“บิ๊กป๊อก” ขานรับนายกฯ สั่งผู้ว่าฯเชียงใหม่รับฟังความเห็นชาวบ้าน หาทางใช้ประโยชน์บ้านตุลาการ ย้ำต้องเกิดประโยชน์กับแผ่นดินที่สุด ยึดกฎหมายพร้อมฟังเสียงคนในพื้นที่ ด้านศาลยันยอมรับคำชี้ขาดจากนายกฯ ไม่ให้เข้าอยู่บ้านหรูบนดอย
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขานรับนโยบายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่สั่งแม่ทัพภาคที่ 3 กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ไปทำความเข้าใจกับประชาชนที่คัดค้านการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมหาแนวทางยุติปัญหา รวมถึงการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้อย่างไร
เมื่อวันที่ 11 เมษายน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาโครงการก่อสร้างบ้านพักตุลาการบริเวณเชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ว่า เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีที่ให้พิจารณาให้ดี ต้องคำนึงถึงกฎหมายเป็นไปอย่างไร แล้วจะทำอย่างไรให้เกิดผลดีที่สุดกับแผ่นดินเป็นที่ตั้ง เพราะสิ่งก่อสร้างต่างๆใช้งบประมาณสูง ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันพิจารณาหาทางออกให้ดี กฎหมายก็เป็นเรื่องหนึ่ง ความเห็นประชาชนก็เป็นอีกเรื่อง สำคัญทั้งสองฝ่าย
“ผมแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เข้าไปดูพื้นที่ ช่วยกันหาทางออกให้แผ่นดิน ส่วนผลเป็นอย่างไร ต้องรอดูการพูดคุยหา เรื่องกฎหมายเกินอำนาจที่ใครไปสั่งการได้ เสียงประชาชนก็ต้องฟัง ถ้าจบที่กฎหมายเพียงอย่างเดียวก็คงจบไปนานแล้ว”พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
ด้าน นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายกฯระบุถึงการใช้พื้นที่โครงการบ้านพักตุลาการใน จ.เชียงใหม่ ให้เป็นประโยชน์กับประชาชนว่า เมื่อคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม(ก.บ.ศ.) มีมติให้ทำหนังสือรายงานนายกฯไปเเล้ว จากนี้ขึ้นอยู่กับนายกฯเเละฝ่ายบริหารจะพิจารณาดำเนินการอย่างไรต่อ สำนักงานศาลยุติธรรมไม่ขัดข้อง สิ่งที่ชี้เเจงช่วงหลังเพียงเพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องครบทุกด้านก่อนร่วมกันเเก้ปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้ และสร้างความเข้าใจ
วันเดียวกัน ที่จ.เชียงใหม่ คณะกรรมการร่วมทุกฝ่าย ที่ประกอบด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและภาคประชาชน ซึ่งตั้งขึ้นหลังพล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานรับฟังความเห็นจากฝ่ายต่างๆในการเปิดเวทีสาธารณะเพื่อหาทางออกกรณีโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจแนวเขตที่เหมาะสม ในกรณีที่ต้องดำเนินการรื้อถอนบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในส่วนที่ยื่นล้ำขึ้นไปบนดอยสุเทพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสำรวจวันนี้ เป็นการลงพื้นที่โครงการจัดหมู่บ้านตัวอย่างห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีพื้นที่ต่อเนื่องติดกับโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการฯ ซึ่งมีถนนดินลูกรังที่กองทัพบกสร้างไว้เป็นแนวเขตแบ่งพื้นที่ป่าอย่างชัดเจนตั้งแต่เดิม ขณะเดียวได้ลงพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง โครงการชลประทานเชียงใหม่ ที่อยู่ติดกับโครงการก่อสร้างบ้านพักดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการร่วมฯไม่ได้เข้าเข้าสำรวจพื้นที่จริงในโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการฯ เพราะยังไม่ได้รับอนุญาต แม้จะมีการติดต่อประสานงานไว้ล่วงหน้าแล้ว
โดย นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพเปิดเผยหลังเข้าสำรวจแนวเขตพื้นที่ป่าว่า เบื้องต้นมีการกำหนดแนวเขต เพื่อเป็นแนวทางประกอบการพิจารณาตัดสินใจไว้ 3 แนว ได้แก่ 1.รื้อบ้านพักทั้งหมดและอาคารแฟลตที่พัก 9 หลัง จากทั้งหมด 13 หลัง ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของเครือข่ายฯโดยยึดแนวเขตป่าดั้งเดิม 2.รื้อบ้านพักทั้งหมดและอาคารแฟลตที่พัก 6 หลัง และ3.รื้อบ้านพักทั้งหมด พร้อมคงอาคารแฟลตที่พักไว้ทั้งหมด 13 หลัง ซึ่งหลังลงพื้นที่แล้วจะมีการรวบรวมข้อมูลและข้อดีข้อเสียของแต่ละแนว เพื่อนำเสนอให้แม่ทัพภาค 3 พิจารณาตัดสินใจต่อไป ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงเข้าไปลงพื้นที่สำรวจร่วมกันในพื้นที่จริงของโครงการก่อสร้างเท่านั้น แต่เชื่อว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในวันที่ 19 เมษายนตามกำหนด
นายธีระศักดิ์ ยืนยันด้วยว่า ข้อเรียกร้องของเครือข่ายฯต้องการให้รื้อถอน โดยเฉพาะในส่วนบ้านพักที่ยื่นล้ำขึ้นไปบนดอยออกทั้งหมด ต้องการผืนป่ากลับคืนมา ไม่ต้องการให้คงอาคารใดไว้ทั้งสิ้น ถ้าเป็นไปได้อยากเชิญให้นายกฯลงพื้นที่ดูสภาพจริงว่าพื้นที่ยังเป็นป่าจริงหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ที่จะปล่อยให้มีอาคารสิ่งก่อสร้างแปลกปลอมอยู่ในพื้นที่ เชื่อว่าหากนายกฯได้มาเห็นสภาพพื้นที่จริงต้องเปลี่ยนใจ
นอกจากนี้ สภาพพื้นที่ก่อสร้างบ้านพักดังกล่าวไม่เหมาะสม เพราะเสี่ยงที่จะเกิดภัยธรรมชาติทั้งไฟป่า รวมทั้งน้ำป่าไหลหลากและหน้าดินถล่ม ถ้าโครงการนี้ต้องทำประชาพิจารณ์หรือต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเหมือนโครงการปกติทั่วไป เชื่อว่าไม่มีทางก่อสร้างได้ อยากให้กรณีนี้เป็นบทเรียน ถ้าจะดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ป่าต้องให้มีประชาชนมีส่วนร่วมด้วย ขณะเดียวกันอยากเรียกร้องให้ปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน ถ้าชาวบ้านก่อสร้างบ้านพักรุกป่าแล้วถูกรื้อ ส่วนราชการก็ต้องถูกรื้อเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี