23 เม.ย.61 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบสำนวนคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ซึ่งมีพระชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวข้อง 5 รูป ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะข้อมูลในสำนวนที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) ส่งมานั้นยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากมีเวลารวมรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพียง 30 วัน
ทั้งนี้ ตามระเบียบของ ป.ป.ช.จะมีกรอบเวลาในการแสวงหาข้อมูล 6 เดือน หากยังทำไม่เสร็จเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสำนวนจะขอขยายเวลาได้อีก 3 เดือน หากยังทำไม่เสร็จก็จะต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อของขยายเวลาอีก 3 เดือน แต่หลังจาก 1 ปี หากรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จก็จะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อให้คณะกรรมการลงไปดำเนินการ
ประธาน ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า คิดว่าหากรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จเร็ว เจ้าหน้าที่ก็คงจะส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา คงไม่ชักช้า ส่วนทางเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลเต็มกรอบเวลาหรือไม่นั้น จะต้องรอดูพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งข้อมูลทางการเงิน เรื่องการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งเราต้องรอบคอบเพราะคดีดังกล่าวเกี่ยวกับบุคคลสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องเชิญพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(ผอ.พศ.) มาให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของผู้รับผิดชอบ ซึ่งอาจจะเป็นการขอข้อมูลไป หรือเป็นการสอบปากคำพยานผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ ส่วนจะสามารถใช้หลักฐานเดิมจากคดีเงินทอนวัดที่ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้มาประกอบการพิจารณาได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานนั้นๆ ซึ่งบางอย่างก็สามารถใช้พยานหลักฐานเดิมได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี