กรมชลประทานแจงพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังลุ่มเจ้าพระยาเป็นไปตามแผน วอนเกษตรกรอย่าทำนารอบ 2 พร้อมเดินหน้าขยายผลโครงการปรับเปลี่ยนปฏิทินในการทำนาปีในพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่งต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังประสบผลสำเร็จสามารถเก็บน้ำผลผลิตได้โดยไม่เสียหาย และยังใช้เป็นแก้มลิง ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์การปลูกพืชฤดูแล้ง โดยเฉพาะการทำนาปรังในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ขณะนี้ปลูกไปแล้ว 1.165 ล้านไร่ ใกล้เคียงกับแผนที่กำหนดไว้คือ 1.1 ล้านไร่ และเริ่มจะเก็บเกี่ยวแล้วประมาณ 4% และยังไม่มีพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทานของลุ่มเจ้าพระยา ประสบปัญหาภัยแล้งหรือปัญหาขาดแคลนน้ำแต่อย่างใด คาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวไปแล้วให้งดทำนาปรังครั้งที่ 2 เพื่อความมั่นคงทางด้านการใช้น้ำ แม้ปริมาณน้ำต้นทุนจากเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์เหลืออีกกว่าร้อยละ 60 ของปริมาณการเก็บกักก็ตาม แต่จะต้องสำรองน้ำไว้ใช้ในการทำนาปีช่วงต้นฤดูฝน และรองรับโครงการปรับเปลี่ยนปฏิทินในการทำนาปีของเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้งตอนบนและตอนล่าง รวมทั้งยังต้องสำรองไว้ใช้ในกรณีเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง และใช้ในภาคส่วนอื่นๆ อีกด้วย
สำหรับโครงการปรับเปลี่ยนปฏิทินในการทำนาปีของเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยานั้น เป็นการดำเนินโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยจะจัดสรรน้ำให้ทำนาปีก่อนฤดูกาลไม่ต้องรอฤดูฝน เพื่อที่ให้เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนถึงฤดูน้ำหลาก ซึ่งในปีที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จอย่างน่าพอใจ เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้โดยไม่ได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วม และพอถึงช่วงฤดูน้ำหลากกรมชลประทานยังใช้พื้นที่ลุ่มต่ำดังกล่าวเป็นพื้นที่รับน้ำนองหรือแก้มลิงธรรมชาติ สามารถช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจของลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้พื้นที่ลุ่มต่ำทั้ง 13 ทุ่ง ในส่วนของพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนบนเหนือจ.นครสวรรค์ คือ ทุ่งบางระกำ ปีนี้ได้ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจาก 265,000 ไร่ เป็น 385,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ จ.พิษณุโลก และสุโขทัย กรมชลประทานจะเริ่มจัดสรรน้ำให้เกษตรกรเตรียมแปลงปลูกข้าวนาปีตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 เป็นต้นไป ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำเจ้าพระยาตอนล่างใต้ จ.นครสวรรค์ จำนวน 12 ทุ่ง คือ ทุ่งเชียงราก จ.สิงห์บุรี ทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก ทุ่งท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ทุ่งบางกุ่ม ทุ่งบางกุ้ง ทุ่งป่าโมก จ.อ่างทอง ทุ่งผักไห่ ทุ่งเจ้าเจ็ด ทุ่งพระยาบรรลือ ทุ่งโพธิ์พระยา ทุ่งบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และทุ่งรังสิตใต้ จ.ปทุมธานี รวมพื้นที่ทั้งหมด 1.15 ล้านไร่ กรมชลประทานจะเริ่มจัดสรรน้ำให้เกษตรกรเตรียมแปลงปลูกข้าวนาปีตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวต่อว่า จากผลการคาดการณ์สภาวะอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าปรากฏการณ์ลานีญาจากปีที่แล้วอาจจะต่อเนื่องมาถึงปีนี้แบบอ่อนๆ ซึ่งฝนอาจจะตกน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งกรมชลประทานได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์แล้ว โดยตรวจสอบว่าพื้นที่ใดที่เสี่ยงภัยแล้ง มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำจำนวน 2,365 เครื่อง สำรองไว้ที่ส่วนกลาง 663 เครื่อง กระจายออกไปตามพื้นที่ต่างๆ แล้ว 1,702 เครื่อง รถบรรทุกน้ำจำนวน 242 คัน สำรองไว้ที่ส่วนกลาง 4 คัน กระจายออกไปตามพื้นที่ต่างๆ 238 คัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี