ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะกฎหมาย ลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดผลการสอบครูกระทำทุจริตต่อหน้าที่ ทั้งเรียกรับเงินสอบบรรจุโยกย้าย 11 จังหวัดภาคอีสาน ที่ยังคั่งค้างให้แล้วเสร็จตามกำหนด เพื่อพิจารณาโทษตามระเบียบกฎหมาย ทั้งป้องปรามไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
21 พ.ค.61 พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกฎหมาย ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ติดตามความคืบหน้ากรณีครูทุจริตต่อหน้าที่ และแอบอ้างเรียกรับเงินสอบบรรจุ หรือโยกย้าย ในพื้นที่ 11 จังหวัดภาคอีสาน พร้อมทั้งเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่ เนื่องจากในพื้นที่ภาคอีสานมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ค่อนข้างมากและเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ การแอบอ้างช่วยเหลือสอบบรรจุ โยกย้าย ที่มีการเรียกรับเงินรายละหลายแสนบาท ซึ่งหลายเรื่องก็ยังคงคั่งค้างอยู่
ดังนั้น จึงได้ลงมากำชับให้เร่งดำเนินการสืบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ตามมติ ครม.วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา หรือลดหย่อนได้ตามความเหมาะสม แต่การสอบต้องแล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากเป็นกรณีรุนแรงหรือพบมีมูลก็ต้องให้ย้าย หรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ส่วนเรื่องร้องเรียนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ก็ได้เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เร่งรัดดำเนินการเรื่องที่ยังคั่งค้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งแม้จะไม่กำหนดเวลาก็จะดูจากการทำงานหากพบยังมีความล่าช้า ก็จะต้องรายงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการ สพฐ. ในฐานผู้บังคับบัญชาโดยตรงเพื่อให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด
ส่วนกรณีที่มีผู้เสียหาย 5 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครูอัตราจ้างได้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดี และร้องให้เอาผิดทางวินัยกับ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยกล่าวหาว่า ครูคนดังกล่าวมีพฤติกรรมหลอกเรียกรับเงินคนละ 200,000 บาท โดยอ้างว่า จะสามารถช่วยเหลือให้สอบบรรจุเป็นพนักงานราชการ หรือครูผู้ช่วย ในสังกัด สพป.เขต 4 จ.นครราชสีมา ได้ โดยให้จ่ายเงินก่อนล่วงหน้าคนละ 100,000 บาท เป็นค่าดำเนินการหรือวิ่งเต้น หากได้รับการบรรจุก็จ่ายเพิ่มอีกคนละ 100,000 บาท โดยผู้เสียหายทั้ง 5 คนได้หลงเชื่อจ่ายเงินให้กับครูคนดังกล่าวไปคนละ 100,000 บาท ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา แต่ผ่านไปนานกว่า 6 เดือน กลับไม่ได้มีการบรรจุจริงตามที่ครูคนดังกล่าวอ้าง
ล่าสุดทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เจ้าของคดี ก็จะได้นำสนวนที่สรุปแล้วเสร็จแล้ว 1 คดี จากทั้งหมด 4 คดี เสนอผู้บังคับบัญชาเซ็นตามขั้นตอน เพื่อส่งพนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องตามขั้นตอนภายในวันนี้ ส่วนที่เหลือก็จะทยอยสรุปส่งให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนครูที่ถูกกล่าวหา ขณะนี้ก็ได้เข้ามอบตัวตามหมายเรียก พร้อมใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัวสู้คดี โดยเบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์สินผู้อื่น”
ส่วนการสอบสวนเอาผิดทางวินัย ขณะนี้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ในฐานะต้นสังกัด ก็อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง คาดว่าจะแล้วเสร็จสามารถสรุปส่งศึกษาธิการจังหวัดได้ไม่เกินสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้ดำเนินการตั้งกรรมการกรรมการสอบวินัยตามขั้นตอน หากพบหลักฐานชัดเจนว่ามีการกระทำผิดจริง จะมีโทษสถานหนักคือ ไล่ออก หรือปลดออก ส่วนครูที่ถูกกล่าวหาก็ยังไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการสืบข้อเท็จจริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี