ตร.บุรีรัมย์ออกหมายจับ1ใน2โจรแสบอ้างตัวเป็นจนท.รัฐ หลอกตุ๋นเงินบริจาคสร้างโบสถ์เจ้าอาวาสวัดดังที่บุรีรัมย์สูญเกือบ3แสนแล้ว พบประวัติโชกโชนก่อเหตุหลอกพระตามวัดหลายจังหวัดภาคอีสานนับไม่ถ้วนโดยไม่เกรงกลัวบาปกรรม ส่วนอีกรายรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่ม พร้อมจัดทีมล่าตัว
24 พ.ค.61 จากกรณีที่มี 2 คนร้าย เป็นชายวัยกลางคน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทำงานที่ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ฉวยโอกาสไปเข้าไปหลอกลวงเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งในตำบลบ้านยาง อ.เมืองบุรีรัมย์ โดยใช้กลอุบายว่าจะสามารถเดินเรื่องของบประมาณรัฐ จำนวน 8 ล้านบาท เพื่อให้ทางวัดไปก่อสร้างโบสถ์ ที่ทางวัดกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ให้แล้วเสร็จ โดยชายมิจฉาชีพดังกล่าวได้ทำทีนำเอกสารมาให้เจ้าอาวาสเซ็น พร้อมขับรถพาเจ้าอาวาสไปยังศาลากลางจังหวัดที่อ้างว่าตัวเองทำงานอยู่ และมีการนำบัญชีธนาคารของทางวัดไปพิมพ์ตัวเลขปลอมขึ้น ทำทีเหมือนกับว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว 8 ล้านบาท มาให้เจ้าอาวาสดูจนทำให้เจ้าอาวาสตายใจหลงเชื่อ ยอมไปเบิกเงินในบัญชีที่ญาติโยมบริจาคทำบุญมาให้เพื่อใช้สำหรับก่อสร้างโบสถ์ 280,000 บาท ให้กับ 2 คนร้าย ตามที่ตกลงไว้ว่าหากได้รับงบประมาณแล้วจะต้องจ่ายค่าดำเนินการให้คนร้ายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าอาวาสที่ตกเป็นเหยื่อก็ได้เข้าแจ้งความ และร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยเหลือ
ล่าสุด ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ทราบเบาะแส 1 ในแก๊งคนร้ายแล้ว คือ นายอุดร ศรีพลัง ที่แอบอ้างตัวว่าชื่อ “นายมณี” ทำงานที่ศาลากลางจังหวัด ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ก็ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายอุดร ในข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์” แล้ว ทั้งนี้ จากการสอบประวัติพบว่านายอุดร มีหมายจับคดี “ฉ้อโกงทรัพย์” ในลักษณะดังกล่าวมาแล้วในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคอีสาน คือ จ.สุรินทร์ ชัยภูมิ ยโสธร ขอนแก่น นครราชสีมา และ จ.มุกดาหาร แต่ก็ไม่สำนึกหรือเกรงกลัวบาปกรรมล่าสุดยังมาก่อเหตุหลอกลวงเจ้าอาวาสวัด สูญเสียเงินไปถึง 280,000 บาท และขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบก็ได้จัดชุดออกติดตามล่าตัวแล้ว ส่วนผู้ต้องหาอีกรายที่ปรากฏในภาพวงจรปิดขณะพาเจ้าอาวาสไปถอนเงินที่ธนาคาร อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับเช่นกัน คาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้
ด้าน พ.ต.ท.กัมพล วงษ์สงวน รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากเจ้าอาวาสที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ทางชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายอย่างต่อเนื่อง จนทราบตัวผู้ก่อเหตุและได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับแล้ว 1 ราย ส่วนอีก 1 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนผู้ครอบครองรถคันที่ใช้ก่อเหตุก็กำลังอยู่ระหว่างเรียกตัวมาสอบปากคำ ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ พร้อมกันนี้ ยังได้ฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชน หรือพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ ที่อาจจะถูกแก๊งดังกล่าวเข้าไปหลอกลวงต้มตุ๋นแต่ยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความ ก็สามารถนำข้อมูลหลักฐานเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม หรือให้ข้อมูลเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ได้ เพื่อจะได้ใช้เป็นหลักฐานในการติดตามตัวแก๊งดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จะได้ไม่ไปหลอกลวงวัดอื่นๆ ซ้ำอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี