ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา นางดวงสุมาลย์ โสภากุล อายุ 57 ปี ชาวบ้านบ้านอุ่นจาน ต.อุ่นจาน อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี และนายบุญมี เนืองแก้ว อายุ 68 ปี ชาวบ้านบ้านดงบาก ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ได้เข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ สภ.เมืองอุดรธานี เรียกรับเงิน 10,000 บาท และ 20,000 บาท เพื่อเป็นค่าดูแลทีมงานในคดีไถ่ถอนโฉนดที่ดินจากนายทุนดอกเบี้ยโหดรายหนึ่งในพื้นที่ ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี

นายบุญมี กล่าวว่า หลังจากนายทุนเจ้าหนี้นัดตกลงคืนเงิน และโฉนดที่ดินที่ สภ.เมืองอุดรธานี เวลา 15.00 น.วันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งไม่ทราบชื่อ แต่งกายชุดครึ่งท่อน เดินมาบอกตนว่าคุณลุงช่วยค่าดำเนินการ ค่าดูแล หลังเรื่องจบด้วยนะ ตอนแรกก็คิดว่า 1,000-2,000 บาท พอถามไปตำรวจก็บอกว่า 25,000 บาท พอต่อรองราคากันไปกันมาตกลงที่ 20,000 บาท ตนจึงยินยอมให้ไป โดยเงินจำนวนนี้ตนไม่ได้เสนอให้แต่อย่างใด แต่เป็นการเรียกร้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอหลานรู้เรื่องก็ไม่พอใจจึงได้ปรึกษาหารือ และเดินทางเข้ามาแจ้งความดังกล่าว

ทั้งนี้ ชาวบ้านบอกอีกว่า นายทุนยึดที่ดินที่ขายฝากไว้ ได้รับการแก้ไขจากศูนย์ดำรงธรรม และอัยการ จ.อุดรธานี มีการไกล่เกลี่ยทางแพ่ง มีพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดูแลคดี มีการตกลงคืนเงินดอกเบี้ยที่จ่ายเกิน และโอนที่ดินคืน มีหลักฐานเป็นเอกสารการทำธุรกรรมจากสำนักงานที่ดินที่ดิน ชัดเจน หลังจากนายทุนกลับไป ตำรวจก็เข้ามาพูดขอเงินเป็นค่าดำเนินการคดี อ้างว่าเป็นค่าดูแลทีมงาน นายบุญมี ตกลงจ่าย 20,000 บาท นางดวงสุมาลย์ฯ ตกลงจ่าย 10,000 บาท ซึ่งตอนแรกก็คิดจะให้เป็นสินน้ำใจบ้าง แต่ไม่ได้คิดว่าจะถูกเรียกมากขนาดนี้

ด้าน พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ กล่าวว่า หลังจากการรับเรื่องราวครั้งนี้ เบื้องต้นจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าเป็นจริงจะจัดการ จะดำเนินการตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนเอง

“ประชาชนเดือดร้อนแล้วตำรวจทำพฤติกรรมแบบนี้ ผู้บังคับบัญชาไม่สบายใจ จากนี้จะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ และจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป” ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี กล่าว

ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องเรื่องคดีความที่ถูกนายทุนเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด ได้มอบหมายผู้รับผิดชอบรับช่วงต่อแล้ว

รายงานข่าว แจ้งว่า พล.ต.ต.พีระพงษ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และมีท่าทีไม่พอใจตำรวจที่ไปเรียกรับเงินชาวบ้านที่กำลังเป็นทุกข์อยู่ โดยวันนี้(24 เม.ย.61) จะแถลงข้อเท็จจริง หากตรวจสอบข้อมูลมีมูลต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ จ.อุดรธานี มีคดีความเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชน มีให้เห็นกันอยู่เป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจเรียกรับเงินเพื่อเปลี่ยนสำนวนคดี ตำรวจเรียกรับเงินจากแรงงานต่างด้าว ตำรวจเรียกรับเงินจากเด็กแว้น แลกการไม่เอาผิด จยย. ป้ายภาษี โดยการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง โดยต้องหาคดีอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรรโชกทรัพย์