ปปช.ฟัน6จนท.
เซ่นจัดซื้ออัลฟ่า6แพงเว่อร์
สาวไม่ถึงขรก.-สส.ตามเคย
ฮึ่มแก๊ง‘อมเงินวัด’โทษหนัก
ผิดหลายกระทงลุ้นคุก200ปี
ป.ป.ช.ฟัน 6 ข้าราชการระดับหัวหน้าหน่วยงาน ทุจริตเครื่องตรวจระเบิด-ยาเสพติด อัลฟ่า 6 ของพิษณุโลก สำนวนแรกส่งถึงมืออัยการพิจารณาสั่งฟ้อง แต่สาวไม่ถึงบิ๊กข้าราชการ-นักการเมืองตามเคย ส่วนคดีโกงเงินทอนวัด 13 สำนวน มั่นใจเสร็จเร็ว เพราะใช้หลักฐานร่วมกันได้ ฮึ่ม ข้าราชการเอี่ยวมีสิทธิติดคุกถึง 200 ปี บางส่วนอาจพ่วงข้อหารวยผิดปกติ เตือนใครคิดหนีก็ต้องหนีตลอดชีวิต
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวน 12 ชุด เพื่อตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดอัลฟา 6 และจีที 200 ตามที่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งเรื่องมาให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดกรณีดังกล่าวแล้ว 1 สำนวนและส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดเรียบร้อยแล้ว
“คดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 กับอัลฟ่า 6 คณะกรรมการป.ป.ช.ก็ได้ชี้มูลความผิดบ้างแล้ว ในส่วนของคดีที่จังหวัดพิษณุโลก ถือเป็นคดีแรก จากการพิจารณาคณะกรรมการ ป.ป.ช.พบการทำผิดของผู้ถูกกล่าวหาชัดเจน และชัดเจนในขบวนการด้วย ซึ่งที่ชี้มูลไปครั้งนี้ เป็นข้าราชการระดับ 8-9 ระดับหัวหน้าสำนักงานในจังหวัด และเมื่อป.ป.ช.ส่งให้อัยการสูงสุด (อสส.)แล้ว ทางอัยการฯจะพิจารณาข้อชี้มูลของ ป.ป.ช.ที่ได้ส่งไป หากเห็นชอบด้วยก็สั่งฟ้อง ส่งศาลทุจริตประพฤติมิชอบต่อไป” ประธาน ป.ป.ช.กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม จากการพิจารณายังเชื่อมโยงไปไม่ถึงข้าราชการระดับสูงหรือนักการเมือง
ทั้งนี้จากการชี้มูลคดีดังกล่าวจะมีพยานหลักฐานร่วมที่เป็นกรอบวินิจฉัยสำนวนอื่นอีก 11 สำนวนที่ยังค้างอยู่ได้ เพราะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า สำนวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคือ กรณีกล่าวหาว่าที่ ร.ต.สุรศักดิ์ วงศาโรจน์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพิษณุโลก กระทรวงมหาดไทย นายวีระ อินทรประสิทธิ์ หัวหน้ากลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร นายทรงศักดิ์ ภูมิผล นายช่างไฟฟ้าสื่อสาร 6 น.ส.อุบล นุชแพร เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล 5 นางหทัยกาญจน์ แปงแก้ว เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี 5 และนายขวัญชัย คำชุ่ม เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 3 กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีจัดซื้อเครื่องตรวจค้นยาเสพติดของจังหวัดพิษณุโลก เมื่อปี 2551 โดยไม่ตรวจสอบราคา ที่ส่วนราชการอื่นเคยจัดซื้อ ทำให้จ.พิษณุโลกต้องจัดซื้อเครื่องตรวจค้นวัตถุระเบิดและยาเสพติด อัลฟ่า 6 ในราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น และไม่มีประสิทธิภาพในการใช้งาน เป็นเหตุให้ราชการได้รับความเสียหาย
พล.ต.อ.วัชรพล ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีทุจริตเงินงบประมาณแผ่นดินเพื่อใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือเงินทอนวัดว่า ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนไปทั้งหมด 13 สำนวน จำนวน 13 วัด เป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินในวัดต่างๆ เชื่อว่า ป.ป.ช.จะดำเนินการได้รวดเร็ว เพราะกระบวนการเชิงบริหารจัดการนั้น ป.ป.ช.มีข้อมูลหมดแล้ว จะได้นำมาไต่สวนโดยใช้พยานหลักฐานร่วมกันได้ และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสำนวนก็ยืนยันแล้วว่าสามารถวินิจฉัยได้เร็ว เพื่อสรุปสำนวนเสนอให้กรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา ทั้งนี้ ใน 13 สำนวนดังกล่าวต่างกรรมต่างวาระกัน ก็ต้องแล้วแต่การแยกสำนวนและบริหารจัดการคดี แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแล้วว่าพยานหลักฐานใดที่ใช้ร่วมกันได้ให้นำมาใช้ได้ในสำนวนอื่นๆเช่นกัน ทำให้ย่นระยะเวลาพยานหลักฐานได้มากพอสมควร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีตำรวจกองปราบปรามเข้าตรวจค้นบ้านนายทหาร ยศ “ร.ท.”คนหนึ่ง ซึ่งมีความสนิทสนมกับพระผู้ใหญ่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งในกทม. ที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องทุจริตเงินทอนวัด ต่อมาต้นสังกัด ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้น ป.ป.ช.จะเอาเรื่องดังกล่าวมาร่วมพิจารณาได้หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบก็ต้องเข้าไปดู เมื่อมีหน่วยงานตรวจสอบตามกฎหมาย ป.ป.ช.คงไม่ไปตรวจสอบอีกให้ซ้ำซ้อน ซึ่งตามกฎระเบียบระบุชัดเจนว่าเมื่อถึงเวลาแล้วคดีจะมารวมที่ ป.ป.ช.อย่างไร มั่นใจว่าคดีเงินทอนวัดจะพิจารณาได้เร็วมาก เชื่อว่าภายในปีงบประมาณนี้ เรื่องนี้จะชัดเจนขึ้น
พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวด้วยว่า ใน 13 สำนวนคดีเงินทอนวัด มีชื่อผู้ถูกกล่าวหาที่ซ้ำกันอยู่บ้าง โดยเฉพาะในตำแหน่งข้าราชการระดับสูง เช่น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) และรอง ผอ.พศ. มีชื่อซ้ำกันบ้าง แต่การพิจารณาจะดูต่างกรรมต่างวาระ แต่ละสำนวนไป ขณะที่ศาลพิจารณาลงโทษก็จะพิจารณาเป็นรายกระทงไปเช่นกัน ซึ่งโทษสูงสุดคือ จำคุกไม่เกิน 50 ปีในแต่ละคดี ถ้านำแต่ละสำนวนมารวมกัน โทษก็อาจสูงสุดถึง 200 ปีได้ ดังนั้น ถ้าบางคนถูกลงโทษแต่ละสำนวน ก็จะถูกนำโทษมารวมกัน เหมือนในคดีอื่นๆ แต่โดยกระบวนการทางราชทัณฑ์แล้ว ก็จะมีการลดหย่อนแล้วแต่ระเบียบที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีหลายคดีในการพิจารณาไปพร้อมกัน แต่เมื่อพิจารณาคดีหลักได้ก่อนแล้ว คดีอื่นที่เกี่ยวข้องก็ง่าย ระยะเวลาพิจารณาก็จะลดลง เพราะไม่เสียเวลาสอบพยาน หาข้อมูลหลักฐาน
“นอกจากนี้ บางสำนวน ป.ป.ช.ยังสามารถพิจารณาในกรณีร่ำรวยผิดปกติได้อีกด้วย เพื่อดูว่าทำอย่างไรจะได้ทรัพย์สินของรัฐคืน เพื่อให้เขารู้ว่าโกงวัดไปก็ไม่ได้เงิน และจะยึดทรัพย์ตามมูลค่า ถ้าโกงไป 10 ล้านในคำพิพากษาก็จะให้ติดตามทรัพย์สินอื่นในมูลค่าเดียวกันกลับมาชดใช้ต่อรัฐ แต่ถ้าผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีไปต่างประเทศ ตามกฎหมายใหม่ของป.ป.ช. ก็ต้องหนีตลอดชีวิต อีกทั้ง ยังสามารถพิจารณาสอบพยานลับหลังได้อีกด้วย ดังนั้น ถ้าหนีก็ต้องหนีตลอดชีวิต”พล.ต.อ.วัชรพลกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี