นายณรงค์พล พัฒนศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 กรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการชั่วคราวสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ได้ผลสรุปร่วมกันกับสหกรณ์เจ้าหนี้ทั้ง 15 แห่ง ถึงแผนการชำระหนี้เงินกู้และจ่ายคืนเงินฝาก ที่สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟจะได้นำไปปฏิบัติ โดยในแผนดังกล่าว สหกรณ์เจ้าหนี้ได้ตกลงลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกสัญญาลง 1% พร้อมทั้งยินยอมให้กำหนดดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ทุกบัญชีในอัตรา 4% และผ่อนปรนการชำระหนี้เงินกู้ในห้วง 2-3 เดือนแรก เพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ นำเงินส่วนนี้ไปเสริมสภาพคล่องที่จะสามารถจ่ายเงินกู้ให้กับสมาชิกของตนเองที่เดือดร้อนและยื่นคำขอกู้เงินรออยู่แล้วได้
“การหารือร่วมกันเป็นไปด้วยดีมีบรรยากาศที่เป็นมิตร มีไมตรีเห็นอกเห็นใจ และพร้อมใจกันที่จะร่วมกัน ช่วยกันแก้ไขปัญหาเพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟฯ สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้ จึงถือเป็นการช่วยเหลือตนเอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามวิถีสหกรณ์อย่างแท้จริง ซึ่งต่อจากนี้สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟฯ จะได้ส่งแผนดังกล่าวให้สหกรณ์เจ้าหนี้ทั้ง 15 แห่ง เพื่อให้คณะกรรมการของแต่ละสหกรณ์พิจารณาอย่างเป็นทางการ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วจะได้จัดทำเป็นข้อตกลงระหว่างสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟฯ กับสหกรณ์เจ้าหนี้แต่ละรายต่อไป ซึ่งกำหนดจะเริ่มดำเนินการตามแผนให้ทันในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 นี้และทุกฝ่ายได้ตกลงที่จะให้มีการประชุมร่วมกันเพื่อติดตามประเมินผลทุก 3 เดือน รวมทั้งเมื่อแผนดำเนินไปครบ 1 ปี ให้มีการพิจารณาทบทวนแผนร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง”
นายณรงค์พลกล่าวต่อว่า ในส่วนเจ้าหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟอีก 2 แห่ง ที่เป็นสถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด และธนาคารกรุงเทพ จำกัด นั้น คณะกรรมการชั่วคราวของสหกรณ์ฯ ได้เข้าพบเจรจาเพื่อขอผ่อนปรนการชำระหนี้แล้ว ในเบื้องต้นมีแนวโน้มที่เป็นไปด้วยดี ซึ่งผลการพิจารณาของธนาคารน่าได้ข้อสรุปในไม่ช้านี้ สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ที่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายของสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ
ในส่วนคดีอาญา รองนายทะเบียนสหกรณ์ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อคณะกรรมการฯ ชุดที่ 7-11 แทนสหกรณ์ไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อตั้งข้อหาของพนักงานสอบสวนของ สน.บางรัก และ สน.ปทุมวัน โดยคณะกรรมการชั่วคราวได้แต่งตั้งผู้แทนสหกรณ์ตามข้อบังคับ เพื่อไปดำเนินการทางคดีนี้ต่อไปแล้ว ในส่วนคดีแพ่งที่ต้องรับผิดทางละเมิด รองนายทะเบียนสหกรณ์ได้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการฟ้องร้องดำเนินคดีกับคณะกรรมการฯ ชุดที่ 7-11 เช่นเดียวกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการของสำนักงานอัยการสูงสุด และในส่วนของการเรียกเงินกู้คืนจากสมาชิกผู้กู้ 6 ราย ที่ผิดสัญญาชำระหนี้แล้วทั้ง 199 สัญญา วงเงินกว่า 2,200 ล้านบาท ขณะนี้คณะกรรมการชั่วคราวกำลังดำเนินการจัดจ้างทนายความเพื่อฟ้องร้องคดีเรียกหนี้คืนแล้ว นอกจากนั้นทางสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 ยังได้รับการประสานงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงพร้อมทั้งเรียกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไปเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วยแล้ว
ขอฝากให้สมาชิกทั้งฝ่ายสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟฯ และฝ่ายสหกรณ์เจ้าหนี้ทั้ง 15 สหกรณ์ เชื่อมั่นและมั่นใจในการแก้ไขปัญหาร่วมกันของสหกรณ์ของท่านในครั้งนี้ ซึ่งทางฝ่ายราชการในทุกระดับชั้นตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้กำชับ และสั่งการให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหานี้อย่างเต็มที่ เพื่อระงับความเสียหายและความเดือดร้อนของสมาชิกให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยได้ติดตามให้รายงานผลการปฏิบัติทุกระยะด้วยแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี