าของธุรกิจคนนี้ที่มีคนชื่นชมเคารพให้ตายในกองไฟ ผมจะกระชากหน้ากากมาให้ชาวนครศรีธรรมราช รู้ภูมิหลังคนชั่วช้าคนนี้ไห้ดู”
และยังโพสต์ภาพตัวเองหลายภาพ พร้อมข้อความว่า “ความโกรธ ความเกลียด ความเครียดแค้น ความอาฆาตพยาบาทต่อคนอื่นๆ ไม่เคยทำให้ใครมีความสุข มีแต่นำความทุกข์เข้ามาให้ตัวเองตลอดเวลา คิดว่าเมื่อไหร่เค้าคนนั้นจะตามมาแก้แค้นล้างแค้นทำให้ชีวิตไม่มีความสุขทุกข์อยู่ตลอดเวลา แค้นนี้ต้องจดจำไว้ตลอดไป สิบปียี่สิบปีสามสิบปีก็ยังไม่สายสามารถจัดการได้ตลอดไปจำไว้ใครทำอะไรกับผมไว้จะได้รับผลกรรม ธรณีนี่นี้เป็นพยานผมก็สิทธิ์มีอาจารย์เหมือนกัน ในโลกนี้ไม่มีใครใหญ่กว่าโลง จำใส่กะลาเอาไว้”
หลังโพสต์ภาพและข้อความ ชาวเน็ตเป็นจำนวนมากที่เข้าไปคอมเม้นท์ในเฟซบุ๊กของนายเสนอ โดยเฉพาะมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ Jimmy Chawala” ซึ่งก็คือนายจิมมี ชวาลา คหบดีมหาเศรษฐีใจบุญ เจ้าของกิจการร้าน “ จิมมีคลังผ้า “ซึ่งเคยบริจาคเงินเพื่อสาธารณะกุศลมาแล้วเกือบ 200 ล้าน
ล่าสุดบริจาคเงินในนามชาวนครศรีธรรมราช จำนวน 16 ล้านบาท เข้าร่วมโครงการ “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ” และบริจาคสร้างอาคารโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช จำนวน 10 ล้านบาท โดยมีการคอมเม้นท์ในลักษณะตอบโต้เหมือนกับว่า นายจิมมี่ เป็นคู่กรณีความขัดแย้งกับนายเสนอ อย่างชัดเจน
โดยเฉพาะข้อความที่นายเสนอ คอมเม้นท์ตอบโต้ถึงขั้นกล่าวหาว่า “ท่านบังคับให้ผมกราบตีน และท่านให้มือปืนเอาปืนจี้หัวผม “ ในขณะที่นายจิมมี่ ได้โพตส์ข้อความตอบโต้อย่างดุเดือดเช่นกันว่า “ ผมจะไม่ให้อภัยโดยเด็ดขาดถ้ายังเหิมเกริมและยโสโอหัง ”และ“ ล้มเหลวทางธุรกิจแล้วมาพาลผม (ถึงในร้านผม) แล้ววันนี้คุณเสนอจะขู่ผม และครอบครัวหรือ”
ในขณะที่นายเสนอ โพสต์โต้ตอบกลับไปว่า “ ก็แล้วแต่ท่านจะเมตตากรุณาครับ แต่ผมอภัยทานให้ท่านครับ แต่จะไม่อภัยมือปืนที่ท่านให้มันเอาปืนมาจี้ผม และท่านชี้ไปที่ตีนท่านให้ผมก้มลงกราบ ผมก็ยอมกราบเท้าท่านแล้วครับ”และข้อความตอบโต้ของนายเสนอกับนายจิมมี่ อีกหลายข้อความ ซึ่งสร้างความสงสัยและสนใจให้กับชาวโซเชี่ยลเป็นอย่างมาก พยายามสอบถามหาที่มาที่ไปว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับบุคคลทั้งสอง จนกระทั่งมีสื่อออนไลน์บางสำนักออกมาโพตส์ระบุถึงคู่ขัดแย้งในทำนองว่า “เซเล็บฯ เมืองคอน ‘จิมมี่ - เสนอ’ เปิดศึกหนักถึงขั้นปืนจ่อหัวให้กราบตีน”
อย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้นายจิมมี่ ชวาลา ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนในโอกาสที่เดินทางไปร่วมงานวันนักข่าว 5 มีนาคม 2561 ที่ร้าน “ ตู้เสบียง ” สามแยกนาหลวง ถนนนครศรีฯ - ปากพนัง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่าเนื่องจากนายเสนอ มีปัญหาธุรกิจล้มเหลว เคยเข้ามาขอคำแนะนำกับผม ซึ่งตนก็ได้แนะนำไปว่า “ คุณเสนอจะต้องอยู่ในร้าน ไม่ควรไปปรากฏตัวตามร้านอาหารต่างๆ ดื่มเหล้า เมามาย ขึ้นเวทีร้องเพลง ลูกค้าและคนทั่วไปเขาจะไม่นับถือ ไม่เชื่อมั่น ดังนั้นคุณเสนอ จะต้องอยู่บริหารจัดการภายในร้านของตัวเอง นอกจากนั้นยังมาขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากผมด้วย โดยผมให้เกียรติคุณเสนอ มาโดยตลอด แต่คุณเสนอ กลับไม่ให้เกียรติผม ทำเรื่องที่ไม่เหมาะสม ทำให้คนทั่วประเทศมองผมในภาพไม่ดี ผมเสียหายเป็นอย่างมาก “
นายจิมมี่ กล่าวอีกว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค.61 เบียร์ยี่ห้อดังได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่สนามลีวัฒนา ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีศิลปินดังประกอบด้วย ตูน บอดี้แสลม,โปเตโต และ ดา เอ็นโดร์ฟิน และทางผู้จัดงานได้เชิญผมไปเกียรติเนื่องจากผมเคยบริจาคร่วมโครงการให้ “ตูน” 16 ล้านบาท ซึ่งผมก็ไปและอยู่ในพื้นที่ที่เขาจัดไว้ให้ ขณะที่มีผู้ชมจำนวนมากที่มาชมคอนเสิร์ต ดื่มเหล้า เบียร์ เต้นรำกันอย่างสนุกสาน ในจำนวนนั้นมีนายเสนอ ร่วมอยู่ด้วย เมื่อเห็นผมนายเสนอ ก็เข้ามาหา ในลักษณะอาการที่เมามาย พูดจาเสียงดัง และมีการเข้ามาใกล้ชิดกับผมและถ่ายรูปกับผม ซึ่งผมก็พยายามห้ามปราม ก่อนจะนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ค ระบุข้อความไม่เหมาะสม รวมทั้งในภาพติดกระป๋องเบียร์ไปด้วย ทำให้คนจำนวนมากเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ผมในภาพลบจำนวนมาก พรรคพวกเพื่อนฝูงของผมได้แคปข้อความและภาพหน้าจอเฟซบุ๊กส่งมาให้ผมดู ผมจึงโทรศัพท์ไปตำหนิ ต่อว่านายเสนอ และขอให้นายเสนอ มาหาผมที่ร้าน “ จิมมี่ คลังผ้า” ถนนราชดำเนิน ตลาดท่าวัง ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช”
นายจิมมี่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากนั้นนายเสนอ ได้ลบภาพและข้อความที่โพสต์ออก และเดินทางมาพบผมที่ร้านชั้น 4 แต่แทนที่คุณเสนอ จะฟังผม คุณเสนอ กลับชักแม่น้ำทั้งห้า และหลักพุทธศาสนามาเทศนาสั่งสอนผม ตำหนิผมเสียๆ หายๆ คุณเสนอ มีสิทธิ์อะไรที่จะมาสั่งสอนผม ทำให้ผมไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ผมจึงเรียกพนักงาน 2 คน เข้ามาในห้องและสั่งให้ตบปากคุณเสนอ และขอให้คุณเสนอกราบขอโทษผม พนักงานของผมจึงเข้าไปกระชากคอเสื้อคุณเสนอ แต่ไม่ได้ตบปากตามที่ผมสั่ง โดยคุณเสนอ ก็ยอมก้มกราบผม ผมจึงไล่ให้คุณเสนออกจากห้องผมไป
“ส่วนที่คุณเสนอ ไปโพสต์อ้างว่าผมให้มือปืนชักปืนจี้หัวนั้นไม่เป็นความจริง แต่เชื่อว่าคุณเสนอ โพสต์ในลักษณะนั้นเพราะต้องการทำลายผม คุณเสนอ ไม่สำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำกับผม สร้างความเสียหายให้กับผมและการที่ไปร้องเรียนกับท่านผู้ว่า ฯ และท่านผู้การฯ ผมก็ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก เพราะเชื่อว่าทั้งสองท่านเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ใครเป็นอย่างไร หากเชิญผมไปพบต่อหน้าท่านผู้ว่าฯ และท่านผู้การฯ ผมจะตบปากคุณเสนอต่อหน้าผู้ว่า และผู้การอีกด้วย”
นายจิมมี่ กล่าวอย่างเหลืออดอีกว่า คุณเสนอ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายครั้งกับผม ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องหนึ่งที่ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมผิดศีลธรรมอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายให้กับผมเป็นอย่างมาก แต่ผมก็พยายามอดทนมาตลอด จนถึงครั้งนี้มันเหลือจะทนจริงๆ อย่างไรก็ตามหากคนนครศรีธรรมราช มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายทำลายผมและครอบครัวเช่นนี้ ทั้งๆที่ผมทุ่มเท เสียสละสร้างประโยชน์ให้กับสังคมนครศรีธรรมราชมากมาย แม้แต่การเสียภาษีธุรกิจครอบครัวผมก็จ่ายภาษีหลายสิบล้านบาทในแต่ละปี หากคนนครฯ ไม่ต้องการผม ผมและครอบครัว ก็พร้อมที่จะไปอยู่จังหวัดอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้หลักผู้ใหญ่ในหลายจังหวัด รวมทั้งในกรุงเทพฯ ซึ่งผมมีธุรกิจในเครือข่ายอยู่หลายแห่งเขาก็ต้องการผม หากคนนครฯ เขาไม่ต้องการผม ต้องการทำลายผม ผมก็พร้อมที่จะไปทันที
ด้านนายเสนอ ผันแปรจิตร ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหลายครั้งและเดินทางไปหานายเสนอที่ร้านอาหารแดรี่ฮัท เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร แต่ก็ไม่สามารถต่อนายเสนอได้ ซึ่งผู้สื่อข่าวจะได้ติดต่อสัมภาษณ์นายเสนอ มาเสนอข้อเท็จจริงต่อไป โดยล่าสุดนายเสนอไม่มีการโพสต์ข้อความใหม่ในเฟซบุ๊กแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เผยว่า ขณะนี้ตนอยู่ที่ กทม.มาราชการ ได้มีคุณเสนอ โทรศัพท์มาพูดคุยกับตนในเบื้องต้น ยังไม่มีการแจ้งความอะไรแต่อย่างใด ซึ่งเท่าที่พูดคุยเบื้องต้นน่าจะมีการเข้าใจผิดอะไรกันบางอย่าง ซึ่งตนกำลังหาทางไกล่เกลี่ยหย่าศึกระหว่างคุณจิมมี่กับคุณเสนอ ให้ได้เข้าใจดีต่อกันและจับมือดีต่อกันในเร็วนี้ เพื่อภาพพจน์ที่ดีของจังหวัดนครศรีธรรมราช เพราะทั้งคู่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเอาปืนจี้หัวคุณเสนอหรือไม่ พล.ต.ต.วันไชย ตอบว่า 'เรื่องนี้คงเป็นการเข้าใจผิดกัน เดี่ยวตนจะนัดมาคุยและจับมือคืนดีกัน' พล.ต.ต.วันไชย กล่าวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี