ส่งอัยการฟ้อง9ข้อหา/ไม่ฟ้องทารุณกรรมสัตว์
เปรมชัยฆ่าเสือดำ
ศรีวราห์ยันสำนวนแน่นหนา
บิ๊กอิตาเลียนไทยหลบฉากสื่อ
ส่งทนายขอเลื่อนพบตร.ปปป.
ขีดเส้น14มีค.ไม่มาเจอหมายจับ
“ศรีวราห์” บินตรวจสำนวนคดี “เปรมชัย-พวก” ก่อนหอบเอกสาร 2 แฟ้ม 857 หน้า ส่งถึงมืออัยการจังหวัดทองผาภูมิ ฟุ้งพยานหลักฐานสมบูรณ์ 99% ได้ผลดีเอ็นเอเขียง-มีดอยู่ในมือ โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง 9 ข้อหา ด้านอธิบดีอัยการภาค 7 ตั้งคณะทำงานติดตามคดี ให้รอบคอบ โปร่งใส
รวดเร็ว โดยจะเปิดแถลงความคืบหน้าทุก 7 วัน ขณะที่ผบก.ปทส.เรียกประชุมพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาบิ๊กอิตาเลียนไทยฯ ครอบครองงาช้าง-อาวุธปืน 14 มี.ค.
เมื่อวันที่ 13มีนาคม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางไปยังสภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อประชุมชุดพนักงานสอบสวนและตรวจสำนวนข้อกล่าวหาคดีนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวอล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 ราย เข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกรวม 9 ข้อหา เพื่อส่งให้อัยการจังหวัดทองผาภูมิพิจารณา จากนั้นเดินทางไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อนำสำนวนข้อกล่าวหาคดีนายเปรมชัย พร้อมพวก 9 ข้อหามอบให้อัยการ โดยมีนางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 และนายทะนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นผู้รับสำนวน
นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองเลขานุการอัยการสูงสุดและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการภาค 7 กล่าวว่า คดีนี้ประชาชนสนใจ ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพิจารณาคดีรอบคอบ รวดเร็วและโปร่งใส อธิบดีอัยการภาค 7 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณาคดี ประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน นายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงาน พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัย รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี คณะทำงาน และนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงานและเลขานุการ โดยจะแถลงความคืบหน้าเป็นระยะ ส่วนจะมีความเห็นสั่งฟ้องภายในระยะเวลากี่วันนั้นยังไม่สามารถตอบได้ ต้องขอเวลาอ่านสำนวนเสียก่อน
ด้านนางสมศรีกล่าวว่า ทางอัยการต้องดำเนินการอย่างรอบคอบรวดเร็ว และโปร่งใสให้ความมั่นใจแก่สังคม คดีนี้จะเร็วหรือไม่อยู่ที่เนื้อหาที่พนักงานสอบสวนจะสอบถามเพิ่มเติม หรือจะสั่งคดีได้เลยก็ต้องตรวจดูสำนวนของพนักงานสอบสวนก่อน โดยคณะทำงานจะแถลงความคืบหน้าคดีให้ทราบทุก 7 วัน
สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหารวม 4คน คือ นายเปรมชัย กรรณสูตร นางนที เรียมแสน นายยงค์ โดดเครือ และนายธานี ทุมมาศ โดยมีข้อกล่าวหารวม 9ข้อ ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.34/2561 ซึ่งจะครบฝากขัง ครั้งที่ 4 วันที่ 25 มีนาคม ในความผิด 9 ข้อหา ดังนี้ 1.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3.ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4.ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 5.ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆซึ่งซากสัตว์ป่า อันได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย
6.ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 7.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 8.ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ 9.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันสมควร
“ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนสรุปสำนวน เสนอพนักงานอัยการดังนี้ เสนอเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหาที่ 1-8 และเห็นควรสั่งฟ้องข้อหาที่ 9 เฉพาะข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควร ส่วนข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากอาวุธปืนของกลางเป็นของนายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่1 ที่ได้รับอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย”นางสมศรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมาพร้อมกับสำนวน เนื่องจากตัวผู้ต้องหาได้มีการฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้ว ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.34/2561 โดยจะครบกำหนดฝากขังผัดที่ 4 ในวันที่ 25 มีนาคม
โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยก่อนนำสำนวนส่งมอบให้อัยการจังหวัดทองผาภูมิพิจารณาว่า สำนวนสมบูรณ์เรียบร้อย 99% ครบถ้วนทั้งพยานหลักฐาน สามารถสั่งฟ้องนายเปรมชัยกับพวก ต่อพนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิได้ทั้ง 9 ข้อหา ที่เกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ โดยพนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานทั้งสิ้น 51 ปาก ส่งหลักฐานและวัตถุพยานไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ 28 รายการ จำนวน 225 ชิ้น เอกสารสำนวน 2 แฟ้ม รวม 857 แผ่น สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ทำสำนวนเพียง 36 วัน ก็มีความเห็นสั่งฟ้องให้พนักงานอัยการได้ ส่วนอีก 1% รอหลักฐานบางส่วนจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ส่วนการตรวจซากสัตว์ ชิ้นเนื้อและวัตถุพยานอื่น กรมอุทยานฯรายงานมาแล้วเบื้องต้น และพนักงานสอบสวนได้นำไปรวมในสำนวนเรียบร้อยแล้ว
วันเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า มีสื่อมวลชนจากทุกแขนงมาปักหลักรอหลังมีกระแสข่าวว่านายเปรมชัย จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนบก.ปทส. เตรียมแจ้งเพิ่มเติม 2 ข้อหาคือ ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้างแอฟริกา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 19 ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน ก่อนครบกำหนดตามหมายเรียกที่จัดหมายให้มารับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 14 มีนาคม เวลา 10.00 น.
โดยเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน บก.ปทส.เตรียมความพร้อมและกำหนดแนวทางการสอบสวนนายเปรมชัย พร้อมนางคณิตา กรรณสูต ภรรยา และน.ส.วันดี สมภูมิ ผู้ที่รับรองการครอบครองงาช้างบ้าที่พบในบ้านของนายเปรมชัยจำนวน 2 คู่ 4 กิ่ง ตนยังยืนยันว่าให้ทั้ง 3 คนมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกเดิม อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ บก.ปทส. ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายเปรมชัย พร้อมภรรยาและน.ส.วันดีว่าจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ ทั้งนี้ หากผู้ถูกออกหมายเรียกทั้งหมดไม่มาตามนัด ต้องมาดูว่ามีการแจ้งเหตุข้อข้องหรือไม่ และเหตุขัดข้องนั้นสมควรให้เลื่อนได้หรือไม่ แต่ถ้าไม่มีการแจ้งเหตุขัดข้อง พนักงานสอบสวนจะพิจารณาว่ามีเหตุสมควรที่จะพิจารณาขออนุมัติหมายจับได้หรือไม่ เพราะถือว่ามีพฤติการณ์ที่จะไม่มา ส่วนการจะให้ประกันตัวหรือไม่ ต้องดูว่าผู้ถูกกล่าวหาให้การเป็นประโยชน์มากน้อยเพียงใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี