วันพืชมงคล พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ผ่านพ้นเรียบร้อยด้วยดีแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นสัญญาณเริ่มต้นฤดูเพาะปลูกทำนาปี 2561 อย่างเป็นทางการ ด้วยความเป็นสิริมงคลยิ่ง
สำหรับการเสี่ยงทายพยากรณ์ในปีนี้ “พระโค”เสี่ยงทายแรกนาขวัญ กินน้ำ หญ้า เหล้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์ การคมนาคมจะสะดวกขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจรุ่งเรือง
ผลเสี่ยงทายของพระโคที่ว่า “การเกษตรจะอุดมสมบูรณ์ เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง” ทำให้ท่านนายกฯบิ๊กตู่-ประยุทธ์ จันทร์โอชาที่ร่วมอยู่ในพระราชพิธี ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงยิ้มให้สัมภาษณ์ว่า“สบายใจขึ้น” แต่ก็เตือนให้เกษตรกรอย่าประมาทในการผลิตต้องเตรียมความพร้อมไว้ด้วย เพราะการพยากรณ์มีโอกาสคลาดเคลื่อน เนื่องจากสภาวะอากาศโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก ขอให้ระมัดระวัง เตรียมการรองรับความเสี่ยงทั้งเรื่องน้ำท่วม ฝนแล้ง ตามที่รัฐบาลได้แนะนำไป
ท่านนายกฯบิ๊กตู่ยังกล่าวให้กำลังใจพี่น้องเกษตรกรทุกคนและขอให้เรียนรู้ รับฟังสิ่งที่รัฐบาลทำไว้ให้ มันอาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่หลายคนต้องการ แต่จะเกิดความยั่งยืนในภายหลัง ก็ย่อมดีกว่าการที่ทำให้รวดเร็วขึ้น แล้วล้มพังลงมาเหมือนเดิม ทั้งยังย้ำแนวทาง”การตลาดนำการเกษตร”เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่การเกษตรต้องคำนึงถึงผู้บริโภค คำนึงถึงการตลาดก่อนเสมอ ใช้การตลาดเป็นตัวนำ ทุกอย่างก็จะสำเร็จ ไม่ใช่เพาะปลูกมากจนเกินความต้องการของตลาด
คำเตือนนายกฯบิ๊กตู่ในเรื่องนี้ นับว่าสมควรที่เกษตรกรต้องรับฟังและดำเนินการเพาะปลูกด้วยความระมัดระวัง รอบคอบอยู่มิใช่น้อย โดยเฉพาะกับสถานการณ์การทำนาในปีนี้
ทั้งนี้เพราะปัจจัยต่างๆในปีนี้ เอื้ออำนวยยิ่งที่จะทำให้มีการแห่ทำนา ทำการเกษตรเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ผลผลิตต่างๆ โดยเฉพาะ“ข้าว”มีแนวโน้มที่ปริมาณจะกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง
ปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการผลิตคือ “น้ำ” ทั้งปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามากเป็นพิเศษตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าฤดูฝนเต็มตัว จนปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆทั่วประเทศอยู่ในระดับสูง ทำให้กรมชลประทานกล้าการันตีว่า ปีนี้จะมีน้ำสำหรับการเพาะปลูกทำการเกษตรได้อย่างเพียงพอแน่
ขณะที่ราคา“ข้าว”ก็ยืนอยู่ในระดับที่“ดี” ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)-วิณะโรจน์ทรัพย์ส่งสุข ระบุว่า ราคาข้าวที่เกษตรกรขายได้ช่วงมกราคม-พฤษภาคม 2561 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยข้าวเปลือกหอมมะลิราคาเฉลี่ยตันละ 13,529 บาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ยตันละ 9,207 บาท ส่วนราคาข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% เฉลี่ยตันละ 7,785 บาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ราคาเฉลี่ยตันละ 7,514 บาท
ทำให้รายได้ชาวนามีแนวโน้มดีขึ้นกว่าสินค้าเกษตรอื่นๆ โดยดัชนีรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือก 4 เดือนแรกปี 2561 (ม.ค.-เม.ย.) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 50.44% เป็นผลจากดัชนีผลผลิตข้าวเปลือกเพิ่มขึ้น 30.61% และดัชนีราคาข้าวเปลือกเพิ่มขึ้น 15.18% โดยรายได้ชาวนาผู้ปลูกข้าวเปลือกหอมมะลิเพิ่มขึ้น 61.55% ส่วนผู้ปลูกข้าวเจ้า เพิ่มขึ้น 35.35%
“ที่รายได้ชาวนาดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการที่ภาครัฐออกมาเป็นระยะๆ และพยายามบริหารจัดการสินค้าเกษตรทั้งระบบ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านราคาในอนาคต โดยเฉพาะข้าว ที่ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือชาวนาตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรอย่างต่อเนื่อง ขยายการทำนาแบบแปลงใหญ่ให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปรับเปลี่ยนเป็นแปลงข้าวอินทรีย์ให้มากขึ้น เชื่อมโยงตลาดกับการผลิตล่วงหน้า ยกระดับมาตรฐานคุณภาพข้าว ลดการปลูกข้าวรอบ 2 ดึง Supply ส่วนเกินออกในช่วงผลผลิตมาก ผลักดันการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการแปรรูปข้าว และพัฒนาระบบ E-Agriculture เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว”
ถ้าว่าตามเลขาฯ สศก.ก็ต้องถือว่า นโยบายรัฐเรื่อง“ข้าว” เริ่มเห็นผลดีบ้างแล้ว แต่ถ้าชาวนาที่อัดอั้นกันมาหลายปี เห็นปีนี้“ข้าว”ราคาดี แล้วกลับมาแห่ปลูกจนผลผลิตมากเกินไป ราคาข้าวก็จะมีความเสี่ยงขึ้นมาได้อีก
ยิ่งโดยเฉพาะปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง และนักการเมืองพรรคที่เคยใช้นโยบายประชานิยมผลาญชาติจนล่มจมมาแล้ว เริ่มออกมาแบะท่าว่า จะผลักดันโครงการจำนำข้าวอีกครั้งด้วย มันก็ยิ่งเป็นความเสี่ยงที่ชาวนาควรพิจารณากันให้รอบคอบยิ่งขึ้น!
สาโรช บุญแสง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี