‘อสส.’สั่งฟ้อง6ข้อหาเดิม
เปรมชัยกับพวก
ร่วมกันล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่
เห็นพ้องอธิบดีอัยการภาค7
พร้อมเรียกค่าเสียหาย3ล้าน
ตีตกร้องขอความเป็นธรรม
“อสส.”เห็นพ้องอธิบดีอัยการภาค 7 สั่งฟ้อง 6 ข้อหา “เปรมชัยกับพวก”พร้อมเรียกค่าเสียหาย 3 ล้านบาท ให้กับกรมอุทยานฯ ส่วน 3 ข้อหาที่ตำรวจขอให้ฟ้องเพิ่มเป็นอันตกไป รวมถึงคำร้องขอความเป็นธรรมเมื่อวันที่ 30 เมษายน นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7
ผู้ดูแลสำนวนคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการบริหาร บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก รวม 4 คน ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี ร่วมกับ นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา2 ภาค7และคณะทำงานรับผิดชอบคดี ได้แถลงข่าวการยื่นฟ้องคดีดังกล่าว ว่า ทางอัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้วและมีความเห็นพ้องกับอัยการภาค7 คือ ให้ฟ้อง 6ข้อหา ส่วนที่ทางตำรวจภูธรภาค7 ขอให้เพิ่มอีก 3ข้อหานั้น ก็ให้ตกไป
สำหรับข้อหาที่ นายเปรมชัย ถูกสั่งฟ้องนั้น เป็นข้อหาเดิม คือ 1.ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่า 5.ร่วมกันซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย 6.ร่วมกันเก็บของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
ก่อนหน้านี้ อัยการเห็นสั่งฟ้อง6ข้อหา จาก 9ข้อหา ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 เห็นแย้งให้ฟ้องอีก 3 ข้อหาที่ตัดไปด้วย คือ ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีเครื่องมือล่าสัตว์ป่า, ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าฯ จึงมีการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดชี้ขาด
ส่วนเมื่อวันที่ 27เมษายนที่ผ่านมา กรณีที่ นายเปรมชัย กรรณสูต ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีอัยการภาค7 ขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานที่อยู่ของนายเปรมชัยในช่วงวันเวลาเกิดเหตุ พร้อมส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมาด้วยและขอให้สอบสวนเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก 3คน รวมทั้งให้สอบสวนบุคคลภายนอกและนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตฯทุ่งใหญ่นเรศวร ในประเด็นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม คณะทำงานและอธิบดีอัยการภาค 7 พิจารณาแล้วเห็นว่า เอกสารที่นายเปรมชัย ส่งมาประกอบคำร้องขอความเป็นธรรม ทั้งการขอให้สอบพยานบุคคลเพิ่มเติมนั้น เห็นว่าพยานที่อ้างถึงมิใช่พยานที่เกี่ยวข้องในคดีเป็นเพียงผู้ที่แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น ส่วนพยานที่เกี่ยวข้องตามประเด็นที่นายเปรมชัย ร้องขอความเป็นธรรมนั้น ได้มีการสอบส่วนพยานดังกล่าวไว้แล้ว คำร้องขอความเป็นธรรมของนายเปรมชัยจึงมีลักษณะเป็นการประวิงคดี ทั้งข้อเท็จจริงตามสำนวนการสอบสวนได้ความครบถ้วนแล้วจึงไม่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมตามประเด็น
ทั้งนี้ อัยการจังหวัดทองผาภูมิ ได้ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 4คน ต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตามคำสั่งฟ้องของอธิบดีอัยการภาค7 ในวันที่ 30เมษายนนี้ ส่วนมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นจำนวนเงิน 3,012,000บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี