อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ร้อยละ 80 เป็นภูเขา ทำให้มีสภาพอากาศที่เย็น และเป็นต้นกำเนิดของลำห้วยหลายสาย ดินจึงมีความอุดมสมบูรณ์สูง การเกษตรจึงถือเป็นอาชีพหลักของคนที่นี่ แต่ด้วยวิธีแบบเดิมๆ คือ “เกษตรเชิงเดี่ยว” ได้เป็นปัญหาที่พันธนาการชุมชนแห่งนี้ไว้ จนต้องมองหาวิธีปลูกพืชที่หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยง และเพิ่มรายได้ และความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านทำให้เกิดการบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดวิสาหกิจชุมชนกาแฟ นายูง มีโรงสีและคั่วกาแฟที่สามารถผลิตกาแฟคั่วทั้งเม็ดและบดอย่างครบวงจร จนสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนาชมภู อ.นายูง จ.อุดรธานี ว่า จากสภาพทั่วไปของอำเภอนายูง ซึ่งเป็นภูเขาและมีสภาพอากาศหนาวเย็น การเกษตรถือเป็นอาชีพหลักของคนที่นี่ ในอดีตเกษตรกรชาวอำเภอนายูง ทำการเกษตรแบบเชิงเดี่ยว โดยปลูกยางพาราเป็นหลัก แต่ภายหลังประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำ กรมส่งเสริมการเกษตรจึงบูรณาการร่วมกับจังหวัดอุดรธานี เพื่อหาแนวทางส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกาแฟและพืชเมืองหนาว เพื่อลดพื้นที่ปลูกยางพารา เป็นการส่งเสริมอาชีพให้แก่ราษฎรในอำเภอนายูง โดยได้จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนกาแฟนายูงขึ้นเมื่อปี 2557 และได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกกาแฟ 800 ไร่ มีสมาชิก 200 ราย พร้อมตั้งโรงงานแปรรูปกาแฟ ผลิตทั้งกาแฟอาราบิกาและโรบัสต้า ในรูปแบบกาแฟคั่วบดแบรนด์ “กาแฟนายูง Nayung’s Coffee” เพื่อเป็นสินค้า OTOP ของจังหวัดอุดรธานี ทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่หน่วยงาน สถานศึกษาและผู้สนใจ มาเยี่ยมชมการปลูกและผลิตกาแฟนายูงในพื้นที่
“วิสาหกิจชุมชนกาแฟนายูง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ “กาแฟนายูง” ที่เริ่มผลิตและจำหน่ายให้กับคนในชุมชน ตามร้านกาแฟสดในท้องที่ จนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น มียอดสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง จนบางครั้งผลิตไม่ทันตามความต้องการของตลาด ปัจจุบันได้ต่อยอดเปิดแฟรนไชส์ไปแล้ว 33 สาขา ทั่วประเทศ “Nayung Coffee” หรือ กาแฟนายูง จึงถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์อุดรธานีอย่างแท้จริง อันเกิดจากความร่วมมือร่วมใจระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประชาชน เพื่อให้ชุมชนอยู่ได้อย่างยั่งยืน”อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว
นายสมเกียรติ อ่อนรู้ที่ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟนายูง เปิดเผยว่า สภาพทั่วไปของอำเภอนายูงเป็นภูเขา ภาพรวมของเกษตรกรรมคือทำไร่ทำสวน แต่เดิมจะเป็นไร่มันสำปะหลังเป็นหลัก อ้อยและฝ้ายบางส่วน แต่ภายหลังที่ได้มีการนำร่องให้ปลูกยางพารา พื้นที่ทำการเกษตรจึงถูกเปลี่ยนเป็นสวนยางพารา จนกระทั่งในปี 2557 เกิดวิกฤติราคายางพาราตกต่ำ เกษตรกรในชุมชนจึงเห็นพ้องต้องกันว่า จะต้องหันมาปรับเปลี่ยนการทำเกษตรจากเชิงเดี่ยวสู่การทำเกษตรผสมผสาน จึงมองหาพืชที่สามารถปลูกแซมในสวนยางแล้วให้ผลผลิตที่ดี ประกอบกับนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้น มองเห็นว่าอำเภอนายูงมีศักยภาพพอที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกาแฟได้ จึงได้มีนโยบายให้นำเกษตรกรไปศึกษาดูงานที่จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นการจุดประกายให้เกษตรกรเกิดความคิดเหมือนกันว่า พื้นที่อำเภอนายูงเหมาะสมที่จะปลูกกาแฟเป็นพืชเสริมรายได้ เมื่อตกผลึกร่วมกันแล้ว จึงได้รวมกันจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟนายูงขึ้น ภายใต้คำแนะนำและให้คำปรึกษาของกรมส่งเสริมการเกษตร เริ่มตั้งแต่การลงพื้นที่สำรวจหาพื้นที่แปลงปลูกที่เหมาะสม (Zoning) ร่วมกับชาวบ้าน เก็บตัวอย่างดินมาวิเคราะห์ และแนะนำการปลูกให้กับเกษตรกร
จุดเด่นของกาแฟนายูงคือ เป็นกาแฟ 100 เปอร์เซ็นต์ และใช้กาแฟเกรดเอเท่านั้น เน้นด้านคุณภาพไม่ได้เน้นปริมาณ ปัจจุบันกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟนายูง มีโรงสีและคั่วบดกาแฟที่สามารถผลิตกาแฟคั่วทั้งเม็ดและบดได้อย่างครบวงจร โดยแต่ละสัปดาห์ กลุ่มจะนำผลผลิตเมล็ดกาแฟสดที่รับซื้อจากเกษตรกรและสมาชิกไว้ มาผ่านกระบวนการแปรรูปที่ได้มาตรฐานด้วยแรงงานภายในชุมชน
“ในช่วงแรกที่ไปส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาเอาจริงเอาจังกับการปลูกกาแฟ ยังมีเกษตรกรจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ยอมรับ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับกาแฟที่ปลูกแซมในสวนยางเท่าที่ควร แต่ภายหลังจากกาแฟนายูงเริ่มมีแฟรนไชส์ เริ่มคั่ว เริ่มส่ง เริ่มรับซื้อ เกษตรกรจึงมองเห็นช่องทางของรายได้ที่มั่นคง จึงให้ความสำคัญกับต้นกาแฟ มีการบำรุงรักษาที่เหมาะสมตามคำแนะนำของกรมส่งเสริมการเกษตร และจากความร่วมมือร่วมใจและประชาสัมพันธ์กับเกษตรกรในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้กาแฟนายูงเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียง เป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์ดังที่สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน ซึ่งหากเราสามารถเปิดแฟรนไชส์เฉพาะในพื้นที่โซนภาคอีสาน 4-5 จังหวัด ก็คิดว่าเกษตรกรที่ปลูกกาแฟ จะมีรายได้เสริมประมาณ 3,000-4,000 ต่อไร่ต่อปีเลยทีเดียว” นายสมเกียรติ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี