วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สัปดาห์นี้ขออนุญาตหลีกหนีความวุ่นวายจากปัญหาการบ้านการเมืองทั้งปวง มาชวนท่านผู้อ่านไปเที่ยว “พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กันบ้าง เพราะความจริงตั้งใจจะเขียนถึงนานแล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เขียนถึงเสียที จนกระทั่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรุ่นน้องเอาหมายงานของพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ มาฝากให้ช่วยกระจายข่าวให้หน่อย ก็เลยทำให้นึกได้ และถือโอกาสเขียนถึงเสียเลย
เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นแค่เพียง “พิพิธภัณฑ์” ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรวบรวมองค์ความรู้อันเป็น “ศาสตร์พระราชา” ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานให้กับพวกเราชาวไทยเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดและส่งเสริมการเรียนรู้ทางการเกษตรตามแนวทาง “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียติฯ จะแบ่งเป็นโซนหลักๆ 2 โซน ซึ่งโซนแรก เป็น “พิพิธภัณฑ์ในอาคาร” มุ่งนำเสนอพระอัจฉริยภาพ พระราชกรณียกิจ รวมทั้งโครงการในพระราชดำริต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรฯ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยมีการนำเสนอในหลากหลายรูปแบบ การจัดนิทรรศการ หุ่นจำลอง ภาพยนตร์สามมิติและสื่อมัลติมีเดีย
ส่วนโซนที่ 2 เป็น “พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง” ซึ่งเป็นฐานการเรียนรู้การทำการเกษตรต่างๆ รวมทั้งนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีแปลงสาธิตทั้งการปลูกข้าว แปลงนาอินทรีย์ แปลงผัก การปลูกสมุนไพร การเพาะเห็ด จนถึงการทำปศุสัตว์
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสำคัญที่พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯทำมาอย่างต่อเนื่อง คือ การเปิดอบรมหลักสูตรตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในหัวข้อต่างๆ ให้ประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา และเกษตรกร เข้ามาเรียนรู้และนำไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ หรือเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ เช่น เทคนิคการปลูกไม้ผลนอกฤดู ระบบให้น้ำพอเพียง การสร้างโรงเรือนปลูกผักระดับครัวเรือน เกษตรอินทรีย์ เทคนิคการปลูกผักแนวตั้ง การทำโซลาร์เซล์เพื่อการพึ่งต้นเอง เป็นต้น
โดยในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันจักรี 6-8 เมษายนที่จะถึงนี้ ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯก็จะมีการจัดงาน “มหกรรมตามรอยพ่อ ต่อยอดพันธุกรรม” เพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ด้านการอนุรักษ์พันธุกรรม อันถือเป็นมรดกล้ำค่าและมรดกที่สำคัญชิ้นหนึ่งของคนไทย โดยในงานนอกจากจะมีกิจกรรมความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมมากมาย เช่น นิทรรศการพันธุกรรมตามนิเวศน์เฉพาะถิ่นของแต่ละภูมิภาค นิทรรศการไผ่นานาชนิด และพันธุกรรมไม้แปลกหายาก แล้ว ตลอดทั้ง 3 วันของงานยังมีการจัดอบรม “วิชาของแผ่นดิน” รวมทั้งหลักสูตรวิชาชีพจากบุคคลต้นแบบและผู้เชี่ยวชาญรวมกว่า 20 หลักสูตร เช่น หลักสูตร “เมล็ดพันธุ์คือชีวิต” เรียนรู้ประโยชน์และการบริโภคเมล็ดพันธุ์เพิ่มพลังชีวิต, การเพาะเห็ดเจ็ดชั่วโคตร เรียนรู้วิธีการเพาะเห็ดกับต้นไม้ การเพาะเห็ดขอนไม้, การทำปุ๋ยชีวภาพชนิดต่างๆ เพื่อบำรุงผักสุขภาพ, การขยายพันธุ์ผักหวาน, การสกัดฮอร์โมนจากพืช, การทำโซลาร์เซลล์แบบพกพา, การทำแป้งเท้ายายม่อม, ป่าพื้นบ้าน, การทำมะนาวดอง และการทำไอศครีมจากมันม่วง เป็นต้น
นอกจากนี้ก็ยังมีการเปิดตลาดพื้นบ้าน ซึ่งมีทั้งผลผลิตการเกษตรฤดูกาล ต้นไม้ พันธุ์ไม้ เมล็ดพันธุ์พืช พันธุกรรมราคาพิเศษ 10 บาท จากกลุ่มเกษตรกรพื้นบ้าน รวมทั้งกิจกรรมบันเทิงและการละเล่นต่างๆ ตามประเพณีไทย เช่น รำวงย้อนยุค ละครเพลงพื้นบ้าน การละเล่นวิถีไทย รวมทั้งกิจกรรมต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงในสัปดาห์หน้า ส่วนท่านที่สนใจตารางการจัดงานโดยเฉพาะการอบรม ลองเข้าไปตรวจสอบที่เว็บไซต์ www.wisdomking.or.th ดูได้ครับ
มะลิลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี